สกัด‘ฝีดาษลิง’ตั้งแต่สนามบิน

ศบค.รายงานพบติดเชื้อโควิดใหม่  4,099 คน เสียชีวิตลดลงเหลือ 29 ราย นายกฯ พอใจนักท่องเที่ยวเข้าไทยแล้วกว่า 1 ล้านคน หลังเปิดประเทศเต็มรูปแบบ เปิดเพิ่มด่านไทย-ลาว "ช่องเม็ก" ขณะที่กรมควบคุมโรคกางแผนสกัดฝีดาษลิง สแกนเข้มตั้งแต่สนามบิน

เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา  2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,099 ราย ติดเชื้อในประเทศ  4,097 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 4,085  ราย มาจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 12 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 2 ราย ไม่มีผู้ป่วยรายใหม่จากเรือนจำ หายป่วยเพิ่มขึ้น 8,856 ราย อยู่ระหว่างรักษา  51,006 ราย อาการหนัก 1,042 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ  521 ราย

เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 29 ราย เป็นชาย 15 ราย หญิง 14  ราย อายุ 60 ปีขึ้นไป 26 ราย มีโรคเรื้อรัง 2 ราย ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 1 ราย ขณะนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 4,415,593 ราย มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 4,334,812 ราย มียอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 29,775 ราย

ส่วนยอดฉีดวัคซีนวันที่ 22 พ.ค. จำนวน 74,932 โดส ยอดฉีดสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.64 จำนวน 136,615,909 โดส ขณะที่สถานการณ์โลกมีผู้ติดเชื้อสะสม  527,683,991 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 6,300,331 ราย

สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด ได้แก่ กทม.  1,425 ราย, สุรินทร์ 161 ราย, บุรีรัมย์ 149 ราย, นนทบุรี  94 ราย, สมุทรปราการ 94 ราย, ปทุมธานี 92 ราย,  ร้อยเอ็ด 87 ราย, ขอนแก่น 86 ราย, ชลบุรี 84 ราย และอุบลราชธานี 82 ราย

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พอใจตัวเลขนักท่องเที่ยวเข้าไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังรัฐบาลเปิดประเทศเต็มรูปแบบ  ขณะที่สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศมีแนวโน้มคงที่ ผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยพบว่าในช่วงเดือนมกราคม-22 พฤษภาคม 2565 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยแล้ว 1,016,103 ล้านคน        "นายกฯ คาดว่า การประกาศนโยบาย 'ปีส่งเสริมท่องเที่ยวไทย 2565-2566' หรือ Visit Thailand Year  2022-2023 สิ้นปี 2565 จะมีนักท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า  5,000,000 คน รัฐบาลคาดว่าภายในปี 2565 จะส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางภายในประเทศไม่น้อยกว่า  160 ล้าน คน/ครั้ง สร้างรายได้สู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 656,000 ล้านบาท"

โฆษกประจำสำนักนายกฯ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลมั่นใจว่านโยบายการฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยว โดยการขับเคลื่อนนโยบายเปิดประเทศ ที่ ศบค.ได้ผ่อนปรนมาตรการเข้าประเทศเริ่ม 1 มิถุนายน 2565 เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น แต่ยังคงต้องลงทะเบียนในระบบ Thailand Pass อยู่ เพียงกรอกเฉพาะข้อมูลที่จำเป็น ได้แก่ วัคซีน ประกัน และหนังสือเดินทาง  (รับ QR Code ทันทีหลังลงทะเบียนเสร็จ) ทั้งมาตรการภาครัฐเพื่อส่งเสริมบรรยากาศการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวไทย จะส่งเสริมให้ปี 2565 เกิดรายได้แก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยในภาพรวมได้ไม่น้อยกว่า  1.3-1.8 ล้านล้านบาท

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา ศบค.ได้อนุญาตให้เปิดด่านชายแดนถาวรอย่างเป็นทางการ 17  จังหวัด 31 ด่าน โดยขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละด่าน  ซึ่งด่านพรมแดนไทย-มาเลเซีย เช่นที่ จ.สงขลาและสตูล มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจอย่างมาก ส่งผลต่อเศรษฐกิจในพื้นที่อย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตามอาจมีบางจุดที่ยังไม่คึกคักเหมือนช่วงก่อนหน้าโควิด เพราะต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมของประเทศเพื่อนบ้านด้วย สำหรับในวันจันทร์ที่  23 พ.ค.นี้มีการเปิดด่านช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซามาอย่างยาวนาน และข่าวการเปิดด่านนี้ทางพื้นที่รายงานว่า ได้สร้างความดีใจให้ชาวลาวที่ต้องการเดินทางเข้ามาซื้อสินค้าและเยี่ยมญาติฝั่งไทยอีกด้วย

 นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผอ.กองระบาดวิทยา  กรมควบคุมโรค กล่าวถึงการเฝ้าระวังโรคฝีดาษลิง (Monkeypox) ภายหลังองค์การอนามัยโลกจัดประชุมฉุกเฉินรับมือโรคฝีดาษลิงว่า สธ.ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข (EOC) กรณีโรคฝีดาษลิง เพื่อเฝ้าระวังคัดกรองผู้เดินทางจากประเทศที่มีการระบาด  ช่วยให้ตรวจจับกลุ่มเสี่ยงได้รวดเร็วขึ้น และป้องกันการแพร่ระบาดในประเทศไทย หลังพบการแพร่ระบาดในหลายประเทศ และสามารถติดต่อจากคนสู่คน ทั้งนี้ สธ.ต้องยกระดับศูนย์เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถรับมือได้ทัน เพราะโรคนี้ยังไม่มียารักษาเฉพาะ ต้องรักษาแบบประคับประคอง

 ผอ.กองระบาดวิทยากล่าวว่า สำหรับมาตรการที่สนามบินจะมีการคัดกรองผู้เดินทางจากแอฟริกากลาง  อาทิ ไนจีเรียและคองโก และประเทศในยุโรปที่มีการแพร่ระบาดภายในประเทศ คือ อังกฤษ, สเปน และโปรตุเกส  โดยการคัดกรองจะมีการดูว่าผู้เดินทางมีแผลหรืออาการอื่นใดหรือไม่ พร้อมแจกบัตรเตือนสุขภาพ (Health Beware  Card) เป็นคิวอาร์โค้ดให้สแกนทุกคนที่เดินทางมาจากประเทศดังกล่าว ซึ่งจะระบุว่าหากมีอาการ เช่น ไข้ มีตุ่ม ให้รายงานเข้าระบบและรีบไปพบแพทย์ใน รพ.ที่ใกล้ที่สุด  รวมถึงแจ้งประวัติการเดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยงให้เจ้าหน้าที่ทราบ

นพ.จักรรัฐกล่าวถึงโรคฝีดาษลิงที่ระบาดในยุโรปว่า  โรคนี้เกิดประปรายในแอฟริกามานานหลายปี แต่ที่ผ่านมาไม่มีคนไปนำโรคออกมานอกภูมิภาค แต่ครั้งนี้มีคนไปนำโรคออกมา ติดเชื้อมาจากประเทศในแอฟริกาและบินกลับ นำเชื้อเข้ายุโรปทั้งอังกฤษ, สเปน, โปรตุเกส จากนั้นติดเชื้อหลายกลุ่ม แต่กลุ่มที่มีการระบาดค่อนข้างมากในร้อยกว่าราย มีหลายคลัสเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มชายรักชาย  แต่จริงๆ แพร่ได้หมดไม่ว่าจะเป็นใครหากมีการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ ทั้งนี้กลุ่มผู้ติดเชื้อที่เจอในแต่ละประเทศในยุโรปไม่ได้เกี่ยวข้องกัน แต่เป็นการนำเชื้อมาจากประเทศแถบแอฟริกา ซึ่งเมื่อหลุดออกมาจากแอฟริกาเข้ายุโรปแล้ว จากนี้ก็อาจเกิดการแพร่ข้ามประเทศในยุโรปกันเอง

ด้าน นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า การติดเชื้อโรคฝีดาษลิงในคนสู่คน เกิดจากการสัมผัสแลกเปลี่ยนสารคัดหลั่ง ละอองฝอยน้ำลาย รวมถึงเลือด กรณีที่มีแผลจึงทำให้ติดเชื้อได้ ฉะนั้นความคิดว่าส่วนใหญ่จะติดเชื้อในกลุ่มคนรักร่วมเพศจึงไม่ถูกต้อง เพราะสามารถติดได้ทุกคน เป็นการติดเชื้อในลักษณะใกล้ชิดกันมาก อย่างไรก็ตามการติดเชื้อไม่ได้ง่ายเหมือนโควิด-19 และมีความน่ากังวลน้อยกว่าโรคฝีดาษคน  (Smallpox) ขณะนี้กรมวิทยาศาสตร์ฯ ได้ตั้งห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจหาเชื้อโรคฝีดาษลิงในผู้ที่สงสัยว่าจะติดเชื้อแล้ว  หากผู้ที่มีผื่นหรือตุ่มหนองตามร่างกาย สถานพยาบาลสามารถสวอบเชื้อบริเวณแผล ส่งตรวจ RT-PCR ได้ที่แล็บซึ่งมีน้ำยาตรวจเฉพาะ และใช้เวลารอผลเหมือนกับการตรวจโควิด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง