ภท.เดือดปชป.หักกัญชา กม.กยศ.ไร้ดอกเบี้ยฉลุย

สภาไฟเขียวแก้ กม.กู้เงิน กยศ. ไม่เก็บดอกเบี้ย มีผลย้อนหลังทุกราย  "โฆษก ภท." ขอบคุณทุกฝ่าย ยันกองทุนไม่ล้มหากบริหารจัดการดี ถกเดือด! ร่าง กม.กัญชา "ปชป." ผนึก "ฝ่ายค้าน" บี้เขียนกฎหมายหละหลวมส่งผลกระทบสังคม "กมธ.ฝั่งภูมิใจไทย" กล่อมไม่สำเร็จ สุดท้ายเสียงส่วนใหญ่มีมติถอนร่าง พ.ร.บ.กัญชากัญชง ด้วยคะแนน 198 ต่อ 136 งดออกเสียง 12 ไม่ลงคะแนน 1 เสียง

ที่รัฐสภา วันที่ 14 ก.ย. เวลา 12.15 น.ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม มีวาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่..) พ.ศ.... หรือร่าง พ.ร.บ.กยศ. ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว ต่อจากเมื่อวันที่ 31 ส.ค. โดยในครั้งนั้นพิจารณามาตรา 17 แก้ไขมาตรา 44 พ.ร.บ.กองทุน กยศ. เกี่ยวกับผู้กู้ยืมเงินจะต้องมีหน้าที่ชำระเงินกู้ยืมที่ได้รับไปพร้อมทั้งดอกเบี้ยตามสัญญากู้ยืมเงินคืนให้กองทุน ทั้งนี้ ร่าง พ.ร.บ.ฉบับที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอให้เก็บอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 แต่ต่อมาคณะ กมธ.เสียงข้างมากปรับลดให้เก็บอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 กระทั่งที่ประชุมสภาฯ ลงมติไม่เห็นด้วยกับคณะ กมธ.เสียงข้างมาก

ทั้งนี้ การพิจารณาในวันนี้เป็นการลงมติว่าจะเห็นด้วยกับเสียงข้างน้อยกลุ่มใด  เนื่องจากสงวนความเห็นไว้ถึง 6 กลุ่ม ต่อมากลุ่ม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ และกลุ่มนายซูการ์โน มะทา ส.ส.ยะลา พรรคประชาชาติ ขอถอน จึงทำให้เหลือ 4 กลุ่มที่ต้องลงมติเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย พร้อมคณะ สงวนความเห็นว่า ให้ผู้กู้ยืมเงินมีหน้าที่ต้องชำระเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ได้รับไปตามสัญญากู้ยืมเงินคืนให้กองทุนโดยไม่มีดอกเบี้ย ซึ่งจะชำระเงินคืนกองทุนทั้งจำนวนหรือผ่อนชำระก็ได้ ทั้งนี้ ตามจำนวนระยะเวลาและวิธีการที่กองทุนกำหนด

กลุ่มที่ 2 นายประกอบ รัตนพันธ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะ สงวนความเห็นให้ผู้กู้ยืมเงินจ่ายดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 1, กลุ่มที่ 3 นายจุมพล นิติธรางกูร กฤษฎีกา และนายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุน กยศ. สงวนให้คงตามร่างเดิมคือ ให้เก็บดอกเบี้ยร้อยละ 2 และเก็บเบี้ยปรับล่าช้า ร้อยละ 1 และกลุ่มที่ 4 น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อมคณะ สงวนความเห็นให้เก็บดอกเบี้ย ร้อยละ 1 และเก็บเบี้ยปรับล่าช้า ร้อยละ 1

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมเสียเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงไปกับรูปแบบการลงมติว่าจะลงมติทีละฉบับ หรือลงมติแยกเป็นกลุ่ม ระหว่างกลุ่มเก็บดอกเบี้ยกับกลุ่มไม่เก็บดอกเบี้ย กระทั่งเวลา 12.55 น. ที่ประชุมลงมติให้กับกลุ่มนายอุบลศักดิ์ มากที่สุด ด้วยคะแนน 218 ต่อ 109 งดออกเสียง 53 ไม่ออกเสียง 1 เสียง เท่ากับว่าผู้กู้ยืมเงินกองทุนไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้อีกต่อไป

ฉลุยไม่เก็บดอกเบี้ย กยศ.

จากนั้นเวลา 14.40 น. หลังที่ประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เงินกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ฉบับที่.. พ.ศ…. ในวาระสอง เรียงตามมาตราครบทั้ง 27 มาตราแล้ว ที่ประชุมลงมติวาระ 3 เห็นด้วย 314 ไม่เห็นด้วย 3 งดออกเสียง 2 ไม่ลงมติ 2 และเห็นชอบกับข้อสังเกตตามที่ กมธ.เสนอ

โดยก่อนหน้านี้ ที่ประชุมได้พิจารณามาตราที่ 18-27 และเห็นชอบตามที่ กมธ.เสนอทุกมาตรา ซึ่งรวมถึงมาตรา 24 ซึ่ง กมธ.แก้ไข เพื่อกำหนดเป็นบทเฉพาะกาล ให้มีผลย้อนหลังกับผู้กู้ยืมและคนค้ำประกันที่ได้ทำสัญญากู้ยืมก่อนหน้าที่ร่างกฎหมายจะบังคับใช้ ซึ่งมีเนื้อความที่เป็นสาระสำคัญว่า "เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาภาระของผู้กู้ยืมเงินหรือผู้ค้ำประกันให้สามารถชำระเงินคืนกองทุนได้ ให้นำมาตรา 44 มาบังคับใช้กับผู้กู้ยืมเงินและผู้ค้ำประกันซึ่งทำสัญญาก่อนที่ร่างกฎหมายที่แก้ไขจะใช้บังคับใช้ โดยให้งดเว้นการเก็บดอกเบี้ย และคิดค่าปรับผิดนัดชำระ"

ส่วนมาตรา 24 นั้น มี กมธ.เสียงข้างน้อยเสนอคำแปรญัตติไว้ แต่ขอถอนออกไปทั้งหมด และได้อภิปรายสนับสนุน เนื่องจากมองว่าผู้กู้ยืมเงินที่มีกว่า 3.4 ล้านบัญชี ซึ่งเป็นกลุ่มที่ถูกดำเนินคดีนับล้านราย และถูกฟ้องดำเนินคดีอีกจำนวนมาก ควรได้รับสิทธิประโยชน์ตามการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวจากสภาผู้แทนราษฎรด้วยเช่นกัน

เวลา 13.30 น. ส.ส.พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นำโดยนายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง และโฆษกพรรค ภท. แถลงขอบคุณสภาที่ช่วยกันสนับสนุนแนวทางดอกเบี้ย 0% และขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกทุกพรรคที่เห็นความสำคัญของเรื่องนี้

“ที่หลายท่านแสดงความห่วงจะทำให้ผู้กู้เสียวินัยหรือไม่ หรือจะทำให้ กยศ.ต้องล้มไปในอนาคตหรือไม่นั้น ขอยืนยันกองทุน กยศ.มีมูลค่า 3-4 แสนล้านบาท หากผู้บริหาร กยศ.บริหารจัดการกองทุนได้ดีจะทำให้กองทุนยืนหยัดต่อไปได้ ส่วนวินัยการเงินการคลัง เชื่อว่าผู้กู้ไม่มีใครตั้งใจจะเบี้ยวหนี้ เราเชื่อว่าเขาพร้อมจะชำระตามกำหนดเวลา” โฆษกพรรค ภท.กล่าว

ต่อมาเวลา 15.45 น. ที่ประชุมสภาฯ ที่มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ.... ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญฯพิจารณาเสร็จแล้ว ในวาระสอง

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้า นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วย น.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายสาคร เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ พรรค ปชป. ร่วมกันแถลงถึงมติของพรรคต่อร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง (ฉบับที่..) พ.ศ.... ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว

นายสาทิตย์กล่าวว่า พรรคมีมติ 1.ขอให้รัฐบาลและ สธ.ทบทวนประกาศกระทรวง โดยกลับไปกำหนดให้กัญชาเป็นยาเสพติด และ 2.ร่าง กม.ยังมีความหละหลวม จึงขอให้ กมธ.ถอนร่างออกไปจากสภา เพื่อนำกลับไปทบทวนใหม่ หลังจากที่ สธ.ประกาศกลับไปให้กัญชาเป็นยาเสพติด โดยให้เหลือแต่เรื่องกัญชง ส่วนกัญชาให้ใช้ในทางการแพทย์เท่านั้น

ถามว่ามติของพรรค ปชป.จะกระทบต่อพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายสาทิตย์กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องหลักการ ไม่ใช่ประเด็นทางการเมืองแต่อย่างใด เมื่อวิปของพรรคได้แจ้งท่าทีต่อวิปรัฐบาลให้ทราบแล้ว เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อการร่วมรัฐบาล ซึ่งหากไม่ถอนร่างกฎหมายดังกล่าวออกไปทบทวนจนถึงขึ้นต้องลงมติ พรรคยืนยันว่าไม่เห็นด้วย             

การแถลงข่าวครั้งนี้เป็นการแจ้งต่อสาธารณะ และวิปของพรรคก็จะไปแจ้งต่อวิปรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ.... ดังกล่าว นายสาทิตย์ ส.ส.พรรค ปชป. ได้ขอหารือก่อนเข้าสู่การพิจารณาว่าร่างเดิมมี 45 มาตรา แต่มีการเพิ่มขึ้นใหม่ 69 มาตรา และมีการตัดทอนเกือบทุกมาตรา จึงเห็นว่าจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะนำร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ไปปรับปรุงหรือทบทวนอีกครั้ง เพราะจากที่รับร่างฉบับนี้มา ซึ่งเป็นร่างของพรรคภูมิใจไทย ไม่ใช่ร่างของ ครม. อาจไม่ได้รับความเห็นจากส่วนราชการต่างๆ หรือรับการตรวจจากคณะกรรมการกฤษฎีกา เมื่อมีการปรับปรุงแก้ไขทั้งร่างจากที่เสนอเข้ามาเป็นการแก้เกือบทุกมาตรา ก็อาจจะมีความไม่รอบคอบได้ และจากการพิจารณาในเนื้อของกฎหมายมีลักษณะที่ไม่ได้เป็นการควบคุมหรือใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ จึงมีการเรียกร้องให้เอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติดอีก หรือการให้ประชาชนสามารถปลูกได้โดยเสรีเพียงแต่จดแจ้งเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่วัตถุประสงค์ทางการแพทย์ แต่เป็นเรื่องนันทนาการ จึงอยากให้ กมธ.รับฟังความเห็นของสังคมและความห่วงใย จะเกิดประโยชน์และรอบคอบที่สุด

สภาเดือดถอนร่าง กม.กัญชา

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ก็อภิปรายเห็นด้วยให้ กมธ.ถอนร่างออกไปทบทวนใหม่ อย่างไรก็ตาม นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานคณะ กมธ. ชี้แจงยืนยันว่าทางคณะ กมธ. พิจารณาร่างกฎหมายดีที่สุด และได้กำหนดมาตรการป้องกันไว้แล้ว

“ที่พรรค ปชป.ขอให้ถอนร่างกฎหมายออกไปก่อน เนื่องจากมีความหละหลวมนั้น ขอเรียนว่าในทางกันข้ามคณะ กมธ.ไม่ได้หละหลวมแม้แต่น้อย เรารับฟังเสียงจากทุกภาคส่วน จึงเป็นร่างกฎหมายที่สมบูรณ์ที่สุด และมีการอุดช่องโหว่ เป็นกฎหมายที่ดี จึงไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องถอนร่างออกไป จะบอกว่าให้กลับไปแก้ไข ผมก็ไม่รู้ว่าจะแก้อะไรเช่นกัน” นายศุภชัยกล่าว

จากนั้นประธานการประชุมได้สั่งให้ที่ประชุมเดินหน้า เนื่องจากนายศุภชัยในฐานะประธานคณะ กมธ. ยืนยันไม่ถอนร่างกฎหมาย ทำให้นายสาทิตย์เสนอญัตติว่า ขอให้ที่ประชุมลงมติถอนร่างออกไป ขณะเดียวกันนายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ก็ได้เสนอญัตติขอให้ที่ประชุมเดินหน้าพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มี ส.ส.ลุกขึ้นแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง มีทั้งสนับสนุนให้เดินหน้าต่อและสนับสนุนให้ถอนร่างฯ โดยนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ในฐานะ กมธ. กล่าวว่า ถ้านำร่างกฎหมายฉบับนี้ไปทบทวน เพื่อนำกลับมาพิจารณาใหม่ในการประชุมสภาสมัยหน้า เชื่อว่าแม้กฎหมายฉบับนี้จะได้รับความเห็นชอบ แต่จะถูกยุบสภาไปก่อนแน่ กฎหมายก็ตกไปอยู่ดี จะนำกลับเข้ามาใหม่อย่างไรก็ล่ม ทุกคนก็ทราบกันอยู่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง ไม่ต้องกลัวว่าพรรคใดจะได้คะแนนเสียง เพราะทุกคนทำงานร่วมกัน ไม่ใช่เรื่องของพรรคใด แต่เป็นเรื่องของประเทศ ขอให้เดินหน้าต่ออะไรที่ไม่ดีก็ค่อยๆ แก้ไป

จากนั้นนายศุภชัยต่อรองที่ประชุมว่าขอให้นายสาทิตย์ถอนญัตติที่จะให้ถอนร่างกฎหมายฉบับนี้ออกไปก่อน เพื่อให้ร่างกฎหมายได้พิจารณาเพียง 1 มาตรา จากนั้นก็ให้ค้างไว้เพื่อนำกลับไปแก้ไขเนื้อหาในสิ่งที่สมาชิกแนะนำและเป็นห่วง แล้วค่อยนำกลับมาพิจารณาใหม่อีกครั้งในต้นเดือน พ.ย. สมัยประชุมหน้า ทำให้นายสาทิตย์สอบถามว่าหากให้ตนถอนญัตติออกไป เพื่อให้ร่างกฎหมายฉบับนี้คาอยู่ในสภาไว้ก่อน โดยให้มีการผ่านชื่อร่าง แต่คาไว้ที่คำปรารภจะสามารถดำเนินได้หรือไม่ เพราะเมื่อร่างกฎหมายเข้าสู่สภาแล้วจะนำกลับไปทบทวนได้หรือไม่ ซึ่งนายภราดรยืนยันว่าทำได้ ไม่มีปัญหา แต่นายสุทินแย้งว่าตามข้อบังคับการประชุมไม่อนุญาตให้ทำได้ เพราะเมื่อกฎหมายเข้าสู่สภาแล้ว ไม่สามารถนำกลับไปทบทวนใหม่ได้ ยืนยันจะต้องเดินหน้าญัตติ เพื่อให้ที่ประชุมได้พิจารณาถอนร่าง พ.ร.บ.กัญชา หรือไม่

 กระทั่งเวลา 17.40 น. ที่ประชุมเสียงส่วนใหญ่มีมติให้ถอนร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ออกจากระเบียบวาระการประชุมสภาฯ  ด้วยคะแนน 198 ต่อ 136 งดออกเสียง 12 ไม่ลงคะแนน 1 เสียง

แหล่งข่าวระดับสูงพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถอนร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง  พ.ศ.... ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้วในวาระสอง ออกไปจากวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งทำให้ไม่ทันในการประชุมสภาสมัยประชุมนี้ ที่จะปิดสมัยประชุมในวันที่ 19 ก.ย.นี้ และเปิดสมัยประชุมอีกครั้งในวันที่ 1 พ.ย.65-28 ก.พ.66 ว่า ตรงนี้ถือว่าเป็นเกมการเมืองในสภาของนักการเมือง เพราะสังเกตได้ว่า ส.ส.พรรคการเมืองคิดถึงผลการเลือกตั้งในพื้นที่มากกว่าผลประโยชน์ประชาชน 

“ต่อไปนี้ถ้ามีการใช้กัญชาในทางที่ผิดและไม่สามารถดำเนินการตามกฎหมายได้ ต้องไปถามพรรคการเมืองที่สกัดการออกกฎหมายกัญชา กัญชง คือพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทย เพราะพรรคภูมิใจไทยเห็นต่างจากพรรคการเมืองอื่น เรายืนยันว่าตลอดว่ากัญชาไม่ใช่ยาเสพติด” แหล่งข่าวระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง