บุกค้นแหล่งทุนจีนยึดทรัพย์อื้อ

ตำรวจขยายผลทลายผับ “จินหลิง” นำทีมปฏิบัติการบุกตรวจค้นแหล่งทุนจีน 3 จุด ยึดทรัพย์หลายร้อยล้าน พร้อมตรวจสอบความเชื่อมโยงคดีอาชญากรรมออนไลน์ "อัจฉริยะ" ร้อง ผบ.ตร.สอบ “พันตำรวจเอก” มือขวาผู้การนราธิวาส พร้อมมอบแผนผังขบวนการค้ายาฯ โยงนักการเมืองท้องถิ่น-ระดับประเทศหนุน

เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร.,  พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.  พร้อม พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติของตำรวจไซเบอร์ ขยายผลคดีผับดังย่านยานนาวา บุกค้นแหล่งทุนจีน 3 จุด พร้อมยึดทรัพย์สินหลายร้อยล้านบาท

ทั้งนี้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ตรวจค้นสถานบริการจินหลิง ย่านยานนาวา เขตสาทร ยึดรถยนต์หรูกว่า 30 คัน อันเข้าข่ายฟอกเงิน  หนึ่งในรถยนต์หรูที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดไว้นั้น ผู้ต้องหาหญิงชาวจีนเป็นผู้ขับ มีชายชาวจีนเป็นเจ้าของรถยนต์ โดยชายชาวจีนคนดังกล่าวคือกลุ่มอาชญากรรมออนไลน์ ถือหนังสือเดินทางประเทศกัมพูชา และยังมีหนังสือเดินทางของประเทศต่างๆ เป็นจำนวนมาก รวมทั้งสวมสิทธิบัตรประจำตัวประชาชนคนไทย เงินที่ได้จากการหลอกลวงจะถูกนำไปฟอกด้วยการลงทุนซื้อบ้าน คอนโดฯ รถยนต์หรู และทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ มีการจ้างบอดี้การ์ดคอยคุ้มกันตลอดเวลา

กระทั่งวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดล้อมตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยว่าเป็นที่พักอาศัยและใช้ในการกระทำความผิดของกลุ่มบุคคลขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 3 จุด ประกอบด้วย จุดที่ 1 บ้านเลขที่ 396/63 ซอยกาญจนาภิเษก 50 แขวงดอกไม้ แขวงประเวศ พบชายชาวจีน 3 คน หญิงชาวจีน 2 คน และคนไทย 3 คน  1.นายพรชัย (สงวนนามสกุล) (เป็นคนขับรถของ MR.LIN YIAN) 2.น.ส.เสี่ยวจือ (สงวนนามสกุล) (แม่บ้าน) 3.นางรุ่งนภา (สงวนนามสกุล) (แม่บ้าน) 4.MR.XIAO JIANWEN (คนดูแลบ้าน) 5.MRS. XUE WANG (เพื่อนของ MR.LIN YIAN 6.MR.FEIXIONG CHEN (เพื่อนของ MR.LIN YIAN) 7.MRS.YULIAN LI (เพื่อนของ MR.LIN YIAN) 8.MR.LIN YIAN อายุประมาณ 25 ปี ถือหนังสือเดินทางประเทศกัมพูชา 

พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินหลายรายการเช่น รถยนต์ยี่ห้อ CHEVROLET CORVETTE (ป้ายแดง) หมายเลขทะเบียน ฬ-2258 กทม. 2.รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า อัลพาร์ท สีดำ หมายเลขทะเบียน 3 ขด 7517 กทม. 3.รถยนต์เบนซ์ GLS 350D สีเทา (ป้ายแดง) หมายเลขทะเบียน ล-4669 กทม. 4.รถจักรยานยนต์ดูคาติ รุ่น 1299 panigales สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 5.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ monkey สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 6.สุราจีน Moutai 50 ขวด 7.สุราต่างประเทศ XO 8 ขวด 8.โทรศัพท์มือถือ 13 เครื่อง 9.คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 3 เครื่อง 10.เงินสด 7 ล้านบาท

จุดที่ 2 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 89/46 หมู่บ้านแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด บางนา-อ่อนนุช แขวงดอกไม้ เขตประเวศ ซึ่งเป็นบ้านของนาย LIN YIAN พบชายชาวจีน 1 คน และคนไทย 2 คน 1.Mr.Li QINGAN (หลี ชิงอาน) ซึ่งเป็นบิดาของนาย LIN YIAN 2.นายอดิศร (สงวนนามสกุล) 3.น.ส.ธนสุธางศ์ (สงวนนามสกุล)  พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินอีกหลายรายการเช่น 1.รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า อัลพาร์ท สีดำ (ป้ายแดง) 3 คัน 2.นาฬิกาหรูยี่ห้อ Patek Philippe 1 เรือน 3.เงินสด 7.5 ล้านบาท 4.สมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย 1 เล่ม 5.บัตรประจำตัวประชาชน ชื่อนายยะปะสอ   6.หนังสือเดินทางประเทศไทย

จุดที่ 3 ตรวจค้นบ้านเลขที่ 153 คอนโดฯ สุภาลัย โอเรียลเต็ล สุขุมวิท ตึก D ชั้น 33 สุขุมวิท 39 แขวงคลองตันเหนือ ซึ่งเป็นบ้านของนาย LIN YIAN พบมีชายชาวจีน 2 คน หญิงชาวจีน 2 คน ดังนี้ 1. Mr.LI XIAOQIANG (นาย ลี เสี่ยวเฉียง)  2. Mr.LIN PEIJIE (นายลิน ปิงเจอ) 3. Mrs.ZHANG RUIPING (นางสาวจาง ลุ่ยปิง) 4.Mrs.ZHANG RUIJUAN (นางสาว จาง ลุ่ยจวน) นอกจากนี้ยังตรวจยึดทรัพย์สินอีกหลายรายการ เช่น 1.เงินสดจำนวน 28 ล้านบาท 2.กระเป๋าแบรนด์เนมหรู 8 ใบ 3.บุหรี่ซิการ์ต่างประเทศ

 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์กล่าวว่า เมื่อนำบัตรประจำตัวประชาชนที่ตรวจยึดได้นำมาตรวจสอบกับสารบบทะเบียนราษฎร  ปรากฏว่าเลขประจำตัวประชาชนดังกล่าวนายทะเบียนออกให้กับบุคคลอื่น (ใบหน้าไม่ตรงกัน) จึงเชื่อว่าเป็นการปลอมบัตรประจำตัวประชาชน จึงแจ้งข้อกล่าวหา MR.LIN YIAN ว่า “ปลอมบัตรประจำตัวประชาชน” นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.อุดมสุข เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย  และจากการตรวจสอบ Mr.LI XIAOQIANG (นายลี เสี่ยวเฉียง) ปรากฏว่าอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดเวลาที่ ได้รับอนุญาต จึงแจ้งข้อกล่าวหา “เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” และพบว่า  Mr.LIN PEIJIE (นาย ลิน ปิงเจอ) ครอบครองสุราต่างประเทศหลายยี่ห้อเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดให้ครอบครอง จึงแจ้งข้อกล่าวหา ให้ทราบว่า “มีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้าที่ไม่ได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน” และนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

“การปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดรถยนต์หรู, เงินสด, รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์,  นาฬิกาหรู, กระเป๋าแบรนด์เนม และทรัพย์สินต่างๆ รวมมูลค่าทรัพย์สินหลายร้อยล้านบาท ซึ่งจะได้ดำเนินการตรวจสอบความถูกต้อง และความเชื่อมโยงกับคดีอาชญากรรมออนไลน์ที่ได้มีการแจ้งความไว้ในระบบการรับแจ้งความออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์กล่าว

 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นหนังสือถึง ผบ.ตร. ให้ตรวจสอบข้าราชการตำรวจยศ “พ.ต.อ.” ใน จ.นราธิวาส เกี่ยวข้องขบวนการยาเสพติดออกจากพื้นที่ และนำแผนผังขบวนการค้ายาเสพติดใน จ.นราธิวาสมามอบให้ ขอให้ส่งเจ้าหน้าที่ส่วนกลางลงไปปราบปราม โดยนายอัจฉริยะเปิดเผยว่า มายื่นหนังสือถึง ผบ.ตร. 2 เรื่อง คือขอให้มีการตั้งกรรมการสอบตำรวจยศ “พ.ต.อ.” คนหนึ่งในพื้นที่ จ.นราธิวาส เป็นมือขวาของ พล.ต.ต.แวสาแม สาและ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ที่ถูกเด้งมาประจำที่ ศปก.ตร. ที่ให้การช่วยเหลือผู้ต้องหาดึงสำนวนออกจากคดีฆ่าตำรวจ “ส.ต.ต.” และให้การช่วยเหลืออดีตตำรวจมาเลเซียขบวนการค้ายาเสพติด โดยขอให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. สืบสวนว่า พ.ต.อ.คนนี้มีส่วนเข้าไปช่วยเหลือให้ผู้ต้องหาขบวนการค้ายาเสพติดในพื้นที่พ้นผิด

อีกเรื่องนำผังขบวนการค้ายาเสพติดใน จ.นราธิวาส ทั้งจังหวัดที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองมามอบให้ เพื่อสั่งการกวาดล้างยึดทรัพย์สินในขบวนการเหล่านี้ เพราะตำรวจท้องที่ไม่กล้าจับ เนื่องจากเกรงกลัวอิทธิพลที่มีนายตำรวจระดับสูงและนักการเมืองให้การสนับสนุน จึงต้องการให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์สั่งการชุดปฏิบัติการของ ตร.ลงไปปราบปราม โดยนักการเมืองที่เกี่ยวข้องมีทั้งนักการเมืองระดับท้องถิ่น นายก อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และนักการเมืองระดับชาติ เพราะ จ.นราธิวาส เป็นเมืองหน้าด่านส่งออกยาเสพติดไปยังประเทศมาเลเซีย เมื่อได้เงินจากยาเสพติดก็นำเงินมาเล่นการเมือง นำกล้วยขึ้นมากรุงเทพฯ แจกให้พวก ส.ส.บางคน ให้เป็นฐานในการช่วยเหลือ ถ้าถูกจับกุมทำความผิดจะใช้เส้นสายนักการเองระดับประเทศช่วยเหลือ

“เขารู้ดีนักค้ายาเสพติดมีเครือข่ายใดบ้าง พอมีเจ้าหน้าที่จะไปจับกุมก็แจ้งให้หลบหนีจากพื้นที่ไปก่อน แต่ถ้าเป็นเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางเข้าจะไม่รู้ตัว ท้องที่ไม่ทราบ ก็จะง่ายในการปราบปรามเครือข่ายพวกนี้ เครือข่ายยาเสพติดนี้ทำกันมาเป็น 5-10 ปี โดยไม่มีใครกล้าดำเนินการ  ในแผนผังที่นำมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจวันนี้มีเป็นร้อยคน ถ้าเจ้าหน้าที่สามารถจับเครือข่ายยาเสพติดกลุ่มนี้ ก็จะนำไปสู่นักการเมืองระดับชาติได้ และปัจจุบันก็ยังอยู่ในตำแหน่งหลายคน” นายอัจฉริยะ กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชงไทยบี้เมียนมา งดขายน้ำมันให้ เจรจาสันติภาพ

"โรม" เสนอให้ไทยงดขายน้ำมันให้ "เมียนมา" ปูดใช้ไทยฟอกเงินเครือข่ายซื้ออาวุธที่ใช้ปฏิบัติการ เตือนถูกดึงไปเอี่ยวร่วมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์