นายกฯเครียดบ้าง ครม.ร่วมงานเลี้ยง

"บิ๊กตู่" โชว์ผลงานแก้ กม.หลายฉบับให้ทันสมัย แจงโดนต่อว่ายิ้มน้อยรับบางครั้งเครียดบ้าง “ป้อม” แจงงานเลี้ยง 26 พ.ย.เชิญ ครม.ทั้งคณะ-ส.ส.รัฐบาล วิป 3 ฝ่ายเคาะ 18 ชม. อภิปรายร่าง รธน.ฉบับประชาชน 16 พ.ย.นี้ พท.ถกพรรคร่วมฝ่ายค้านวันจันทร์ สรุปประเด็นอภิปราย ม.152 "ศรัณย์วุฒิ" ซบ "เพื่อชาติ" ศาลฎีกาสอบคดีเสียบบัตรแทนกัน "ธนิกานต์" ต่อด้วย 2 ส.ส.ภท.

เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ที่อาคารอเนกประสงค์ สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานพิธีเปิดการศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 64 และกล่าวบรรยายเรื่อง “บทบาทของภาครัฐ เอกชน และการเมืองในการรักษาความมั่นคงแห่งชาติ” ตอนหนึ่งว่า รัฐบาลนี้ทำหลายอย่างก้าวหน้าไปพอสมควร โดยเฉพาะการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายหลายฉบับ ที่อยู่ในกระบวนการของสภา ตั้งพระราชบัญญัติใหม่ๆ และแก้ไขกฎระเบียบเก่า เพราะบางกฎหมายใช้มานานแล้ว ไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลง รัฐบาลเข้าใจดีถึงปัญหา ทุกคนก็ต้องการให้แก้ปัญหาของตัวเอง แต่ก็นึกถึงปัญหาส่วนร่วมว่ามีผลกระทบกับใครบ้าง ตนฟังทุกด้าน บางอย่างแก้ได้ทันที บางอย่างแก้ไม่ได้ เพราะไปพันกระทบกับคนอื่น ต้องใช้เวลา

ทั้งนี้ เราต้องไม่ลืมว่าจะทำให้บ้านเมืองขยายใหญ่ขึ้นได้อย่างไร ให้ทุกคนได้เข้าถึง เวลาไปหลายประเทศเราสามารถเอามาเป็นแนวปฏิบัติในประเทศไทยได้ แต่ไม่ต้องลืมวัฒนธรรมไทย หลักคิดที่มีกระบวนการต่างๆ ที่หลายคนไม่เข้าใจ แต่ตนไม่ได้ว่าประชาชน อยู่ที่เรา อย่างตนต้องโทษตัวเองที่ทำให้ประชาชนเข้าใจไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์

"ที่สำคัญรอยยิ้มที่เป็นการยิ้มที่ไม่เสแสร้ง ซึ่งผมเวลายิ้มให้ใครก็ไม่เสแสร้ง บางคนติงมาว่ายิ้มน้อย จ้องจับตาไปทุกอิริยาบถ ก็ไม่เข้าใจ ต้องยิ้มเปิดปาก ต้องยิ้มเห็นฟัน ก็ผมยิ้มแบบนี้ ผมว่าผมก็ยิ้มใช้ได้กับทุกคน บางทีมันก็เคร่งเครียดบ้างเพราะเป็นมนุษย์" นายกฯ ระบุ

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลในวันที่ 26 พ.ย. มีการเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เข้าร่วมหรือไม่ว่า ต้องเชิญสิ ไม่เชิญได้อย่างไร

เมื่อถามว่า เชิญ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เข้าร่วมด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เชิญคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งหมด เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะของประชาชน และคุยกันว่าประชาชนต้องการอะไร ก็ต้องมีทั้ง ครม.และ ส.ส.ด้วย

ที่รัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าที่พรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่า วันที่ 15 พ.ย. จะมีการนัดประชุมหัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ทำการพรรคเพื่อไทย เพื่อหารือถึงรายละเอียดทั้งหมดในการอภิปราย เบื้องต้นจะมุ่งประเด็นไปที่ปัญหาของประชาชนเป็นหลัก โดยเฉพาะเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ปัญหาเรื่องสิทธิเสรีภาพตามประชาธิปไตยของประชาชน และปัญหาเสถียรภาพของรัฐบาล ขณะนี้รัฐบาลมีนโยบายเปิดประเทศเพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยว แต่ประชาชนในประเทศยังต้องเผชิญกับปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่สนใจประชาชนแต่อย่างใด ฉะนั้นนี่คือสิ่งที่เราจะนำไปเป็นประเด็นในการเปิดอภิปรายในครั้งนี้

ทางด้านนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ ซึ่งถูกพรรคเพื่อไทยขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรค เมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ตัดสินใจย้ายไปอยู่สังกัดพรรคเพื่อชาติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยืนยันว่าได้ทำตามที่ตัวเองได้เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่า จะไปอยู่พรรคการเมืองที่เป็นประชาธิปไตย ส่วนรายละเอียดทั้งหมดจะแถลงข่าวให้ทราบอีกครั้ง

เมื่อถามว่า ที่เคยบอกว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าที่เป็นระบบบัตร 2 ใบ พรรคเล็กอาจเสียเปรียบ ดังนั้นพรรคเล็กหลายๆ พรรคควรจับมือร่วมกันต่อสู้ทางการเมือง ได้ติดต่อพูดคุยกับพรรคการเมืองอื่นบ้างหรือไม่ นายศรัณย์วุฒิตอบว่า ต้องมีแน่นอน ซึ่งวันที่ 11 พ.ย. ได้เดินทางมายังสภา มีเพื่อน ส.ส.หลายคนสอบถามจะไปอยู่พรรคการเมืองใด เมื่อบอกว่าไปอยู่พรรคเพื่อชาติ หลายคนก็ยินดี และบางคนที่ได้ยุบพรรคไป อยากจะมาร่วมงานการเมืองกับตนด้วย แต่ยังไม่ขอบอกว่าเป็นใคร หากมีความชัดเจนจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

ขณะที่นายณัฐกานต์ ชูชนะ เลขานุการคณะทำงานประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการประชุมวิป 3 ฝ่ายว่า ในวันที่ 16 พ.ย.นี้ เวลา 09.00 น. จะมีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ พร้อมประชาชน เป็นผู้เสนอ โดยที่ประชุมวิปดังกล่าวได้ตกลงแบ่งเวลาในการอภิปรายให้ฝ่ายค้าน 5 ชั่วโมง, ฝ่ายรัฐบาล 5 ชั่วโมง, วุฒิสภา 5 ชั่วโมง และภาคประชาชนในฐานะผู้เสนอร่างฯ 3 ชั่วโมง จากนั้นในวันที่ 17 พ.ย. เวลา 10.00 น. ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาจะลงมติด้วยการขานชื่อ ส่วนช่วงบ่ายของวันเดียวกันจะเป็นการประชุมสภาตามปกติ

ที่ศาลฎีกา สนามหลวง องค์คณะศาลฎีกานัดพิจารณาคดีครั้งแรก สอบคำให้การในคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยื่นร้อง น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ เรื่องการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงจากการเสียบบัตรแทนกันระหว่างการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติเหรียญราชรุจิ รัชกาลที่ 10 โดยพฤติกรรมดังกล่าว ถือว่าฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม ข้อ 6-8, 11, 17 และ 27 ซึ่งศาลฎีกามีคำสั่งให้รับคำร้องเมื่อเดือน ส.ค. มีคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่และนัดพิจารณาครั้งแรกหรือไต่สวนพยานผู้ร้อง

วันนี้คู่ความทั้งสองฝ่ายมาศาล โดยกรณีดังกล่าวยังเป็นคดีที่อัยการสูงสุดยื่นฟ้องจำเลยเป็นคดีหมายเลขดำ อม.19/2564 ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งพฤติการณ์ของคดีมีข้อเท็จจริงเดียวกันกับคดีที่ ป.ป.ช.ร้องต่อศาลฎีกา ซึ่ง น.ส.ธณิกานต์แถลงว่าหากจะนำคำเบิกความของสำนวนคดีในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ มาเป็นถ้อยคำพยานในคดีนี้ เพื่อไม่ให้เป็นการเบิกความซ้ำซ้อนกัน ซึ่งศาลไม่คัดค้าน แต่ขอให้มีการไต่สวนพยานปากเดิมเพิ่มเติมในประเด็นอื่น หรือพยานใหม่ และขอให้จำหน่ายคดีนี้ชั่วคราวเพื่อรอการพิจารณาคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งในส่วนของ ป.ป.ช.ก็ไม่คัดค้านที่จะนำคำเบิกความมาเป็นถ้อยคำในคดีนี้เช่นกัน แต่ประสงค์ให้ไต่สวนต่อโดยไม่รอผลการพิจารณาของศาลฎีกาฯ นักการเมือง

องค์คณะพิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อพยานสองคดีเป็นชุดเดียวกัน และนำสืบในข้อเท็จจริงเดียวกัน เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว ให้นำบันทึกถ้อยคำของคดี อม. 19/2564 มารวมเป็นถ้อยคำของคู่ความทั้งสองฝ่ายในคดีนี้ และอนุญาตให้ไต่สวนพยานปากเดิมในข้อเท็จจริงที่ไม่ซ้ำกัน โดยไม่จำเป็นต้องจำหน่ายคดีนี้ไว้ชั่วคราว โดยศาลนัดพร้อมในวันที่ 26 เม.ย.2565 เวลา 09.30 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 12 พ.ย. ศาลฎีกา สนามหลวง จะนัดพิจารณาคดีครั้งแรก สอบคำให้การคดีหมายเลขดำ คมจ.3/2564 ที่ ป.ป.ช.ยื่นร้องนายฉลอง เทอดวีระพงศ์ และนายภูมิศิษฏ์ คงมี สองส.ส.พรรคภูมิใจไทย ข้อกล่าวหาฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงฯ กรณีเสียบบัตรแทนกันในสภา.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อุ๊งอิ๊ง' ดูไว้! นักการเมืองต้องรักษาสัจจะเหมือน 'อภิสิทธิ์' เคยหาเสียงไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์

เมื่อน.ส.แพทองธาร ชินวัตร กล่าวในงานอีเวนต์ ”10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10“ ว่า พรรคเพื่อไทยตัดสินใจถูกตั้งรัฐบาลผสม