บิ๊กตู่อยู่ต่อไม่ยุบสภา ปัดประกาศกกต.ส่งซิก ฝ่ายค้านยื่นตีความ8ปี

"บิ๊กตู่" สยบข่าวลือ ลั่นไม่ยุบสภา! ขอเดินหน้าทำงานให้ ปชช.ช่วงเวลาที่เหลือ เกือบวุ่นราชกิจจาฯ แพร่ระเบียบ กกต.ว่าด้วยเงื่อนไข "ครม.รักษาการ" ระหว่างอายุสภาสิ้นสุดลงช่วงกระแสร้อน "วิษณุ" รีบปัดส่งซิกโยงปม 8 ปีนายกฯ เฉลยบอกไทมิงนี้เหมาะสม ชี้เข้าสู่โหมดเลือกตั้งอีก 6-7 เดือนสภาหมดวาระ "ฝ่ายค้าน" ยื่น "ชวน" ส่งต่อ "ศาลรธน." วินิจฉัยวาระ 8 ปีนายกฯ "ชลน่าน" รับ กม.เปิดช่อง "ประยุทธ์" ลากยาวรักษาการนายกฯ "ผบ.ทบ." ขอทุกฝ่ายคิดบวก ทำตามหน้าที่ให้ ปชช.อยู่ดีมีสุข ไม่หวั่นเปลี่ยนขั้วการเมือง

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 17 ส.ค. พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ครั้งที่ 4/2565 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยระหว่างเดินเข้าห้องประชุม นายกฯ ได้หันมาทักทายสื่อมวลชนแต่ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ

จากนั้นภายหลังการประชุม ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามถึงกรณีกระแสข่าวการยุบสภา พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธตอบคำถาม ก่อนเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปทันทีด้วยสีหน้าเรียบเฉย โดยมอบหมายให้นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ตอบคำถามแทน 

นายธนกรกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ยืนยันไม่มีการยุบสภา จะเดินหน้าทำงานให้กับประชาชนอย่างเต็มที่ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ 

ถามว่ามีการวิเคราะห์กันหรือไม่ว่าทำไมทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีการเผยแพร่ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการใช้ทรัพยากรของรัฐหรือบุคลากรของรัฐเพื่อกระทำการใด ซึ่งจะมีผลต่อการเลือกตั้ง พ.ศ. 2563 ในช่วงเวลานี้พอดี นายธนกรกล่าวว่า เรื่องนี้คงตอบแทน กกต.ไม่ได้ และคงไม่ไปก้าวล่วง และไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมถึงเพิ่งประกาศใช้ระเบียบฯ ฉบับดังกล่าว 

"เชื่อว่าคงไม่ใช่การเตรียมพร้อมหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองแต่อย่างใด เพราะหากย้อนไปก่อนหน้านี้ กกต.เตรียมความพร้อมเลือกตั้งมาตลอด ทั้งในส่วนของการเลือกตั้งท้องถิ่น การเลือกตั้งเมืองพัทยา และการเลือกตั้ง กทม. ที่เตรียมการมาตลอดเวลาอยู่แล้ว" นายธนกรกล่าว

ถามย้ำว่า หลายฝ่ายมองว่าการออกระเบียบดังกล่าวมาในช่วงใกล้ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาปมวาระ 8 ปี เป็นการส่งสัญญาณยุบสภา โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า คงไม่ใช่ ขอย้ำว่านายกฯ ยืนยันไม่มี และบอกแล้วว่าเวลาที่เหลืออยู่ขอทำงานให้ประชาชนเต็มที่ ส่วนตัวมองว่าวันนี้ประเทศกำลังฟื้นตัว ทั้งในด้านเศรษฐกิจและสถานการณ์โควิดกำลังจะคลี่คลาย ดังนั้นสิ่งที่นายกรัฐมนตรีดำเนินการเป็นผลดีกับประเทศ จึงไม่อยากให้การเมืองมาทำลายบรรยากาศให้ประเทศมีปัญหา ขอให้นายกฯ ได้ใช้เวลาทำเพื่อประชาชนจะดีกว่า 

พอถามว่า ในเมื่อนายกฯ ยืนยันจะไม่มีการยุบสภา แล้วได้มีการวิเคราะห์หรือไม่ทำไมจึงมีกระแสข่าวออกมาในช่วงนี้ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า คงเป็นมุมมองที่หลากหลาย นายกฯ ไม่ได้สนใจและไม่ได้ใส่ใจ นายกฯ ย้ำว่าไม่มียุบสภาอะไรทั้งนั้น

ทั้งนี้ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยการใช้ทรัพยากรหรือบุคลากรของรัฐเพื่อกระทำการใด ซึ่งจะมีผลต่อการเลือกตั้ง พ.ศ.2563 โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค.65 เป็นต้นมา 

ระเบียบดังกล่าว เป็นการกำหนดเงื่อนไขการทำหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีรักษาการระหว่างที่อายุสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง หรือมีการยุบสภาเพื่อให้เกิดความเสมอภาคและโอกาสทัดเทียมในการเลือกตั้ง สาระสำคัญมี 6 ข้อ เป็นการกำหนดเงื่อนไขไม่ให้คณะรัฐมนตรีระหว่างรักษาการใช้ทรัพยากรของรัฐ หรือบุคลากรของรัฐ ที่มีผลต่อการเลือกตั้ง อาทิ ห้ามจัดประชุม ครม.สัญจรนอกสถานที่ ห้ามใช้งบประมาณของรัฐในการจัดประชุม อบรม บุคลากรของรัฐหรือเอกชน ห้ามสั่งการหรือมอบหมายให้มีการอนุมัติเกี่ยวกับงบประมาณรายจ่ายของหน่วยงานรัฐ ห้ามสั่งการหรือมอบหมายให้มีการแจกจ่าย จัดสรรทรัพยากรของรัฐโดยไม่มีเหตุอันควร

ห้ามใช้พัสดุหรือเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางจากหน่วยงานของรัฐ ห้ามใช้ทรัพยากรของรัฐ เช่น คลื่นความถี่ อุปกรณ์ในการส่งวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และโทรคมนาคม และห้ามใช้งบประมาณด้านการประชาสัมพันธ์ของหน่วยงานรัฐ กรณีระเบียบไม่ได้กำหนดไว้หรือมีเหตุจำเป็น กกต.อาจกำหนดข้อยกเว้นหรือผ่อนผันการปฏิบัติตามความในระเบียบได้

ประกาศ กกต.ไม่ได้ส่งซิก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระเบียบดังกล่าวไม่ใช่เรื่องใหม่ เคยมีใช้บังคับมาตั้งแต่ปี 51 แต่เนื่องจากมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 60 จึงได้มีการยกร่างระเบียบขึ้นใหม่ให้สอดคล้อง แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. มีการลงนามตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค.63 เหตุใดกลับเพิ่งมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสข่าวทางการเมืองว่ารัฐบาลอาจมีการยุบสภาเร็วๆ นี้ เนื่องจากปัญหาเรื่องวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี 

นอกจากนี้ ในวันนี้สำนักงาน กกต.ได้จัดประชุมผู้อำนวยการการเลือกตั้งทั้ง 77 จังหวัด ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งส.ส.ที่จะครบวาระในเดือน มี.ค.66

มีรายงานจาก กกต.ว่า สำนักงาน กกต.ได้มีการนำส่งระเบียบดังกล่าวส่งไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ปี 63 หลังจากที่ประธาน กกต.ลงนามแล้วไม่นาน แต่ทางสำนักนายกฯ เพิ่งนำระเบียบดังกล่าวประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ต่อมา นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่า เป็นหน้าที่ของ กกต.ออกประกาศที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง โดยให้มีเวลาล่วงหน้าพอสมควร ซึ่ง กกต.ทำมาโดยตลอดอยู่แล้วเมื่อจะมีการเลือกตั้ง โดย กกต.ส่งมาถึงทำเนียบรัฐบาลเมื่อเดือน ก.พ.2564 และตนได้ให้กกต.นำไปแก้ไขอีกเล็กน้อย เนื่องจากมีการปรับปรุงเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้ง จึงต้องแก้ไขระเบียบดังกล่าวเพื่อให้สอดคล้องกัน ดังนั้นได้ให้ไปแก้ไขแล้วส่งกลับมาอีกครั้ง ซึ่งเมื่อ กกต.ปรับแก้ไขเรียบร้อยแล้ว ได้ส่งกลับมาที่ทำเนียบรัฐบาล แต่ตนยังไม่ให้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพราะถ้าให้ประกาศในตอนนั้น ก็จะเหมือนกับในตอนนี้ที่เกิดความแตกตื่นตกใจกันว่าสัปดาห์หน้าจะเกิดการเลือกตั้งกันแล้วหรือ

นายวิษณุกล่าวว่า ในความเป็นจริงไม่เกี่ยวอะไรกันทั้งนั้น และมาถึงบัดนี้คิดว่าได้เวลาพอสมควรที่จะต้องประกาศแล้ว เพราะจากนี้ไปจนถึงเดือน มี.ค.2566 ที่สภาผู้แทนราษฎรจะหมดวาระ ก็เหลือเวลาอีก 6-7 เดือน จึงสมควรที่จะต้องออกประกาศระเบียบดังกล่าว เพื่อที่พรรคการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐจะได้เตรียมตัว อย่างไรก็ตาม หากไปประกาศในช่วงปลายปีนี้ แม้จะถือว่าทัน แต่ก็ถือว่าฉุกละหุก เนื่องจากจะมีประกาศอื่นๆอีกหลายเรื่องตามมาเป็นชุด ดังนั้นเมื่อมีฉบับที่ 1 ก็จะมีฉบับที่ 2, 3, 4 ตามมา

"คิดอยู่แล้วว่าชาวบ้านจะคิดอย่างนี้ หากขืนประกาศระเบียบตั้งแต่ในตอนนั้น ก็จะเกิดความแตกตื่นว่าภายใน 1 เดือนจะมีการเลือกตั้งแล้วหรือ จะมีการยุบสภาแล้วหรือ ซึ่งเราไม่ต้องการส่งให้เป็นนัยเช่นนั้น แต่เวลานี้ตนดูแล้วเห็นว่าเมื่อนับไปถึงวันที่ 23 มี.ค.2566 อีกประมาณ 6- 7 เดือน ก็สมควรที่จะประกาศได้ และจะมีประกาศฉบับต่างๆ ตามมาอีก ส่วนจะเป็นประกาศใดบ้างนั้นก็แล้วแต่ กกต." นายวิษณุกล่าว

ถามว่า มีการโยงไปถึงเรื่องการลงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ซึ่งอาจทำให้ นายกฯ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ รองนายกฯกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน 

ซักว่าตอนนี้ กกต.มีการอบรมเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ยิ่งทำให้ถูกโยงว่าจะมีการยุบสภา รองนายกฯ กล่าวว่า กกต.ต้องจัดอบรมอยู่แล้ว เปรียบเหมือนยิงนัดเดียวได้นกหลายตัว เป็นการอบรมเพื่อการเลือกตั้งท้องถิ่น และการเลือกตั้งต่างๆ 

พอถามว่า ขณะนี้เรียกว่าเข้าสู่โหมดเลือกตั้งได้แล้วใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ตอนนี้เข้าสู่โหมดของการเตรียมการเลือกตั้งแล้ว เพราะขณะนี้กำลังจะสิ้นปีงบประมาณ และอีกประมาณ 6-7 เดือนสภาก็จะหมดวาระ ก็เป็นเวลาอันสมควร

เมื่อถามว่า จากการออกประกาศล่วงหน้าในครั้งนี้ แสดงว่าเป็นการส่งสัญญาณหรือส่งซิกให้เตรียมพร้อมการเลือกตั้งใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่มีซิกอะไร เขาทำเสร็จเขาก็ออกมาประกาศ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนตัวมองกระแสข่าวยุบสภาขณะนี้อย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า คนทั้งหลายพูดกัน แต่ตนไม่ได้มองอะไร เป็นเรื่องของการเข้าโหมดการเลือกตั้งที่สภากำลังจะครบเทอม

ฝ่ายค้านยื่นตีความปม 8 ปี

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า ในที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 16 ส.ค. ก็ไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องยุบหรือไม่ยุบสภา ซึ่งตอนนี้ก็อยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของสภาชุดนี้อยู่แล้ว ตนและ ครม.ก็ต้องดูว่าเราทำอะไรได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ถ้าเกิดเราต้องเป็นรัฐบาลรักษาการตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ดังนั้นหากรับรู้ไว้ก็ไม่เสียหายอะไร ปฏิบัติตนให้ถูกจะได้ไม่ขัดแย้งกับข้อกฎหมายใดๆ
ถามว่า นายกฯ ได้ส่งสัญญาณเรื่องดังกล่าวหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มี ท่านไม่ได้ส่งอาการหรือสัญญาณอะไรว่าให้ไปเตรียมตัวหรือไปทำอะไร อำนาจยุบสภาเป็นอำนาจของนายกฯ เพียงผู้เดียว ไม่ต้องปรึกษาใคร หรือขอมติอะไรจากใคร เราไม่สามารถไปเกี่ยวข้องอะไรได้ เราก็เลยไม่คิด ตอนนี้ทุกพรรคทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลก็ต่างลงพื้นที่ เพื่อทำให้พื้นที่เข้มแข็ง ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ
นายอนุทินกล่าวว่า หากมีอุบัติเหตุทางการเมืองอะไรก็ต้องพร้อม หากยุบสภาก็ไปเลือกตั้ง ถ้าเกิดมีอันเป็นไป ท่านดำรงตำแหน่งนายกฯ ไม่ได้ ก็ต้องไปดูว่ารัฐธรรมนูญขั้นตอนเขากำหนดว่าอย่างไร ก็ต้องว่าไปตามนั้น

ขณะที่นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ว่า หากว่ากันตรงไปตรงมาในกฎหมายระบุชัดเจนว่าไม่สามารถเป็นนายกฯ ได้เกิน 8 ปี ถ้าดูข้อเท็จจริงที่ชาวบ้านเข้าใจและรู้สึกก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ มาแล้ว 8 ปี จริงๆ หากย้อนกลับไปตั้งแต่ตอนโปรดเกล้าฯ เมื่อปี 2557 จนถึงขณะนี้ ที่จะเข้าสู่ปีที่ 8 ในวันที่ 23 ส.ค.นี้ หากดูเจตนารมณ์และความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญฉบับนี้คือ ผู้ร่างรัฐธรรมนูญมีจุดประสงค์เพื่อป้องกันไม่ให้ผูกขาดในเชิงอำนาจ

"หากผมเป็นศาลรัฐธรรมนูญ ก็คงต้องวินิจฉัยให้ พล.อ.ประยุทธ์หยุดยุติในการปฏิบัติหน้าที่และต้องมีกระบวนการในการหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ต่อไป" นายรังสิมันต์กล่าว

ถามว่าอาจจะมีการชิงยุบสภาก่อนหรือไม่ โฆษกพรรคก้าวไกลกล่าวว่า หากยุบสภาด้วยเหตุผลนี้ประชาชนจะยอมรับหรือไม่ อย่าไปคิดว่าในสภาจะทำอะไรก็ได้ โดยที่ไม่สนใจว่าประชาชนรู้สึกอย่างไร เราอาจจะยุบสภา และสุดท้ายนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่ ซึ่งขอให้รู้ไว้ว่าการยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ ประชาชนมีสิทธิ์ลงโทษพล.อ.ประยุทธ์เหมือนกัน

ที่รัฐสภา ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร, นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และประธานวิปฝ่ายค้าน, นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล, นายวิรัตน์ วรศสิริน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย, นายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย เป็นต้น ร่วมกันยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เพื่อขอส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ (ศาล รธน.) วินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์

นพ.ชลน่านแถลงว่า ส.ส.ฝ่ายค้านลงชื่อ 171 คน ยื่นต่อประธานสภาฯ ขอให้ส่งให้ศาล รธน.วินิจฉัยความเป็นนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ สิ้นสุดลง เนื่องจากดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รวมระยะเวลาเกินกว่า 8 ปี ตามมาตรา 170 วรรคสอง และมาตรา 158 วรรคสี่ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 หรือไม่ โดยสาระสำคัญในหนังสือ ประกอบไปด้วย ข้อ 1 การดำรงตำแหน่งนายกฯ ของ พล.อ.ประยุทธ์ เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค.2557 และดำรงตำแหน่งต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน 2.รัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสอง มาตรา 158 วรรคสี่ และมาตรา 264 ห้ามนายกฯดำรงตำแหน่งเกินกว่า 8 ปี โดยให้นับระยะเวลาต่อเนื่องและมิได้กำหนดไว้อย่างชัดแจ้งว่าต้องเป็นนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญนี้เท่านั้น  

3.คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 5/2561 และ 7/2562 กรณีมาตรา 264 ให้รัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งอยู่ก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2560 ต้องอยู่ในบังคับของรัฐธรรมนูญ 2560 และคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 3-5/2550 และ 24/2564 เรื่องการบังคับใช้กฎหมายย้อนหลังสามารถทำได้หากมิใช่โทษทางอาญา และ 4.เจตนารมณ์ของการจำกัดระยะเวลาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 158 วรรคสี่  

ผบ.ทบ.ขอทุกฝ่ายคิดบวก

นายชวนกล่าวว่า หลังจากรับหนังสือ จะนำไปตรวจสอบคำร้องว่าถูกต้อง มีรายชื่อครบถ้วนของจำนวน ส.ส.ที่มีอยู่ เป็นไปตามกฎหมายคือ 1 ใน 10 ของจำนวนส.ส. คือ 48 คน จาก ส.ส.ปฏิบัติหน้าที่ได้ 477 คนหรือไม่ จากนั้นจะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง กกต.ได้ส่งความเห็นกลับมาแล้วว่าไม่ข้องใจ แต่ระหว่างนี้ประธานสภาฯ จะต้องชะลอร่างพ.ร.บ.พรรคการเมืองเอาไว้ก่อน 3 วัน เพื่อดูว่าจะมี ส.ส.เข้าชื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าเป็นกฎหมายที่มีความชอบหรือไม่  

ถามว่า หากศาล รธน.มีคำวินิจฉัยให้นายกฯ พ้นวาระ 8 ปี วันที่ 23 ส.ค. ผู้ที่รักษาการนายกฯ จะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ หรือ พล.อ.ประวิตร ทาง นพ.ชลน่านกล่าวว่า ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ เขียนรองรับให้ ครม.ทั้งคณะปฏิบัติหน้าที่ต่อเนื่องไป และรักษาการแทน ดังนั้นพล.อ.ประยุทธ์ยังรักษาการในตำแหน่งนายกฯ ต่อไปได้

 “เรื่องวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ไม่อยู่ในข้อห้ามในการทำหน้าที่รักษาการ ถ้า พล.อ.ประวิตรจะรักษาการได้ ก็ต่อเมื่อศาลสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์หยุดปฏิบัติหน้าที่ก่อนที่จะมีคำวินิจฉัยออกมา อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าวันที่ 22 ส.ค. สภาจะส่งคำร้องของฝ่ายค้านไปยังศาลรัฐธรรมนูญได้ และมั่นใจว่าศาลจะรับไว้พิจารณาอย่างแน่นอน แต่ไม่สามารถกำหนดระยะเวลาในการวินิจฉัยได้ ศาลคงให้ความสำคัญ เร่งกระบวนการวินิจฉัย" นพ.ชลน่านกล่าว

   ถามถึงข่าวนายกฯ อาจจะชิงยุบสภาก่อน 23 ส.ค. ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า สามารถทำได้ แต่เหตุผลในการยุบสภา ต้องเกิดข้อขัดแย้งระหว่างฝ่ายบริหารกับฝ่ายสภา แต่ขณะนี้ไม่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น สภาไม่มีความผิดใดๆ เลย ถ้าจะอ้างว่ายุบสภาคงยาก

"ถ้ายุบก่อนวันที่ 23 ส.ค. จะไม่มีกฎหมายเลือกตั้ง กฎหมายจะค้างไปต่อไม่ได้ ยกเว้นแต่ได้ส่งร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ทูลเกล้าฯ ถวายไปแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่มีการทูลเกล้าฯ ถวาย ถ้ายุบตอนนี้ ก็ไม่มีกฎหมายเลือกตั้ง เข้าสู่สุญญากาศ นายกฯ จะอยู่ยาว แต่ไปเสริมแรงต้านของประชาชน ให้เกิดแรงต่อต้านอย่างหนัก เชื่อว่านายกฯ ไม่กล้าทำ ภาวนาอย่าให้ทำ" ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าว      

วันเดียวกัน พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองภาพรวมในช่วงนี้ว่า สถานการณ์ปกติ ประเทศไทยก็เห็นอยู่แล้วว่าอยู่ร่มเย็นเป็นสุข มีความสุขสบาย นักท่องเที่ยวก็เข้ามา สถานการณ์อะไรก็ดีอยู่แล้ว บ้านเมืองสงบเรียบร้อยคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ทุกคนก็มุ่งไปสู่การทำมาหาเลี้ยงตัวเองให้ดีที่สุด พร้อมขออย่าคาดการณ์ เราต้องภาวนาให้ประเทศชาติมีแต่ความดี มีแต่ความสุข หรืออยู่ดีมีสุข อย่าไปคาดการณ์ในสิ่งที่เป็นลบ ต้อง think positive สำหรับประเทศชาติและประชาชน

ถามถึงสถานการณ์หลังวันที่ 23 ส.ค. 65 จะเป็นอย่างไร พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ เรื่องการเมืองไม่รู้ อย่างที่ตนบอกอย่าไปคาดการณ์ในสิ่งที่ไม่ดี สิ่งที่ไม่รู้ เรื่องที่บอกอาจจะมีม็อบออกมานั้น ก็อย่าไปคาดการณ์ อย่าไปส่งเสริม อย่าไปให้ข้อมูล ต้องพยายามให้ทุกคนตั้งสติให้ดีว่าเราต้องการอะไร ประเทศไทยต้องการอะไร ก็คือต้องการความสงบสุข ความสงบเรียบร้อยเพื่อให้การทำมาค้าขายและอะไรทุกอย่างนั้นดี ทุกคนอยู่ดีมีสุขและร่มเย็นเป็นสุข

"อย่าไปกลัว และนักข่าวคือสิ่งสำคัญให้สถานการณ์บวกหรือลบ ถ้าออกข่าวในทางบวก สถานการณ์ทุกอย่างก็บวก ถ้าออกข่าวในทางลบ และไปสมทบกับอย่างอื่น ทุกอย่างก็เป็นลบ" พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าว 

ถามว่า หากปีหน้ามีการเปลี่ยนรัฐบาล หรือเปลี่ยนนายกฯ จะไม่มีอะไรใช่หรือไม่ ผบ.ทบ.กล่าวว่า ก็ไม่มี ทุกคนทำตามหน้าที่ให้ดีที่สุด ทำหน้าที่เพื่อประชาชน ให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีความสุข อยู่ในประเทศนี้ด้วยความรักและสามัคคี ช่วยกันทำให้ประเทศชาติเจริญรุ่งเรือง

ซักว่าถ้ามีการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองจากฝั่ง พล.อ.ประยุทธ์ ไปเป็นฝั่งพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลจะเป็นอย่างไร ผบ.ทบ.กล่าวว่า ทุกคนต้องทำตามหน้าที่

จากนั้นได้นำมือชี้ที่หัวและตบที่หน้าอกซ้ายตัวเอง พร้อมกล่าวว่า ให้คิดถึงประชาชนและคิดถึงประเทศชาติให้มากที่สุด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'หมอชัย' โนคอมเมนต์ นายกฯ ทาบ 'จักรพล' นั่งโฆษกรัฐบาล

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวที่นายกรัฐมนตรีทาบทามนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง

นายกฯ ร่วมผู้นำ 17 ประเทศ แถลงเรียกร้องปล่อยตัวประกันในกาซา

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "วันนี้ ผมร่วมกับผู้นำ 17 ประเทศที่มีตัวประกันที่ยังอยู่ในกาซา ออกถ้อยแถลงร่วมเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวประกันทั้งหมด

รัฐบาลตีปี๊บ ประกวด 'ข้าวหอมมะลิไทย' ช่วยยกคุณภาพชีวิตเกษตรกร

รัฐบาลหนุนเกษตรกรและโรงสี จัดประกวดข้าวหอมมะลิไทยปี 2566 เฟ้นหาและอนุรักษ์พันธุ์ข้าวไทยคุณภาพชั้นเลิศ พร้อมขยายช่องทางการจำหน่าย