เคาะเกณฑ์ธุรกิจกัญชา ‘คนไทย’20ปีขึ้นไปยื่นได้

“ศุภชัย” ยัน กมธ.กฎหมายกัญชายังไม่เคาะจำนวนปลูกของแต่ละครัวเรือน แต่แย้ม 10 ต้นน่าจะเพียงพอ  คลอดเกณฑ์เบื้องต้นทำธุรกิจ เปิดกว้างให้คนไทยที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไปยื่นขอได้ แม้แต่อดีตผู้ต้องหาเสพยาหากพ้นโทษมา 3 ปี ปชป.ยื่น “ชวน” หวังเป็นเขตปลอดใช้เหมือนศิริราช กห.สั่งกำลังพลห้ามพี้-ห้ามปุ๊น

เมื่อวันศุกร์ที่ 24 มิ.ย. นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ….. กล่าวถึงการให้ปลูกกัญชาได้ครัวเรือนละ 10 ต้น ว่ายังไม่ได้ข้อสรุป ต้องรอมติจาก กมธ.ก่อน แต่พร้อมเปิดรับฟังข้อมูลจากทุกฝ่ายในทุกประเด็น พร้อมกำหนดกรอบการพิจารณาที่ควรมีอยู่ในร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ทั้งจำนวนการปลูก ปลูกประเภทใดบ้าง ปลูกในครัวเรือน และปลูกในเชิงการพาณิชย์ ได้จำนวนกี่ต้น รวมถึงการกำหนดขนาดต้น

“การพิจารณากฎหมายฉบับนี้กำลังเร่งให้ทันตามกรอบเวลา 90 วัน ส่วนการปลูกบ้านละ 10 ต้น มองว่าเพียงพอต่อการใช้สอยในครัวเรือนแล้ว หรืออาจขออนุญาตปลูกเพิ่มได้ในครัวเรือนที่มีผู้ป่วย”นายศุภชัยระบุ

นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษก กมธ.วิสามัญฯ แถลงว่า ที่ประชุม กมธ.ห่วงกรณีเด็กและเยาวชนที่อาจเข้าถึงกัญชา รวมถึงการนำเสนอข่าวที่บิดเบือนจากข้อเท็จจริงกรณีผู้เสียชีวิตว่ามาจากกัญชา ขอให้สื่อมวลชนระมัดระวังนำเสนอ โดยต้องมีข้อเท็จจริงรองรับด้วย นอกจากนั้นยังได้เชิญผู้แทนจากกระทรวงการต่างประเทศมาให้ข้อมูลก่อนแสดงความเห็นต่อคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดระหว่างประเทศ เนื่องจากไทยอยู่ภายใต้อนุสัญญาเดี่ยวว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ ค.ศ.1961 ว่าไทยจะมีวิธีการดูแลเรื่องปัญหายาเสพติด รวมถึงมาตรการปลดล็อกกัญชาอย่างไร โดยจะใช้รูปแบบในต่างประเทศในการดูแลประชาชนอย่างเหมาะสม 

 นายปานเทพกล่าวอีกว่า กมธ.ยังได้พิจารณาสาระสำคัญและเห็นพ้องในการบรรจุคุณสมบัติผู้ขออนุญาตในการทำธุรกิจเกี่ยวกับกัญชา ไม่ว่าจะเป็นจำหน่าย ผลิต นำเข้า ส่งออก และขาย โดยเบื้องต้นกำหนดว่า บุคคลธรรมดาทั่วไป ต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย มีถิ่นที่อยู่อาศัยในประเทศไทย มีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต ไร้ความสามารถ ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย ไม่เคยต้องคำพิพากษาจำคุกคดีความผิดเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ยกเว้นมีบทเฉพาะกาลให้ไว้เกี่ยวกับความผิดกัญชา กัญชง และกระท่อมในอดีต และยังเปิดช่องให้ผู้เคยเสพยาเสพติดหรือกระทำความผิดได้ที่กลับมาเป็นพลเมืองดี หากพ้นโทษแล้ว 3 ปี สามารถมาประกอบธุรกิจกัญชาได้ 

 “นิติบุคคลคล้ายกับบุคคลธรรมดาทั่วไป แต่ผู้แทนนิติบุคคลต้องเป็นคนไทย คือมีสัญชาติไทย และกรรมการนิติบุคคลหรือผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 2 ใน 3 ต้องมีสัญชาติไทย และมีสำนักงานในประเทศไทย ส่วนกรณีวิสาหกิจชุมชนที่ไม่เป็นนิติบุคคล ก็สามารถเป็นผู้ขออนุญาตได้เช่นกัน หรือกรณีของหน่วยงานรัฐก็ได้ การกำหนดคุณสมบัติดังกล่าว เพื่อป้องกันการกีดกันการทำธุรกิจกัญชา ต้องการให้ประชาชนได้ประโยชน์ เข้าถึงง่าย ไม่ได้เอื้อต่อเครือข่ายธุรกิจนายทุน แต่เราทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนโดยรวม”นายปานเทพระบุ 

วันเดียวกัน นายพิสิฐ ลี้อาธรรม ส.ส. บัญชีรายชื่อ, นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.ระยอง และนายประกอบ รัตนพันธ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่าน นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาฯ ขอให้พื้นที่รัฐสภาเป็นพื้นที่ปลอดกัญชาและกัญชง

 โดยนายพิสิฐกล่าวว่า โรงพยาบาลศิริราชได้ออกประกาศให้พื้นที่ของโรงพยาบาลปลอดกัญชาและกัญชง จึงอยากให้รัฐสภาดำเนินการในลักษณะเดียวกัน

 ขณะที่ นพ.บัญญัติกล่าวว่า ในพื้นที่ จ.ระยอง ได้รับเรื่องร้องเรียนจากพ่อค้า แม่ค้า เพราะขายข้าวแกงไม่ได้ เนื่องจากผู้ปกครองกังวลเด็กๆ และเยาวชนจะบริโภคแกงถุงที่อาจจะมีกัญชาผสมอยู่ เพราะพ่อค้าแม่ค้าเองก็อยากให้อาหารอร่อย ดังนั้นสภาที่มีหน้าที่ออกกฎหมาย จึงต้องรีบพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ให้แล้วเสร็จ นอกจากนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยังประกาศให้พื้นที่โรงเรียนเป็นพื้นที่ปลอดจากกัญชา กัญชง พรรค ปชป.จึงอยากให้รัฐสภาปลอดการใช้กัญชา กัญชงด้วย

พ.อ.​จิตนาถ ปุณโณทก รองโฆษกกระทรวงกลาโหม​ (กห.) กล่าวว่าถึงการประชุมสภากลาโหมครั้ง 6/2565 ว่า พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​   ได้กำชับ​ในเรื่องการใช้ปลูก ​นำเข้า มีไว้ และครอบครองซึ่งกัญชา​ กัญชง​ โดยให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม เหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ​ สร้างการรับรู้ให้กับกำลังพลครอบครัวและประชาชนได้ทราบถึงประโยชน์​โทษ​ ภัย  และ​ข้อปฏิบัติ​ระมัดระวังในการใช้ ​การปลูก นำเข้า​ มีไว้ และครอบครองซึ่งกัญชา​ กัญชง โดยให้สำนักงานปลัด กห.เร่งจัดทำแนวทางปฏิบัติ ​เพื่อควบคุมการใช้​ของกำลังพลในกระทรวง ​โดยให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นเน้นย้ำกำกับดูแล​ในการเข้าถึงกัญชา กัญชงอย่างถูกต้องตามกฎหมาย​

 “กห.มีกำลังพลภายใต้การปกครอง จึงสั่งให้หน่วยรับผิดชอบ​ออกระเบียบคำสั่งให้สอดรับกับประกาศกระทรวงสาธารณสุข​คือ​ เรื่องของการนำเข้า การใช้ ให้อยู่ภายใต้การรักษาทางการแพทย์​ ห้ามใช้ด้านการสันทนาการ และในหน่วยทหาร ห้ามให้มีการใช้และบริโภคโดยเด็ดขาด​” พ.อ.จิตนาถกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง