นักการเมืองใจร้าย ‘บิ๊กตู่’โวยคนขวางร่างกม.เพื่อให้รัฐบาลล้มวอนวิปต้องคุยกัน

“ประยุทธ์” บอกนักการเมืองอย่าใจร้ายเกินไป ชี้ประชุมสภาทุกฝ่ายต้องร่วมมือทำประโยชน์ให้ชาติ ลั่นหากไม่มีคนคอยยุแยงเชื่อไม่มีปัญหากับ พปชร.แน่ “นิโรธ” รุดหารือวิษณุพร้อมประชุมวิปรัฐบาลครั้งแรก ยันคุมเสียงอยู่เพราะ ส.ส.ต่างมีสปิริต “นิพนธ์” เตรียมหนาว สภาพลิก! ยันมีสิทธิ์ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย “เพื่อไทย” ฉุนเรืองไกรเตรียมเอาคืน สะพัดบิ๊กป้อมอ้าแขนรอ “ปลัดฉิ่ง-บิ๊กแป๊ะ” ซบ พปชร.

เมื่อวันที่ 8 พ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการแต่งตั้งนายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) คนใหม่ ว่าเป็นกลไกของสภา รัฐบาลมีหน้าที่ในการแต่งตั้งอนุมัติในนามรัฐบาล ส่วนหน้าที่นั้นถือเป็นกลไกของสภา สิ่งสำคัญที่สุดคือทำงานให้สภาเขาสามารถทำหน้าที่ได้เท่านั้น แต่ทั้งหมดคงไม่ใช่ประธานวิปรัฐบาลคนเดียว วิปของทุกพรรคการเมืองต้องร่วมมือกัน

“ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาของความยากลำบาก เป็นช่วงเวลาที่เราควรต้องร่วมมือกันหรือไม่ โดยเฉพาะในเรื่องของกฎหมายที่จำเป็นและสำคัญ ตรงไหนที่เป็นเรื่องที่ต้องปฏิรูปมากกว่าที่จะเอามาเป็นความขัดแย้งกัน สภาควรเป็นเช่นนั้น โดยเฉพาะเวลานี้ ผมไปบังคับเขาไม่ได้อยู่แล้ว เวลาที่บ้านเมืองกำลังลำบาก ประชาชนกำลังเดือดร้อน มันไม่เกิดประโยชน์อะไรทั้งสิ้นเลย แล้วไม่มีใครได้ประโยชน์อะไรทั้งสิ้น ใครจะเข้ามาสู่อำนาจก็ต้องเจอปัญหานี้ ความขัดแย้งก็สูงขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่มีวันจบ แต่ถ้าทุกคนหันหน้ามาพูดคุยกันในสิ่งที่เป็นประโยชน์ ร่วมมือกันทำงานตรงนั้นตรงนี้ อันไหนไม่ดีก็ทักท้วงมา ก็แค่นั้นนั่นแหละหน้าที่ ถ้าทำอย่างนี้ได้ประเทศไทยก็คงไปไหนโลดแล้ว ผมว่านะ” นายกฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า สบายใจขึ้นบ้างหรือไม่กับเรื่องในสภา หลังนายนิโรธมาเป็นประธานวิปรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ถ้าถามว่าสบายใจหรือไม่ อย่าลืมว่าควบคุมอะไรในสภาไม่ได้ และไม่ได้เป็นคนคุม และบอกมาตลอดว่าเป็นเรื่องของวิป วิปฝ่ายรัฐบาลและวิปฝ่ายค้านก็ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง เรื่องไหนสำคัญเรื่องไหนจำเป็นต้องออก อันไหนที่เป็นกฎหมายที่จะเพิ่มขีดความสามารถทั้งในเรื่องของเศรษฐกิจและสังคม สิ่งแวดล้อมหรือการศึกษา รวมทั้งการปฏิรูปต่างๆ เหล่านี้มันต้องออก ไม่ใช่จะบอกว่าไม่ออกเพื่อให้รัฐบาลล้ม ใจร้ายเกินไป ใจร้ายกับประเทศเกินไป

เมื่อถามว่า นายกฯ ได้เช็กความเคลื่อนไหวแล้วใช่หรือไม่ ว่าไม่มีความพยายามสร้างความปั่นป่วนในสภาจนอาจกระทบต่อกฎหมายสำคัญของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่ทราบเหมือนกัน ก็เป็นเรื่องของพรรคและหัวหน้าพรรคที่จะว่ากันมา สำหรับตนเองอะไรก็ได้ เพราะทำงานให้กับประชาชนทุกคนอยู่แล้ว

ถามถึงความเห็นของนายวันชัย สอนศิริ ส.ว.ที่ระบุว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยรัฐบาลจะแตกกันในปีหน้า รวมทั้งชี้ว่าใกล้เลือกตั้งแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า “เหรอ ก็นี่ไงเปลี่ยนตัวประธานวิปไง”

ไม่กังวลคุมเสียงในสภา

เมื่อถามว่า จริงหรือไม่ที่มีข่าวว่าได้พูดคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการ พปชร.โดยตรงแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ยืนยันว่าไม่ได้คุย คุยไปครั้งหนึ่งตอนแรกๆ เคยคุยกับเขาครั้งหนึ่ง ก็ดีก็คุยกัน และเมื่อถามย้ำว่าจะทำให้พรรค พปชร.เป็นปึกแผ่นมากขึ้นใช่หรือไม่ โดยเฉพาะกับนายกฯ จะเป็นเนื้อเดียวกันใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า “ถ้าไม่มีใครคอยยุแยงตะแคงรั่วก็จะดีอยู่มั้ง”

ต่อมานายนิโรธ พร้อมตัวแทนวิปพรรคร่วมรัฐบาลได้เข้าพบนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ที่ตึกบัญชาการ 1 โดยใช้เวลาหารือประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยนายนิโรธกล่าวภายหลังว่า ได้หารือกับนายวิษณุถึงกฎหมายที่จะเข้าสภา ซึ่งเป็นกฎหมายที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเสร็จแล้วส่งไป โดยนายวิษณุให้ดูและกฎหมาย 2-3 ฉบับที่จะเข้าสภาคือ ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ... และร่าง พ.ร.บ.การปฏิบัติราชการอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ... ซึ่งยังไม่ได้เข้าสภา นอกจากนั้นได้พูดคุยกันหลายเรื่อง

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้หารือกรณีสภาจะล่มหรือไม่ นายนิโรธกล่าวว่า เรื่องสภาล่มนั้นพรรคร่วมรัฐบาลได้ยืนยันจะควบคุมสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลก่อน คือเรื่ององค์ประชุม รวมไปถึงระเบียบวาระการประชุม และข้อบังคับการประชุม ซึ่งในฐานะประธานวิปรัฐบาล องค์ประชุมไม่มีความกังวล เพราะแต่ละพรรคร่วมรัฐบาลมีทีมวิปอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า มีเสียงวิจารณ์ภายในพรรค พปชร.มีปัญหาเรื่องแบ่งกลุ่มก๊วน ตรงนี้วิปจะดูแลยากหรือไม่ นายนิโรธกล่าวว่าไม่ใช่กลุ่มก๊วน แต่เราแบ่งเป็นภาค มีหัวหน้าภาค เพราะการปรับโครงสร้างของพรรคจะทำให้พรรคเป็นสถาบันการเมืองมากขึ้น สามารถควบคุมดูแลเสียงได้ง่ายขึ้น

เมื่อถามว่า ประธานวิปรัฐบาลจะมีกฎเหล็กดูแลสมาชิกอย่างไร นายนิโรธกล่าวว่าไม่มี เพราะ ส.ส.ทุกคนมีวุฒิภาวะและมีจิตสำนึก ซึ่งสมาชิกทุกคนทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ไม่ว่าฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ซึ่งจะเห็นได้ว่าพิจารณากฎหมายกันหลายฉบับ ซึ่งฝ่ายค้านคงไม่มีอะไร เพราะฝ่ายค้านก็เป็นห่วงบ้านเมืองเหมือนกัน

จากนั้นในเวลา 15.00 น. นายนิโรธได้ประชุมวิปรัฐบาล โดยมีคณะกรรมการวิปรัฐบาลเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง โดยนายนิโรธกล่าวก่อนประชุมถึงการตอบกระทู้สดของรัฐมนตรีว่า นายวิษณุได้รับปากว่าต่อไปจะไม่มีรัฐมนตรีไม่ไปตอบกระทู้ โดยนายวิษณุได้กำชับให้รัฐมนตรีมีเวลาในวันพุธและวันพฤหัสบดี เพื่อไปตอบกระทู้ถามและร่วมพิจารณากฎหมาย

ส่วนกรณีพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ยื่นเรื่องต่อสภาเพื่อให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีของนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย แต่สภาระบุว่ายื่นผิดช่องทางนั้น นายวิษณุระบุว่า ก็ไม่แน่ใจแนวทางของสภาในการตีความ แต่ให้สภาเป็นผู้ชี้แจงจะดีกว่า

นายราเมศ รัตนะเชวง เลขานุการประธานรัฐสภา กล่าวเรื่องนี้ว่า สามารถทำได้ ไม่จำเป็นว่ารัฐมนตรีคนดังกล่าวจะเป็น ส.ส.ก็ได้ ซึ่งขณะนี้ได้ผ่านการตรวจสอบเรื่องลายมือชื่อของ ส.ส.แล้ว กำลังเข้าสู่กระบวนการของการยกร่างคำร้อง เพื่อให้ประธานสภาลงนามในคำร้องยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญต่อไป ซึ่งการยื่นตรวจสอบความเป็นรัฐมนตรีผ่านช่องทาง ส.ส.เข้าชื่อมีมาหลายครั้งแล้ว เช่นกรณียื่นตรวจสอบความเป็นรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ ปรากฏตามคำวินิจฉัยที่ 11/2562 ทุกอย่างเป็นไปตามหลักการแห่งรัฐธรรมนูญ นายชวน หลีกภัย ทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง ตรงไปตรงมา เมื่อ ส.ส.ใช้สิทธิ์ถูกต้องก็ต้องดำเนินการอย่างเคร่งครัดต่อไป
พร้อมรับ 'ปลัดฉิ่ง-บิ๊กแป๊ะ'

วันเดียวกัน ยังคงมีความเคลื่อนไหวในพรรคการเมืองต่างๆ โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.กล่าวถึงความชัดเจนที่นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย จะเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรค พปชร.ว่า ก็มาสิ ถ้ามาก็รับ แต่ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุย และหากจะเข้ามาช่วยงานพรรค จะมาช่วยงานใดนั้น ก็เป็นเรื่องของตนเอง ไม่ใช่เรื่องของสื่อ

เมื่อถามถึงกรณีนายอนุมัติ อาหมัด ลาออกจาก ส.ว.และจะเข้ามาช่วยงานพรรค พปชร. พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า จะมาถามอะไรตนเอง ให้ไปถามนายอนุมัติ และยังไม่รู้เลยว่าจะมาช่วยงานเรื่องใด เพราะยังไม่ได้บอกว่าจะมาช่วยอะไร

เมื่อถามถึงแนวโน้มที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะสมัครเป็นสมาชิกพรรค พปชร. พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า มาก็มา แล้วจะต้องมาบอกสื่อทำไม

นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและนายทะเบียนพรรค พปชร. กล่าวถึงกรณี พล.อ.จักรทิพย์ว่า ถ้ามีความชัดเจนจะแจ้งให้ทราบ เนื่องจากเพิ่งมาจากต่างจังหวัด​ยังไม่ได้เข้าพรรค แต่ถ้ามีการสมัครจริงจะเข้าสู่ระบบ และฝ่ายทะเบียนจะมารายงาน ส่วนคำถามว่าจะมีบิ๊กเนมสมัครเป็นสมาชิกพรรค พปชร.หลายคนหรือไม่นั้น นายบุญสิงห์หัวเราะและไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว

ขณะที่ในการประชุมสมาชิกวุฒิสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ได้แจ้งถึงพระบรมราชโองการแต่งตั้ง ส.ว.โดยตำแหน่งคนใหม่ในส่วนผู้บัญชาการเหล่าทัพ 3 คน ในขณะเดียวกันล่าสุดมี ส.ว.ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งอีก 2 คน ได้แก่ พล.อ.อ.มนัส รูปขจร ยื่นใบลาออกเมื่อวันที่ 1 พ.ย. เนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพมีอายุ 75 ปี และนายอนุมัติยื่นใบลาออกเมื่อวันที่ 3 พ.ย.คาดว่าจะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรค พปชร.

สำหรับกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรค พปชร.ยื่นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สอบกรณี นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ดำรงตำแหน่ง ผอ.พรรคเพื่อไทย ขัดกฎหมายและเป็นการครอบงำพรรคหรือไม่นั้น นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ทราบว่าเขาดำเนินการอะไรถึงเรียกว่าครอบงำ ซึ่งนายเรืองไกรอาจมีหลักฐานก็ต้องปล่อยให้ว่าไป ส่วนกรณี นพ.สุรพงษ์เคยถูกตัดสินให้จำคุก จะมาเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองได้หรือไม่นั้น ตนเข้าใจว่าไม่ใช่ กก.บห.เพราะตำแหน่งกรรมการยุทธศาสตร์เป็นตำแหน่งที่ต่อเติมเสริมแต่งที่อยู่นอกกฎหมาย

ส่วนที่นายเรืองไกรได้เข้ายื่นร้องเรียนต่อ กกต.เพื่อให้ตรวจสอบคุณสมบัติของ นพ.สุรพงษ์ โดยยืนยันมีข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน

พท.ฉุนเตรียมเอาคืนเรืองไกร

ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ถ้านายเรืองไกรไปร้องจริง คงต้องหาช่องกฎหมายในการดำเนินการกลับกับนายเรืองไกร เพราะการร้องเท็จมีโทษตามกฎหมาย แต่เท่าที่ฟังเขาอ้างว่ายื่นให้ กกต.ตรวจสอบในข้อเท็จจริง ซึ่งถือเป็นการเลี่ยงกฎหมายที่เก่งมาก

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรค พท. ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ระบุเรื่องนี้ว่า ไม่ถึงกับหนักใจ ขณะนี้ฝ่ายกฎหมายของพรรคกำลังติดตามกรณีดังกล่าวอยู่ ไม่ใช่เรื่องที่สลับซับซ้อน เป็นเรื่องที่สามารถทำได้

นายสุทินยังกล่าวถึงการขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 ของพรรคร่วมฝ่ายค้านว่า อยู่ระหว่างการหารือร่วมกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งสมาชิกหลายคนให้ความเห็นว่ายังไม่ต้องเร่งรีบ เนื่องจากสมัยประชุมเหลือเวลาอีก 3 เดือน แต่ก็มีสมาชิกบางส่วนที่อยากเร่งให้เปิดการอภิปรายโดยเร็ว ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ทำได้เพียงครั้งเดียว ดังนั้นจึงต้องใช้ให้เป็นประโยชน์ ให้ได้จังหวะและเกิดผลดีที่สุด

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมาและเลขาธิการพรรค พท.กล่าวว่า ในวันที่ 15 พ.ย.จะประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยเบื้องต้นอยากให้กระบวนการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้านในสภาเสร็จก่อน เพื่อให้สามารถใช้กลไกในสภาได้อย่างเต็มที่ แต่การยื่นญัตติไม่จำเป็นต้องรอการโปรดเกล้าฯ เพราะสมาชิกสภาทุกคนสามารถยื่นได้ทั้งหมด

ด้านนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ถึงการหารือนอกรอบกับนายวิษณุ ถึงร่างแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง และร่างแก้ไขกฎหมายว่าด้วยพรรคการเมือง ว่านายวิษณุได้รับไปประสานงานกับ กกต.เพื่อรวบรวมประเด็นและนำเสนอเป็นร่างของ ครม.หรือร่างของ กกต. แต่ก็ต้องรอให้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ซึ่งคาดว่าจะไม่เกินวันที่ 1 ม.ค.65 จากนั้นจะเป็นกระบวนการเสนอร่างกฎหมายเพื่อพิจารณาต่อไป ในส่วนของสภาประมาณเดือน ก.พ.65 คงเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อแก้ไขร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 2 ฉบับนี้ให้ทันต่อสถานการณ์.