ตรึงนํ้ามันดีเซล28บาท นายกฯสั่งจับตา‘โอเปก’

"บิ๊กตู่" ถกนอกรอบแก้ราคาน้ำมัน สั่งกดต่ำ 30 บาท จับตาท่าทีโอเปก "สุพัฒนพงษ์" เผยรัฐใช้เงินกู้ชดเชยจนเหลือลิตรละ 28 บาท ย้ำข้อเรียกร้องดีเซล 25 บาททำไม่ได้ โอดต้องใช้งบวันละ 500 ล้าน ตก 1.8 แสนล้านต่อปี

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน เวลา 13.40 น. ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้เป็นประธานการประชุมนอกรอบเรื่องการแก้ไขปัญหาราคาน้ำมัน ที่ตึกไทยคู่ฟ้า โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี, นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข, นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง เข้าร่วมหารือ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที

จากนั้นนายสุพัฒนพงษ์เปิดเผยผลการหารือว่า ขณะนี้รัฐบาลยังชดเชยราคาน้ำมันอยู่ ส่งผลให้มีราคาต่ำกว่า 30 บาทต่อลิตร และปัจจุบันราคาอยู่ที่ 28 บาทต่อลิตร และพรุ่งนี้ราคาน้ำมันจะลดลงอีก หลังจาก ปตท.ประกาศลดราคาน้ำมัน คาดว่าจะส่งผลให้สถานีบริการรายอื่นลดลงตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตาสถานการณ์โลก ภายหลังประเทศมหาอำนาจ อาทิ สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น และอินเดีย นำน้ำมันสำรองออกมาใช้ ส่งผลให้ประเทศกลุ่มโอเปกรู้สึกขุ่นเคือง จึงต้องจับตาดูการประชุมของกลุ่มโอเปกที่อาจมีการทบทวนเรื่องกำลังการผลิตในวันที่ 4 ธันวาคมนี้

“ไทยเราก็น่าจะเห็นราคาน้ำมันลิตรละ 28 บาทกลางๆ ต่อไป แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์ของกลุ่มประเทศมหาอำนาจเกี่ยวกับการเอาน้ำมันสำรองออกมาใช้จ่ายด้วย หากสามารถกดดันราคาให้ลดลงได้อีก เราก็จะได้ประโยชน์ในส่วนนี้” นายสุพัฒนพงษ์ระบุ

ส่วนข้อเสนอของผู้ประกอบการด้านขนส่งนั้น รัฐบาลจะพิจารณาเป็นข้อๆ ไป หวังว่าเรื่องสถานการณ์ราคาน้ำมันจะปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ก็ช่วยเหลือดูแลค่าใช้จ่ายประชาชน ผ่านโครงการต่างๆ ทั้งโครงการคนละครึ่ง การคงสภาพการจ้างงาน แต่แนวทางที่คิดว่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดคือการพยายามเปิดประเทศอย่างยั่งยืน ไม่ให้มีสถานการณ์โควิดมาซ้ำเติมระลอกใหม่ อย่างไรก็ตาม แม้โครงการคนละครึ่งเฟส 4 ยังไม่มีการพิจารณาในตอนนี้ แต่รัฐบาลกำลังพยายามหาของขวัญปีใหม่มาให้กับประชาชน

นายสุพัฒนพงษ์กล่าวด้วยว่า วงเงินกู้ 2 หมื่นล้านบาทที่เตรียมไว้ คาดว่าจะใช้แก้ปัญหาได้ 4-5 เดือน สำหรับข้อเรียกร้องให้ลดราคาน้ำมันดีเซลเหลือ 25 บาทต่อลิตรนั้น มองว่าทำไม่ได้ เพราะจะต้องใช้งบตกวันละ 500 ล้านบาท หรือเดือนละ 15,000 ล้านบาท หรือตกปีละ 180,000 ล้านบาท

ด้านนายอนุทินกล่าวว่า รัฐบาลพยายามตอบสนองข้อเรียกร้องของสมาพันธ์ต่างๆ เราฟังเสียงทุกเสียง ซึ่งนายกฯสั่งการเชิงนโยบายให้รัฐมนตรีและปลัดกระทรวงพลังงาน

เมื่อถามว่า นายกฯ กังวลเรื่องกลุ่มรถบรรทุกที่ออกมาเคลื่อนไหวหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ได้กังวลตรงนั้น แต่กังวลความเดือดร้อนของผู้ประกอบการมากกว่า พยายามหาวิธีแก้ไข ซึ่งปลัดกระทรวงพลังงานระบุว่าจะมีมาตรการอาจจะหลังต้นเดือน ธ.ค. แต่นายกฯกำชับให้เสร็จโดยเร็วที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามว่า ราคาน้ำมันดีเซลจะต่ำกว่า 30 บาทต่อลิตรใช่หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ใช่ ต้องเป็นอย่างนั้น ส่วนจะต่ำกว่าเท่าไหร่ก็พยายามให้เยอะที่สุด นี่คือสิ่งที่รัฐบาลรับฟัง

ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามสื่อมวลชน ตามที่นายกฯ มอบหมาย กรณีการเปิดลงทะเบียนเพิ่มสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอีก 15 ล้านคน อีกนัยคือผู้มีรายได้น้อยเพิ่มขึ้นว่า นายกฯ ชี้แจงว่าการดำเนินการเรื่องนี้ได้ทำมาเป็นระยะตามงบประมาณ ซึ่งข้อมูลที่มีอยู่เดิมปัจจุบันมีการลงรายละเอียดมากขึ้น คนที่ยังเข้าไม่ถึงในระยะแรกมีอยู่มาก กรอบวงเงินและกิจกรรมการช่วยเหลือมีมากขึ้น ซึ่งต้องปรับเพิ่มต่อเนื่อง และเราต้องดำเนินการต่อไป ไม่ได้หมายความว่าคนรายได้น้อยจะหมดไป เราไม่ได้ปรับโครงสร้างพัฒนาการ การประกอบอาชีพทุกประเภทตามนโยบายการแก้ปัญหาความยากจน รายอาชีพ รายครัวเรือนอย่างยั่งยืนต่อไป การทำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นการหาทางให้ดำรงชีวิตอยู่ในลักษณะความพอเพียงเท่านั้น

ขณะที่นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรคกล้า กล่าวถึงกรณีผู้ประกอบการเตรียมหยุดเดินรถประท้วงราคาน้ำมัน ว่า ขอให้นายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) หารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี โดยขอให้กระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ ตั้งตัวแทนรับฟังปัญหาจากผู้ประกอบการโดยตรง เพื่อแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา มีโอกาสนำไปสู่การหยุดประท้วง ไม่ต้องเอารถทหารมาใช้แทน

สำหรับข้อเสนอลดภาษีสรรพสามิตลงอีก 5 บาทต่อลิตร ตรึงราคาน้ำมันดีเซลบี 7 ให้อยู่ที่ 25 บาทนั้น รองหัวหน้าพรรคกล้ากล่าวว่า เป็นแนวทางที่อาจทำได้ แต่คำถามอยู่ที่รัฐบาลจะเอาภาษีหรือรายได้ส่วนอื่นมาชดเชยอย่างไร ซึ่งไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ไม่ใช่เรื่องระยะสั้น เพราะระยะยาวเชื่อว่าอัตราการบริโภคน้ำมันและความผันผวนของโลก ทั้งความตึงเครียดระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน อัตราการใช้พลังงานหลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย อาจจะผลกระทบต่อเสถียรภาพราคาน้ำมันในระยะยาว รัฐบาลต้องหามาตรการมาดูแลจริงจัง ไม่เช่นนั้นผู้บริโภคคือประชาชนจะเป็นผู้เดือดร้อน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เศรษฐา' เสียใจเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าเสียชีวิตอีกราย

นายกฯ เสียใจเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าเสียชีวิต มอบหมายผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ดูแลจัดการงานศพให้สมเกียรติ และดูแลครอบครัวของผู้เสียชีวิตให้ดีที่สุด