ส่งออกดิ่ง4.4% ในรอบ20เดือน ลุ้นทั้งปีเกินเป้า

ส่งออก ต.ค.65 มีมูลค่า 21,772.4  ล้านเหรียญ ลดลง 4.4% พลิกติดลบครั้งแรกในรอบ 20 เดือน "จุรินทร์" แจงสาเหตุจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก แต่ยอดรวม 10 เดือนยังขยายตัวได้ดี มีมูลค่า 243,138.5 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 9.1% หรือกว่า 8.3 ล้านล้านบาท คาดทั้งปีโตเกินเป้าเกือบหนึ่งเท่าตัว และมูลค่าทั้งปีทะลุ 9 ล้านล้านบาทแน่  

เมื่อวันจันทร์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกเดือน ต.ค.65 มีมูลค่า 21,772.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง  4.4% คิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 801,273 ล้านบาท  ส่วนยอดรวม 10 เดือนของปี 2565 (ม.ค.-ต.ค.) มีมูลค่า 243,138.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น  9.1% คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 8,325,091 ล้านบาท  โดยคาดว่าภาพรวมการส่งออกปี 2565 ยังเป็นบวก จากการประมาณการร่วมกับภาคเอกชนล่าสุดยังมั่นใจว่าเกินเป้าที่กำหนดไว้ 4% จะเพิ่มเกือบหนึ่งเท่าตัว ส่วนมูลค่าตั้งเป้าไม่น้อยกว่า 9 ล้านล้านบาท มีแนวโน้มจะเกินกว่า  9 ล้านล้านบาท และจะเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในปี 2565 

 นายจุรินทร์กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้การส่งออกในเดือน ต.ค.65 ติดลบ มาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่น่าเป็นห่วง ซึ่งกระทรวงพาณิชย์และเอกชนเห็นตรงกัน จากนี้ไปต้องฝ่าฟันเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัว  โดยเศรษฐกิจโลกปี 2564 เพิ่ม 6% ปี 2565 เพิ่ม  3.2% และปี 2566 เพิ่ม 2.7% ตลาดจีนยังมีมาตรการซีโรโควิด-19 ดัชนีการผลิตหรือ PMI ของคู่ค้าสำคัญ เช่น สหรัฐฯ, ญี่ปุ่น, จีน และสหภาพยุโรปลดลง  แต่ก็มีปัจจัยบวกจากเงินบาทที่ยังอ่อนค่า ทำให้สินค้าไทยแข่งขันได้ดีขึ้น ตลาดใหม่ขยายตัวได้ดี เช่น ซาอุดีอาระเบีย  รวมถึงตะวันออกกลาง, ออสเตรเลีย และสหราชอาณาจักร

 “ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหารือ เตรียมการรองรับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ต้องทำการบ้านลึกในรายละเอียด เช่นหาตลาดใหม่ทดแทนการส่งออกในบางตลาด อย่างเคมีภัณฑ์กับเม็ดพลาสติก มีมูลค่าถึง 6.62% ของตัวเลขการส่งออกทั้งหมด ตลาดที่เตรียมการไว้ในการเร่งยอดส่งออก คือ ตะวันออกกลาง,  แอฟริกา และกลุ่มประเทศเอเชียใต้ เช่น อินเดีย, ปากีสถาน, บังกลาเทศ เป็นต้น หรือการเร่งรัดการส่งออกข้าวที่อินเดียเริ่มขึ้นภาษีส่งออก ก็จะเป็นโอกาสให้ไทยหาตลาดทดแทนอินเดีย ทั้งอินโดนีเซีย, แอฟริกา หรืออื่นๆ  รวมทั้งผลิตภัณฑ์ยางพาราที่ต้องเพิ่มมูลค่าการผลิต ส่งเสริมแปรรูปทำยางล้อ และจะนำคณะร่วมงานยานยนต์ระดับโลก และจับมือกับเอกชนเดินหน้าต่อไป” นายจุรินทร์กล่าว

ทั้งนี้ การส่งออกในเดือน ต.ค.65 สินค้าเกษตรลด  4.3% สินค้าสำคัญที่ลดลง ได้แก่ ยางพารา, ผลไม้สด  แต่ตัวอื่นเพิ่มขึ้นหมด ทั้งไก่สดแช่เย็นแช่แข็งและแปรรูป,  ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง, ทุเรียนแช่แข็ง, กล้วยไม้ และข้าว  เป็นต้น สินค้าอุตสาหกรรมเกษตรลด 2.3% สินค้าสำคัญที่ลด เช่น ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ส่วนเครื่องดื่ม  ไอศกรีม อาหารสัตว์เลี้ยง อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ยังคงเพิ่มขึ้น และสินค้าอุตสาหกรรมลด 3.5% สินค้าสำคัญที่ลด เช่น สินค้าที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน ตามน้ำมันโลกที่อ่อนตัว เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ ลดจากการขาดแคลนชิป และเหล็ก ลดตามราคาตลาดโลก ส่วนเครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์และไดโอด รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

สำหรับตลาดส่งออกที่ขยายตัว 10 อันดับแรก  ได้แก่ 1.สวิตเซอร์แลนด์ เพิ่ม 103.5% 2.ซาอุดีอาระเบีย เพิ่ม 49.6% 3.สปป.ลาว เพิ่ม 28.8% 4.ทวีปออสเตรเลีย เพิ่ม 18.8% 5.เวียดนาม เพิ่ม  13.3% 6.ไต้หวัน เพิ่ม 6.3% 7.กัมพูชา เพิ่ม  5.2% 8.สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพิ่ม 4.1% 9.สหราชอาณาจักร เพิ่ม 3.7% และ 10.เม็กซิโก เพิ่ม  1.1%

ส่วนการค้าชายแดนและผ่านแดนเดือน ต.ค.65 การส่งออกมีมูลค่า 81,937 ล้านบาท ลดลง 0.2% และ  10 เดือนของปี 2565 (ม.ค.-ต.ค.) มีมูลค่า  855,839 ล้านบาท ลดลง 0.7% และหากแยกเป็นการส่งออกชายแดนเดือน ต.ค.65 มีมูลค่า 54,643  ล้านบาท เพิ่ม 4.5% รวม 10 เดือน มีมูลค่า  544,583 ล้านบาท เพิ่ม 17.6% และการค้าผ่านแดนมีมูลค่า 27,293 ล้านบาท ลดลง 8.4% รวม  10 เดือน มีมูลค่า 311,256 ล้านบาท ลดลง  21.9% เพราะหันไปส่งออกทางเรือและทางอากาศมากขึ้น แต่ยังจะเดินหน้าผลักดันการค้าชายแดนต่อไป โดยจะเร่งรัดการเปิดด่านเพิ่ม ซึ่งปัจจุบันเปิดแล้ว 63 ด่านจาก  97 ด่าน และคาดว่าการส่งออกชายแดนทั้งปีจะเกินเป้าที่ตั้งไว้ที่ 5% เพราะเพียง 10 เดือนทำได้แล้ว 17.6%

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า การส่งออกในเดือน ต.ค.65 ที่กลับมาติดลบ 4.4% ถือเป็นการกลับมาติดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 20 เดือนนับจาก ก.พ.64 ส่วนการนำเข้าช่วง ต.ค.65 มีมูลค่า  22,368.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 2.1% ขาดดุลการค้า 596.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รวม 10 เดือน  นำเข้ามูลค่า 258,719.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น  18.3% ขาดดุลการค้า 15,581.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง