‘ลอยกระทง’รับเปิดประเทศ

ติดเชื้อโควิดรายวันเริ่มขยับสูงขึ้น แต่เสียชีวิตยังต่ำ ขณะที่คนไทยฉีดวัคซีนสะสมแล้วร่วม 75 ล้านโดส จังหวัดชายแดนใต้ เชียงใหม่ยังติดเชื้อสูง รับเปิดประเทศ! โฆษกรัฐบาลแจง นายกฯ อนุมัติจัดงานลอยกระทงได้

เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2564 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์โควิด-19 ว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9,224 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 9,091 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 8,832 ราย, มาจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 259 ราย,  จากเรือนจำและที่ต้องขัง 126 ราย และเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 7 ราย 

ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่ปี 63 จำนวน 1,903,165 ราย ผู้รักษาหายป่วยเพิ่ม 8,305 ราย ยอดรวมหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 63 จำนวน 1,783,875 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 100,132 ราย อาการหนัก 2,217 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 496 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 88 ราย เป็นชาย 38 ราย หญิง 50 ราย เป็นผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 61 ราย มีโรคเรื้อรัง 20 ราย มากที่สุดกทม. 13 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 63 จำนวน 19,158 ราย

 ขณะที่การฉีดวัคซีนวันที่ 29 ต.ค. 1,002,392 โดส ฉีดสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. 74,694,431 โดส ส่วนสถานการณ์โลกมีผู้ติดเชื้อสะสม 246,743,439 ราย เสียชีวิต 5,004,370 ราย

สำหรับจังหวัดผู้ติดเชื้อมากที่สุด 10 จังหวัด ได้แก่ กทม. 758 ราย, ปัตตานี 666 ราย, นครศรีธรรมราช 554 ราย,  สงขลา 548 ราย, ยะลา 425 ราย,  เชียงใหม่ 414 ราย, ชลบุรี 340 ราย,  นราธิวาส 290 ราย, ตาก 281 ราย,  ประจวบคีรีขันธ์ 281 ราย

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีคนไทยที่ต้องการเดินทางกลับประเทศโดยไม่ต้องกักตัว หากฉีดวัคซีนครบโดสก่อนเดินทางอย่างน้อย 14 วันแล้ว สามารถเดินทางเข้าไทยได้ทางอากาศโดยไม่ต้องกักตัว เช่นเดียวกับการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ 45 ประเทศและฮ่องกง บนเงื่อนไข ดังนี้

1.พำนักอยู่ในพื้นที่ประเทศที่ได้รับอนุญาตติดต่อกันไม่น้อยกว่า 21 วัน (ยกเว้นกรณีผู้ที่พำนักอยู่ในไทยที่เดินทางจากไทยเข้าพื้นที่ 45 ประเทศ และฮ่องกง สามารถใช้สิทธิ์ไม่กักตัวได้ แม้จะอยู่ในประเทศเหล่านี้ไม่ถึง 21 วัน โดยต้องไม่แวะหรือไปพำนักที่ประเทศอื่นนอกเหนือจาก 45 ประเทศและฮ่องกงก่อนเดินทางกลับไทย)

2.จองและจ่ายค่าห้องพักที่โรงแรม SHA+ หรือ Alternative Quarantine (AQ) 1 คืน เพื่อตรวจโควิด-19 ในวันแรกที่เดินทางถึงไทย และต้องรอที่โรงแรมจนกว่าจะได้รับแจ้งผลตรวจเป็นลบ หากได้รับผลตรวจเป็นลบสามารถเดินทางไปพื้นที่/จังหวัดอื่นได้

3.ต้องใช้ผลตรวจโควิดแบบ RT-PCR อายุไม่เกิน 72 ชม. ก่อนขึ้นเครื่อง

4.คนไทยไม่ต้องใช้ประกันสุขภาพ (แต่ต่างชาติต้องใช้ประกันสุขภาพวงเงินไม่ต่ำกว่า 50,000 USD)

รองโฆษกฯ กล่าวว่า สำหรับคนไทยที่ไม่ได้เดินทางมาจาก 45 ประเทศและฮ่องกง หรือผู้ที่ไม่ได้อยู่อย่างต่อเนื่องกันอย่างน้อย 21 วัน แต่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว สามารถเดินทางเข้าไทยทางอากาศได้โดยไม่ต้องกักตัว แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขโครงการ Sandbox โดยต้องจองและจ่ายค่าห้องพักที่โรงแรม SHA+ 7 วัน ในพื้นที่ Sandbox ซึ่งจะขยายรวมถึงกรุงเทพฯ ตั้งแต่ 1 พ.ย. 2564 เพิ่มเติมจากภูเก็ตและสมุย และต้องตรวจโควิด-19 ในวันแรกที่เดินทางถึงไทย และตรวจครั้งที่ 2 ในวันที่ 6 หรือ 7 ซึ่งเมื่อครบกำหนด 7 วันแล้ว จึงจะสามารถเดินทางไปพื้นที่/จังหวัดอื่นๆ ได้ ในส่วนคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนหรือฉีดวัคซีนไม่ครบโดส ยังคงต้องกักตัว 10 วัน แต่หากเดินทางเข้าประเทศทางบก ต้องกักตัว 14 วัน ในสถานที่ที่ได้กำหนดไว้ ทั้งนี้ จะมีการยกเลิกระบบการลงทะเบียนเพื่อขอหนังสือรับรอง COE ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2564 เป็นต้นไป โดยจะใช้ระบบใหม่คือ Thailand Pass ซึ่งจะสะดวกและรวดเร็วกว่าเดิม

น.ส.รัชดาเปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม อนุมัติให้หน่วยงานสามารถจัดงานประเพณีลอยกระทง พ.ศ.2564 เพื่ออนุรักษ์ สืบสานและส่งเสริมประเพณีลอยกระทงที่ทรงคุณค่า โดยอาศัยหลักมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร (COVID-Free Setting) และการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) โดยมีแนวทางและมาตรการรณรงค์ในการจัดงานประเพณีลอยกระทง ดังนี้

1.ขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยและบังคับใช้อย่างเคร่งครัด เช่น ห้ามปล่อยโคมลอย งดเล่นดอกไม้ไฟ พลุ ประทัด รณรงค์ลอยกระทงปลอดเหล้า เป็นต้น

2.ให้หน่วยงานที่เกี่ยวกับการจราจรทั้งทางบกและทางน้ำ ตรวจสอบความเรียบร้อยของยานพาหนะที่จะใช้รับ-ส่งประชาชนในช่วงประเพณีลอยกระทง

และ 3.ขอความร่วมมือผู้จัดงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงวัฒนธรรม โดยการควบคุมผู้ร่วมงานไม่ให้แออัด สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา กำหนดให้เว้นระยะห่างทางสังคมในทุกกิจกรรม

รองโฆษกฯ กล่าวว่า ในด้านการเตรียมความพร้อมสถานที่ ให้ทุกสถานที่ที่จัดงานประเพณีลอยกระทงจะต้องมีจุดคัดกรองอุณหภูมิ จัดให้มีจุดลงทะเบียนไทยชนะก่อนเข้าและออก จุดบริการเจลแอลกอฮอล์ จัดจุดทิ้งขยะที่มีฝาปิดมิดชิด ทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสทั้งก่อนและหลังการจัดงาน และทำความสะอาดห้องสุขาทุก 1-2 ชั่วโมง หากภายในงานมีการแสดงให้ทำความสะอาดก่อนและหลังการแสดงทุกรอบ

"ในส่วนการจัดงานลอยกระทง นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ผู้จัดงานและหน่วยงานต้องดำเนินการตามมาตรการกำกับดูแลความปลอดภัย และมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยต้องตรวจความพร้อมก่อนถึงวันงาน 1 สัปดาห์ หากพบว่าไม่มีความพร้อมจะระงับไม่ให้จัดงาน” น.ส.รัชดากล่าว

 กรุงเทพโพลล์ โดยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ สำรวจความคิดเห็นประชาชนเรื่อง “ความหวังคนไทยกับการเปิดประเทศ หลังสถานการณ์โควิด-19” โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,173 คน พบว่า คนไทยส่วนใหญ่ร้อยละ 51.1 หวังว่าการเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้ ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น รองลงมาร้อยละ 43.4 หวังว่าจะเกิดผลดีกับธุรกิจร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ และร้อยละ 42.7 หวังว่าจะสร้างงาน สร้างรายได้ให้ประชาชน

เมื่อถามว่า “การเปิดประเทศวันที่ 1 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ กังวลกับเรื่องดังต่อไปนี้หรือไม่ ว่าจะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด -19” พบว่า เรื่องที่กังวลมากที่สุดคือ อนุญาตให้เปิดผับ บาร์ คาราโอเกะ ภายในวันที่ 1 ธันวาคม คิดเป็นร้อยละ 72.0 รองลงมาคือ นักท่องเที่ยวต้องฉีดวัคซีนครบแล้ว มาจากประเทศที่ความเสี่ยงต่ำ ไม่ต้องกักตัว คิดเป็นร้อยละ 66.5 และร้อยละ 62.4 ให้ 4 จังหวัดนำร่องท่องเที่ยวขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารได้ (กทม.-กระบี่-พังงา-ภูเก็ต)

เมื่อถามว่า การเปิดประเทศวันที่ 1 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ กังวลต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 มากน้อยเพียงใด พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 72.0 กังวลค่อนข้างมากถึงมากที่สุด ขณะที่ร้อยละ 28.0 กังวลค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด

สุดท้ายเมื่อถามความคิดเห็นว่า “ในภาพรวมคิดว่าการเปิดประเทศวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้ ประเทศจะเป็นอย่างไร” พบว่า กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 46.3 คิดว่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ร้อยละ 27.5 คิดว่าจะทำให้แย่ลง ส่วนร้อยละ 26.2 คิดว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง