ชทพ.จี้รัฐบาลดูแลชาวนา ‘เพื่อไทย’บี้อุ้มผู้ปลูกลำไย

พรรคร่วมรัฐบาลเปิดศึกกันเองอีก "ณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ" ซัดแหลกเอาเงินชาวนากลับคืนมา เลิกซื้อ F35 เรือดำน้ำ ควันหลงซักฟอก "ก้าวไกล" ขู่ยื่นต่อป.ป.ช. สอบทุจริตโครงการก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.9 ของกองทัพแน่นอน

เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2565 นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ส.ส.สุพรรณบุรี   พรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาราคาผลิตผลเกษตรกรรม กล่าวถึงกรณีเงินช่วยเหลือชาวนา ปี 2564/2565 ที่กำลังจะถูกยกเลิกในงบประมาณปี 2566 เนื่องจาก กรมการข้าวได้นำเสนอโครงการใหม่เพื่อช่วยเหลือชาวนา แต่มีความซ้ำซ้อนกับโครงการเดิม จึงจำเป็นต้องยกเลิกว่า เห็นด้วยในหลักการที่ต้องการลดต้นทุนการผลิต เพราะโครงการเดิมก็ใช้จำนวนเงินต่อปีสูงมาก เป็นภาระต่องบประมาณแผ่นดิน แต่ทั้งนี้ก็อยากให้ร่วมกันพิจารณาอย่างถี่ถ้วนเสียก่อนว่า

1.โครงการใหม่จะสามารถดำเนินการลดต้นทุนได้จริงหรือไม่ 2.ชาวนาได้รับประโยชน์อย่างทั่วถึงหรือไม่ และใครเป็นผู้ดูแลบำรุงรักษาเครื่องจักรการเกษตรที่จัดซื้อ 3.เกษตรกรผู้ปลูกข้าวจะต้องได้รับเงินเต็มตามจำนวนไม่รั่วไหล นอกจากนี้ตนอยากฝากไปยังกรมการข้าว คำนึงถึงต้นทุนการผลิต เช่น ปุ๋ย น้ำมัน ยาฆ่าแมลง ค่าครองชีพ ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นกว่าเดิมมากหลายเท่าด้วย และให้มองยาวไปจนถึงการประกันราคาข้าวให้เกษตรกรที่จะเหมาะสมกับสภาวการณ์ในขณะนี้

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณัฐวุฒิยังได้โพสต์เฟซบุ๊กที่ระบุถึงการยกเลิกเงินช่วยเหลือชาวนาอีก โดยระบุข้อความว่า  “เพลงตื่นเถิดชาวนา ตื่นเถิดชาวนา อย่าหลับใหลลุ่มหลง ชาติจะเรืองดำรง ก็เพราะเราทั้งหลาย ถ้ามัวหลับมัวหลง เราก็คงไม่ได้ #ซื้อเครื่องบิน F35 ราคา 13,800 ล้าน คืนไป/ชื้อโดรน 4,000 ล้าน คืนไป/เรือดำน้ำ กว่า 20,000 ล้าน คืนไป #เอาเงินชาวนากลับคืนมา"

ด้านนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณียื่นเรื่องดำเนินการต่อภายหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ว่า เบื้องต้นพรรค ก.ก.ได้มีการคุยกันถึงเรื่องดังกล่าว แต่อาจจะไม่ยื่นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทุกคน เนื่องจากแต่ละเรื่องจะมีเนื้อหาแตกต่างกัน โดยต้องเลือกว่าเนื้อหาเหล่านั้นยื่นกับหน่วยงานใด อาทิ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ศาลรัฐธรรมนูญ เป็นต้น

เมื่อถามว่า พรรค ก.ก.จะมีการยื่นเรื่องใดบ้าง นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า เรื่องที่ตนได้อภิปรายไปคือเรื่องการยื่นทรัพย์สินเท็จของ รมว.คมนาคม จะยื่นต่อป.ป.ช.แน่นอน รวมถึงเรื่องของการทุจริตโครงการก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.9 ของกองทัพ ที่มีผู้อภิปรายคือนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. ทั้งนี้ ไม่ได้กำหนดว่าจะมีการยื่นวันไหน เพราะต้องให้ฝ่ายกฎหมายและทีมงานไปศึกษาว่าเรื่องที่จะดำเนินการยื่นต่อหน่วยงานไหน ถึงจะมีประสิทธิภาพสูงสุด 

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา และประธานคณะทำงานด้านการเกษตรพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ส.ส.ภาคเหนือพรรคเพื่อไทยในหลายจังหวัดเรียกร้องให้รัฐบาลใส่ใจความทุกข์ร้อนชาวสวนลำไยภาคเหนือ ขณะนี้ราคาลำไยดิ่งเหว ต่ำสุดในรอบ 30 ปี สวนทางราคาสินค้าเกษตรโลกพุ่งสูง แต่สินค้าเกษตรไทยราคาตกต่ำ อนุญาตปุ๋ยขึ้นราคาซ้ำเติมเกษตรกร ถามความล้มเหลวนี้เพราะรัฐบาลไร้น้ำยา มีของแล้วขายไม่เป็น หรือเพราะห่วงแต่พวกพ้อง จะแก้กติกาเลือกตั้งให้เข้าข้างฝ่ายตนเอง หวังเข้าสภา แต่ไม่คิดแก้ปัญหาประชาชน

 นายวิสุทธิ์กล่าวว่า รัฐบาลประยุทธ์ทำลายหัวใจเศรษฐกิจภาคเหนือทั้ง 2 ส่วนลงอย่างย่อยยับ ทั้งภาคการท่องเที่ยวบริหาร และภาคเกษตรกรรม ซึ่งในภาคเกษตรกรรมนั้น ทราบหรือไม่ว่า ลำไยก็เป็นพืชเศรษฐกิจ โดยประเทศไทยเป็นผู้ผลิตลำไยอันดับ 2 ของโลกรองจากจีน มีผลผลิตปีละกว่า 1 ล้านตัน และเราเป็นประเทศที่มีการส่งออกลำไยรายใหญ่ที่สุดของโลก ทั้งในรูปผลสด แช่แข็ง และอบแห้ง โดยพื้นที่ปลูกลำไยทั้งประเทศ 1.7 ล้านไร่ อยู่ในภาคเหนือ 1.3 ล้านไร่ สร้างเม็ดเงินให้ประเทศปีละเกือบ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งตลอดหลายปีหลายเดือนที่ผ่านมา ฝ่ายค้านยื่นกระทู้สดสอบถาม  หอบลำไยเข้าสภาแถลงข่าวประท้วง ทำทุกวิธีการเพื่อส่งสัญญาณถึงรัฐบาลให้เตรียมการรับมือปัญหาลำไยล่วงหน้า แต่สำหรับปีนี้ จนกระทั่งวันนี้ ยังไม่ได้ยินรัฐบาลพูดถึงเรื่องลำไยเลยสักครั้ง

 สิ่งที่ชาวสวนลำไยเผชิญอยู่ตอนนี้มี 3 เรื่อง คือ 1) ราคาลำไยตกต่ำ ขณะนี้กลางฤดู ลำไยเกรด AA จากที่เคยขายได้ 28 บาท วันนี้เหลือแค่ 10-12 บาท ไม่พอค่าแรงเก็บเกี่ยว และน่าเป็นห่วงปลายฤดูกาลราคาจะยิ่งต่ำกว่านี้  2) ราคาปุ๋ย แพงขึ้นเท่าตัว ซึ่งหมายความว่าชาวสวนลำไยไม่ใช่ขายได้เท่าทุนหรือขาดทุนนิดหน่อย แต่เป็นการขาย ‘ขาดทุน’ ต้นทุนไปกว่าครึ่ง เป็นหนี้สินพอกพูน และ 3) ถูกรัฐบาล ‘โกหก’ ไม่จ่ายค่าชดเชยไร่ละ 2,000 บาท เรื่องนี้ผ่านมาแล้ว 1 ปี ชาวสวนลำไยยังไม่ได้รับเงินชดเชยแบบที่รัฐบาลสัญญาไว้ และยังไม่รู้ว่าจะได้รับการดูแลเหมือนพืชเศรษฐกิจชนิดอื่นหรือไม่ อยากได้ยินรัฐบาลพูดบ้างว่าจะจัดการปัญหานี้อย่างไร.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง