ตื่น!ปราบยาเสพติด-อาวุธ พท.ลั่นเปิดวิสามัญซักฟอก

มท.ลุยทำสงครามยาเสพติด คลอด 3 แนวทาง สั่งด่วนทุกจังหวัด ผบ.ตร. ขานรับนายกฯ ระดมกวาดล้างอาวุธ-ยานรกครบวงจร ตั้งศูนย์ปฏิบัติการในทุกระดับ พท.เดินหน้ายื่นเปิดสภาสมัยวิสามัญสัปดาห์นี้ อภิปรายสัปดาห์หน้า ปัดฉวยโอกาสการเมือง หวังเอาความเศร้าถอดบทเรียน

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทย (มท.) โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (กองพัฒนาและส่งเสริมการบริหารงานท้องถิ่น) ได้เเจ้งแนวทางการป้องกันและเเก้ไขปัญหายาเสพติดขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และแนวทางปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินอุดหนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2559 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2563 ให้ทุกจังหวัดแล้ว เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2565 สืบเนื่องจากกรณีโศกนาฏกรรมที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบล อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู โดยผู้ก่อเหตุมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด กระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญและกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินงานการป้องกัน และแก้ไขยาเสพติดในพื้นที่ จึงได้จัดทำแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใน 3 ด้าน ประกอบด้วย

ด้านที่ 1 การบำบัดรักษายาเสพติด ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบบูรณาการเชิงรุก โดยจัดตั้งศูนย์คัดกรองเพื่อคัดกรองและประเมินความรุนแรงของการติดยาเสพติด ภาวะความเสี่ยงทางสุขภาพกาย สุขภาพจิต รวมถึงปัญหาด้านสังคมที่เกี่ยวข้องกับการติดยาเสพติด และวิเคราะห์จำแนกระดับความรุนแรง และวางแผนการดูแลบำบัดรักษาหรือการส่งต่อที่เหมาะสม รวดเร็วและปลอดภัย และจัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคม เพื่อให้การสงเคราะห์สนับสนุนให้ผู้ติดยาเสพติด หรือผู้ผ่านการบำบัดรักษาได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิตทางด้านที่อยู่อาศัย การศึกษา อาชีพ ตลอดจน การติดตามดูแลช่วยเหลือจนสามารถกลับมาดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างปกติ โดยถือปฏิบัติตามประมวลกฎหมายยาเสพติดและอนุบัญญัติที่เกี่ยวข้อง

ด้านที่ 2 คือ การป้องกันยาเสพติด ด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมของหมู่บ้าน/ชุมชน ในการสร้างภูมิคุ้มกัน การเฝ้าระวัง การค้นหา การรักษา การให้โอกาส การดูแลและช่วยเหลือผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดรวมทั้งเสริมสร้างความเข้มแข็งและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน และด้านที่ 3 งบประมาณ เพื่อดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยมี 3 แนวทาง ได้แก่ 1.ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตั้งงบประมาณในเทศบัญญัติ/ข้อบัญญัติ ตามนโยบายของรัฐบาล และ มท. ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด

2.กรณีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่ได้ตั้งงบประมาณไว้ ให้พิจารณาโอนงบประมาณรายจ่ายรายการที่มีความจำเป็นน้อยกว่ามาตั้งจ่ายเป็นรายการใหม่ โดยปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยวิธีการงบประมาณฯ หากไม่สามารถโอนงบประมาณมาตั้งเป็นรายการใหม่ได้ อาจขอยกเว้นต่อปลัดกระทรวงมหาดไทย นำเงินสะสมมาใช้จ่ายได้ ตามข้อ 4 ประกอบกับ ข้อ 89 แห่งระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2559 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้มอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัดปฏิบัติราชการแทนแล้ว

และ 3.กรณีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่ได้ดำเนินการเอง อาจอุดหนุนงบประมาณด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้หน่วยงานอื่น ได้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรภาคประชาชน องค์กรทางศาสนา หรือองค์กรการกุศลได้ โดยถือปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินอุดหนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2559 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประกอบกับหนังสือกระทรวงมหาดไทย ด่วนที่สุด ที่ มท 0810.6/ว 5270 ลงวันที่ 22 ก.ค. 2565 ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ทุกจังหวัดรายงานผลการดำเนินงานพร้อมทั้งข้อมูลรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทุกวันที่ 5 ของเดือน โดยเริ่มรายงานครั้งแรกวันที่ 21 ต.ค.2565

นายสุทธิพงษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า มท.ขอความร่วมมือภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน และพี่น้องประชาชนทุกคน ร่วมเป็นพันธมิตรในการทำสงครามกับยาเสพติดในครั้งนี้ ถึงเวลาเเล้วที่จะต้อง Change for Good ลุกขึ้นมาเอาจริงเอาจังขจัดยานรกให้หมดสิ้นไปจากสังคมไทย ด้วยการเฝ้าระวังเเละเป็นหูเป็นตาให้กับฝ่ายปกครอง โดยสามารถเเจ้งเบาะเเสยาเสพติด หรือบุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยงอาจก่อให้เกิดภัยแก่สังคมโดยรวม หรือการกระทำความผิดอื่นๆ ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่ หรือโทรศัพท์สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 โทร.ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง

ตร.ลุยล้างบางยาเสพติด

ทางด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า รัฐบาลซึ่งนำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กำหนดให้การกวาดล้างยาเสพติดเป็นวาระสำคัญ ซึ่งที่ผ่านมามีความก้าวหน้าในกระบวนการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามยาเสพติด โดยกระทรวงยุติธรรมได้แก้กฎหมายยาเสพติดกว่า 24 ฉบับมาเป็นฉบับเดียว  คือ พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 9 พ.ย.2564 ซึ่งมีความทันสมัยและเท่าทันขบวนการค้ายาเสพติด เน้นยึดอายัดทรัพย์ผู้ค้า บำบัดผู้เสพ เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติด ทั้งนี้ ในปี 2565 สามารถยึดอายัดทรัพย์ได้ 10,820 ล้านบาท ยืนยันว่าที่ผ่านมารัฐบาลดำเนินการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดมาโดยตลอด ทั้งตำรวจ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงยุติธรรม ไม่ใช่เพิ่งมาทำอย่างที่มีบางฝ่ายพยายามบิดเบือน

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยระดมกวาดล้างความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน และยาเสพติดแบบครบวงจรอย่างต่อเนื่อง ตามที่นายกรัฐมนตรีมีบัญชา ส่วนมาตรการในการปราบปรามอาวุธปืน จะมุ่งเน้นไปที่บุคคลผู้ได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน แต่มีความประพฤติไม่เรียบร้อย หรือมีพฤติกรรมเป็นภัยต่อสังคม ต้องสืบสวนติดตามพฤติกรรมในเชิงลึก สามารถแจ้งให้นายทะเบียนเพิกถอนใบอนุญาตได้ นอกจากนั้นจะมีการตรวจค้นกลุ่มเสี่ยงเช่น กลุ่มวัยรุ่น ที่มีพฤติกรรมชอบพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ นักเลงอันธพาล บุคคลที่พกพาอาวุธปืนติดตามผู้มีอิทธิพล บุคคลที่ปล่อยเงินกู้นอกระบบ บุคคลพ้นโทษ ในความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน บุคคลที่ลักลอบผลิต จําหน่ายหรือขายอาวุธปืนทางอินเทอร์เน็ต รวมทั้งผู้ผลิต ผู้จําหน่ายรายใหญ่ และผู้มีประวัติถูกจับกุมในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดซ้ำซาก ในขณะเดียวกัน จะมีการตรวจค้นจับกุมแหล่งค้า ผลิต ซุกซ่อนอาวุธที่ผิดกฎหมายแหล่งอบายมุข แหล่งมั่วสุม สถานบริการ กําหนดจุดตรวจ จุดสกัด และตั้งด่านตรวจค้นบุคคล ยานพาหนะ สกัดกั้นการลักลอบขนส่งอาวุธที่ผิดกฎหมาย ทั้งทางบกและทางน้ำ

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าวว่า ได้สั่งการให้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการและควบคุมสั่งการในเรื่องนี้ ทั้งในระดับสถานี, กองบังคับการ และกองบัญชาการ เพื่อบริหารจัดการคดีไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน วางระบบการประสานงานและส่งต่อข้อมูลอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ รวมถึงให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ กวดขันควบคุมการปฏิบัติของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด ส่วนในด้านการปราบปรามยาเสพติดเชิงรุก จะมีการบูรณาการกับทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายปกครอง ท้องถิ่น สาธารณสุข เพิ่มความเข้มในการปราบปรามจับกุมผู้กระทําความผิดในพื้นที่ รวมทั้งให้มีการขยายผลและใช้มาตรการทางทรัพย์สิน ทั้งยึด อายัดทรัพย์คดียาเสพติด การฟอกเงิน ต่อผู้กระทําผิดทุกกรณี

นอกจากมิติการป้องกัน การนำผู้เสพมาเข้ารับการบําบัด โดยเฉพาะในชุมชน สถานศึกษา สถานบริการและสถานประกอบการ จะมีการสุ่มตรวจตามวงรอบ มีการปิดล้อมตรวจค้นชุมชนอย่างต่อเนื่อง ค้นหาผู้ติดยาเสพติดที่มีอาการทางจิตประสาทในพื้นที่ จัดทําฐานข้อมูล ในส่วนของผู้บังคับบัญชาทุกระดับต้องลงไปขับเคลื่อนนโยบายตามที่ได้สั่งการลงไป รวมทั้งจัดทำโครงการ "ตำรวจสีขาว" สุ่มตรวจปัสสาวะตำรวจทุกนาย ติดตาม ตรวจสอบ และควบคุมความประพฤติ ของผู้ใต้บังคับบัญชา หากพบการกระทําความผิดจะต้องดําเนินการทางกฎหมาย ทางวินัยและทางปกครองอย่างเด็ดขาดทุกราย และจะมีการประเมินผลการปฏิบัติงานและนำมาใช้ในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจในวาระที่จะถึงนี้ด้วย

ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการแจ้งเบาะแส ความผิดเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติด อาวุธปืน เครื่องกระสุน หรือวัตถุระเบิด สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชม. ทั้งนี้ ข้อมูลในการแจ้งจะปิดเป็นความลับ และจะมีเงินสินบนรางวัลให้กับผู้แจ้งในกรณีที่สามารถจับกุมตัวผู้กระทำผิดได้

ยื่นเปิดสภาวิสามัยสัปดาห์นี้

ที่พรรคเพื่อไทย นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการวิพากษ์วิจารณ์พรรคเพื่อไทยฉวยโอกาสและไม่มีกาลเทศะ ยื่นญัตติเปิดประชุมสมัยวิสามัญกรณีเหตุกราดยิงศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ จ.หนองบัวลำภู ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ทั่วโลกมองมาที่ไทย คนในประเทศให้ความสนใจมาก นอกจากแสดงความเสียใจ ปลอบขวัญผู้เสียหายแล้ว ต้องทำอะไรมากกว่านั้น เอาความเศร้ามาถอดบทเรียน ฝ่ายการเมืองจะนิ่งดูดายไม่ได้ พรรคเพื่อไทยไม่ได้ฉวยโอกาสทางการเมือง อยากใช้โอกาสนี้ชี้ให้รัฐบาลยอมรับความจริง หากละเลยนั่นคือไม่รู้กาลเทศะ ฝ่ายค้านจะนำข้อเรียกร้องทุกฝ่ายมาถอดบทเรียนในสภาฯ คาดว่าจะยื่นญัตติได้ภายในสัปดาห์นี้ และอภิปรายได้ในสัปดาห์ถัดไป ตีเหล็กตอนร้อน เป็นโอกาสที่รัฐบาลจะได้รับความร่วมมือ

"หากคิดว่าจะใช้เวทีนี้หลอกด่าโจมตี รัฐบาลจะกลัวทำไม รัฐบาลมีปากมีสมองเหมือนกัน ให้พกปากพกสมองมาด้วย อย่าพกแต่มือมา ได้คุยกับ ส.ว.และ ส.ส.รัฐบาลหลายคนก็เห็นด้วย ใครใช้เวทีนี้เพื่อการเมือง สังคมก็เล่นงานเอง อย่าไปกังวล ควรใช้โอกาสนี้เปิดวิสามัญ อย่าไปรอให้ถึงสามัญ ประชาชนจะได้สบายใจ เชื่อว่าผู้สูญเสียคงอยากถามว่าเขาสูญเสียแล้วจะทำอะไรต่อ หรือแค่แสดงความเสียใจแล้วก็จบ หากรัฐบาลไม่ยอมให้เปิดสมัยวิสามัญ ก็เสียดายแทนรัฐบาล ฝ่ายค้านจะเดินหน้าจัดเวทีอื่น อาจเปิดเวทีเสวนาถอดบทเรียนหาทางออกให้ประเทศ หากไม่ได้ทำในสภา ก็ทำนอกสภา รัฐบาลอย่าฉวยโอกาสเอาความโศกเศร้าเป็นข้ออ้างกลบเกลื่อน ปิดปากฝ่ายค้านไม่ให้พูดถึงความล้มเหลว" นายสุทินระบุ

 ทั้งนี้ ขอฝากประเด็นเพิ่มเติม อย่าด่วนสรุปว่าการตรวจเลือดผู้ก่อเหตุแล้วไม่พบสารเสพติด ไปโน้มน้าวให้คนเชื่อว่าเหตุการณ์นี้ไม่ได้มาจากยาเสพติด ตนว่าคิดผิด คนติดยาถ้าไม่ได้เสพยาจะคลุ้มคลั่ง หรือมีสถานการณ์ที่ทำให้เสพไม่ได้ จะทำให้คลุ้มคลั่ง เสพมากเกินไปหรือไม่ได้เสพก็คลุ้มคลั่ง

นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจ เรื่อง หยุดเหตุรุนแรงในสังคมไทย กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 1,125 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 7-8 ต.ค.ที่ผ่านมา พบว่า ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่หรือร้อยละ 93.0 สลดใจ หดหู่ใจ กับข่าวเหตุรุนแรงและการสูญเสียในจังหวัดหนองบัวลำภู ในขณะที่ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 91.5 กลัวจะมีการลอกเลียนแบบเกิดซ้ำ ที่น่าพิจารณาพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 58.3 ต้องการให้ปฏิรูปงานตำรวจ จะช่วยหยุดเหตุรุนแรงและดีต่อสังคมไทยแท้จริงยั่งยืน รองลงมาร้อยละ 54.6 ต้องการให้บังคับใช้กฎหมายเข้มงวด คุมอาวุธปืน การตั้งด่าน ป้องกันเหตุ และร้อยละ 51.5 ต้องการให้มีตำรวจชุมชน  นอกจากนี้ เกินครึ่งหรือร้อยละ 52.0 ต้องการให้ควบคุมความรุนแรงในเกมและภาพยนตร์ หนังซีรีส์ต่าง ๆ ที่รุนแรง ป้องกันเลียนแบบ ร้อยละ 51.7 ต้องการให้ หยุดใช้กระแส ใช้หน้าสื่อมวลชนหาผลประโยชน์ทางการเมือง ธุรกิจ สร้างความขัดแย้ง เกลียดชังกันในหมู่ประชาชน และร้อยละ 47.7 ต้องการให้คุมใช้สื่อโซเชียลมีเดียเผยแพร่ภาพความรุนแรง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง