ไฟเขียวจ่าย‘อสม.-อสส.’ 1ตุลาคงยูเซปผู้ป่วยสีแดง

อสม.-อสส.กว่าล้านคนเฮ  ครม.อนุมัติ 2,100 ล้านบาท จ่ายชดเชย 2 พันบาท รวม 4 เดือน พร้อมงบค่าตอบแทนบุคลากรทางการแพทย์ฯ 986.452 ล้านบาท และยารักษาโควิด-19 อีก 365 ล้านบาท ยังกำหนดสิทธิ UCEP เฉพาะผู้ป่วยกลุ่มสีแดง ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.65 เช่นเดียวกับ สปสช.เปลี่ยนผ่านโควิดเป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง แต่ยังรักษาฟรี ขณะที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อปิดสิ้นเดือน ก.ย.นี้ ย้ายไปให้บริการที่สถาบันโรคผิวหนัง ย่านอนุสาวรีย์ฯ

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 27 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.มีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 2,100.61 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าตอบแทนให้แก่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) จำนวน 1,039,729 คน และอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) จำนวน 10,577 คน รวม 1,050,306 คน ในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ย.65 รวม 4 เดือน ในอัตรา 500 บาทต่อคนต่อเดือน รวมเป็น 2,000 บาทต่อคน อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เกิดโควิด-19 ได้มีการชดเชย อสม.ไปแล้วทั้งสิ้น 2 ปี 6 เดือน 

โดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุขเห็นว่า ในช่วงที่ผ่านมา สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ยังไม่ยุติ และยังจำเป็นต้องสนับสนุนบทบาทของ อสม. ในการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเตรียมพร้อมรองรับการเข้าสู่ระยะ Post-Pandemic จึงได้มีการเสนอค่าตอบแทน อสม. ตามช่วงระยะเวลาจนถึงสิ้นเดือนกันยายน 2565  

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 27 ก.ย.2565 ได้อนุมัติการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 งบกลาง ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ 2 รายการ ประกอบด้วย      

1.งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินและจำเป็น วงเงิน 986.452 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าตอบแทนบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขกลุ่มต่างๆ ที่สนับสนุนการปฏิบัติงานด้านการแพทย์และสาธารณสุขในการเฝ้าระวัง สอบสวน ป้องกัน ควบคุมและรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่เสร็จแล้วในช่วงเดือน ต.ค.64-มิ.ย.65 และได้รับการจัดสรรงบประมาณจาก พ.ร.ก.กู้เงินเพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุม ครม. เมื่อวันที่ 13 ก.ย.65 วงเงิน 12,123.109 ล้านบาท แต่ไม่เพียงพอ จึงได้จัดสรรงบกลางเพิ่มเติมในครั้งนี้ 

สำหรับโครงการที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณไม่เพียงพอ และได้รับการจัดสรรงบเพิ่มเติมในครั้งนี้มี 5 โครงการ ประกอบด้วย 1) โครงการแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่ : กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข 2) โครงการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหาและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 ของกรมการแพทย์ 3) โครงการจ่ายค่าตอบแทนการเสี่ยงภัยในการปฏิบัติงานบริการรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ 4)โครงการจ่ายค่าตอบแทนการเสี่ยงภัยในการปฏิบัติงานบริการรองรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ของกรมสุขภาพจิต และ 5)โครงการสนับสนุนการจัดบริหารทางการแพทย์และสาธารณสุขรองรับการระบาดของโควิด-19 ของกรมอนามัย 

2.งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  วงเงิน 365.681 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดำเนินโครงการจัดหายารักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 สำหรับหน่วยบริการสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข ประจำปีงบประมาณ 2565    

สำหรับวงเงินงบประมาณ 356.681 ล้านบาท จะจัดซื้อยารักษาโควิดประกอบด้วย การจัดซื้อยาฟาวิพิราเวียร์ 25.739 ล้านเม็ด วงเงินรวม 355.031 ล้านบาท  ยาโมลนูพิราเวียร์ 1.03 ล้านเม็ด วงเงิน 10.493 ล้านบาท และยาเรมเดซิเวียร์  1,220 ขวด วงเงิน 156,648 บาท

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.เห็นชอบหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ฉบับที่ 2 ซึ่งจะมีผลให้การใช้สิทธิเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตมีสิทธิทุกที่ หรือ UCEP สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. จะครอบคลุมเฉพาะผู้ป่วยกลุ่มสีแดง

ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด-19 ของไทยที่กำลังเข้าสู่ภาวะหลังการระบาดใหญ่ (Post Pandemic) ซึ่งการใช้สิทธิ UCEP ต้องกลับเข้าสู่ระบบปกติ รวมถึงมีการแก้ไขเพิ่มเติมบัญชีและอัตราค่าใช้จ่ายแนบท้ายต่างๆ ให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดในปัจจุบันด้วย

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า สำหรับสาระสำคัญของหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งใช้สิทธิ UCEP ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.65 เป็นต้นไป ได้มีการปรับปรุงในหลายส่วน อาทิ การกำหนดให้ยกเลิกค่าจ่ายบางรายการในหมวดค่าห้องและค่าอาหาร ค่าเวชภัณฑ์ที่ไม่ใช่ยา

รวมถึงกำหนดให้กรณียา Molnupiravir Remdesivir และ Nirmatrelvir/ritonavir ให้เบิกยาหรือค่าใช้จ่ายจากกองทุนของผู้มีสิทธิ ได้แก่ กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประกันสังคม ส่วนราชการหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือรัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ตามอัตรา หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กองทุนของผู้มีสิทธิกำหนด

นอกจากนี้ ให้กระทรวงการคลัง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานประกันสังคม สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ คณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉิน หน่วยงานของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ เอกชน หรือกองทุนอื่นที่มีวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับการจัดบริการด้านการแพทย์หรือสาธารณสุข ดำเนินการแก้ไขปรับปรุง กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือประกาศให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ใหม่ต่อไป

ด้าน ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. ชี้แจงรักษาโควิด-19 หลังเป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง เริ่ม 1 ตุลาคมนี้ โดยกล่าวว่า เมื่อมีการเปลี่ยนผ่านให้โควิดเป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง สิทธิรักษาผู้ป่วยยังคงเหมือนเดิม เป็นการตามสิทธิรักษาของแต่ละคน ทั้งหลักประกันสุขภาพ สวัสดิการข้าราชการ และประกันสังคม ครอบคลุมดูและการรักษาไม่ว่าจะเป็นติดเชื้อโควิดมากี่ครั้งก็ตาม และครอบคลุมดูแลเรื่องของวัคซีน โดยเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตสีเหลือง สีแดง ยังคงใช้ได้ตามสิทธิยูเซปพลัส ส่วนติดเชื้อป่วยไม่รุนแรงในเกณฑ์สีเขียว สามารถรับยาแบบผู้ป่วยนอก ในสถานพยาบาลตามสิทธิ หรือผ่านระบบแอปพลิเคชันที่เชื่อมต่อกับระบบเทเลเมดิซีน ผ่าน 4 แอป Clicknic, Totale telemed, Mordee, Good Doctor ส่วนสิ่งที่เปลี่ยนไปคือ ยกเลิกการแจก ATK ในร้านขายยาผ่านแอปเป๋าตัง

ส่วนความคืบหน้าการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในวันที่ 30 กันยายนนี้ เตรียมปิดศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ โดยประชาชนสามารถไปรับบริการได้ที่สถาบันโรคผิวหนัง อนุสาวรีย์ชัยฯ เปิดให้บริการวันเสาร์ที่ 1, 8, 29 ตุลาคม 2565 ณ ห้องประชุมชั้น 20 เวลาทำการ 09.00-15.00 น. (ยกเว้นวันเสาร์ที่ 15 และ 22 ตุลาคม 2565 งดบริการ เนื่องจากเป็นวันหยุดต่อเนื่องวันหยุดนักขัตฤกษ์ สำหรับการเปิดให้บริการสามารถรับบริการได้ ทั้งรูปแบบการจองคิวล่วงหน้า และลงทะเบียนแบบ Walk in ได้ทั้งคนไทย ต่างชาติ และต่างด้าว อายุตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป ทุกเข็ม ชนิดวัคซีนที่มีให้บริการคือ ไฟเซอร์ฝาสีม่วง, ไฟเซอร์ฝาสีส้ม.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง