‘พม.’ชูพลังสตรีสร้างชาติ พรรคแข่งประชันนโยบาย

วันสตรีสากล พม.ตีปี๊บพลังสตรีสร้างชาติ! "จุติ" หนุนสังคมเปิดใจกว้างให้โอกาสเข้ามาพัฒนาประเทศ    ขณะที่นักการเมืองหญิงแห่ประชันนโยบายใส่กันไฟแลบ "ตั๊น-มาดามเดียร์"  แท็กทีมเปิดพื้นที่ปลอดภัย ท้องวัยใส-ล้างระบบปิตาธิปไตย แม่ทัพ พปชร.คว้า "น้องสาวสุรินทร์" คุมงาน "หญิงหน่อย" ไม่ตกขบวน ปักธงเพิ่ม ส.ส.หญิงในสภา "รสทช." ไฟแรงจัด รับไม้ลุงตู่เพิ่มสิทธิกลุ่มเปราะบาง “อุ๊งอิ๊ง” อ้างผลงานโบแดงยุคอาปูขายอีกรอบ

 เมื่อวันพุธ ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พม. เป็นประธานพิธีเปิดงานวันสตรีสากล ประจำปี 2566 ภายใต้แนวคิด “พลังสตรีและเด็กหญิง ร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรมและเทคโนโลยี สู่ความเสมอภาคระหว่างเพศอย่างยั่งยืน”   จัดโดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) พร้อมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่สตรี บุคคล และหน่วยงานองค์กรดีเด่นจำนวน 58 รางวัล จาก 15 สาขา ทั้งนี้ ถือเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติแบบอย่างที่ดีของสังคม และรางวัลเกียรติยศในฐานะผู้ทำคุณประโยชน์ต่อสตรีอย่างต่อเนื่อง ให้แก่คุณหญิงณัฐิกา วัธนเวคิน อังอุบลกุล ซึ่งได้รับการคัดเลือกเป็นสตรีดีเด่น 3 ปีซ้อน ถือเป็นสตรีไทยคนแรกที่ได้รับรางวัลเกียรติยศ

นายจุติกล่าวว่า วันสตรีสากล เป็นวันที่ทุกคนระลึกถึงบทบาทของสตรีต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต ครอบครัว สังคม รวมไปถึงโลก สหประชาชาติบอกว่าสตรีทั่วโลกจะมีความเท่าเทียมชายต้องใช้เวลาอีก 300 ปี แต่ตนเองเห็นถึงพลังสตรีไทยมานานหลายปีแล้ว เชื่อมั่นว่าเราสามารถทำได้เร็วกว่านั้นถึง 30 เท่า และเชื่อมั่นพลังสตรีไทยในการเป็นผู้นำ และทำประโยชน์ให้กับสังคมในทุกมิติ ซึ่งสตรีที่ได้รับการยกยกย่องเชิดชูเกียรติครั้งนี้คือสตรีที่ทำงานด้วยหัวใจ โดยไม่ได้คาดหวังถึงรางวัล เพียงแต่ทำงานด้วยความเชื่อมั่น ความรัก และทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม เพื่อต้องการเห็นสังคมและโลกดีขึ้น

 “ทั้งนี้ สตรีจะมีหุ้นส่วนในสังคมมากขึ้น จึงอยากเรียกร้องให้ทุกคนเปิดใจกว้างให้กับสตรีทุกคนได้มีโอกาสพัฒนาประเทศ ถ้าเราได้ปลดปล่อยและเปิดโอกาสให้กับสุภาพสตรี ซึ่งทุกคนมีศักยภาพเพื่อความเท่าเทียมทางเพศ ได้มีโอกาสมาทำงานให้กับประเทศไทย เชื่อมั่นว่าประเทศไทยมีความก้าวหน้าทั้งทางเศรษฐกิจ ธุรกิจ และสังคมอีกมากมาย” นายจุติระบุ

นายจุติกล่าวด้วยว่า พม.ได้กำหนดนโยบายการเสริมพลังผู้หญิงและเด็กหญิงด้านเทคโนโลยีดิจิทัลไว้ในแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาสตรีแห่งชาติ (พ.ศ.2566-2570) เร่งลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลสำหรับผู้หญิงและเด็กหญิง โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล ขณะเดียวกันได้ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการจัดการปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่กระทำความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กหญิงในโลกไซเบอร์ด้วย

ด้าน น.ส.พรประไพ กาญจนรินทร์  ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ​ (กสม.)​ กล่าวว่า มีผู้หญิงจำนวนมากตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงในครอบครัว รวมทั้งมีความเสี่ยงต่อการถูกคุกคามทางเพศมากขึ้นในพื้นที่สังคมออนไลน์ ดังนั้น การรณรงค์เพื่อความเท่าเทียมและช่วยกันแก้ปัญหายังคงเป็นความท้าทายของทุกภาคส่วนที่ต้องร่วมมือกันอย่างแข็งขันต่อไป

ปชป.แท็กทีมพลังหญิง

วันเดียวกัน ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ, น.ส.รัชดา ธนาดิเรก กก.บห.พรรค, น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองเลขาธิการพรรค, น.ส.วทันยา บุนนาค (มาดามเดียร์) ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม. ส.ส. และอดีต ส.ส. รวมถึงว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.หญิงของพรรค ร่วมแถลงจุดยืนของพรรค ปชป. ในวันสตรีสากล 8 มีนาคม 

น.ส.จิตภัสร์กล่าวถึงปัญหาการตั้งครรภ์ของวัยรุ่นวัยเรียน หรือคุณแม่วัยใส ว่า ปัจจุบันแม้จะมีกฎหมายออกมารองรับ โดยพรรค ปชป.พยายามขับเคลื่อนมาโดยตลอด รวมถึงกระทรวงศึกษาธิการเองได้ออกกฎกระทรวงเพื่อช่วยให้นักเรียน นักศึกษา ที่เกิดภาวะตั้งครรภ์ในขณะที่ยังเรียนหนังสืออยู่ ให้สามารถกลับเข้าเรียนได้โดยไม่ถูกกีดกันทางการศึกษา แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังมีอีกหลายครอบครัว หลายโรงเรียน และหลายพื้นที่ที่ยังไม่มีความเข้าใจหรือยังไม่ให้การยอมรับหรือไม่ให้โอกาสกลุ่มวัยรุ่นที่ตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรมากนัก ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ จะเดินหน้าช่วยกันเปิดโอกาสให้กับคนกลุ่มนี้ และจะช่วยสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับครอบครัวของเด็ก รวมถึงสถานศึกษาที่เด็กจะกลับเข้าเรียนด้วย

ด้าน น.ส.วทันยากล่าวว่า เราทุกคนต่างเป็นเหยื่อของระบบปิตาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย จะถูกความคาดหวังในสังคมกำหนดบทบาทตามเพศกำเนิด และกลายมาเป็นอุปสรรคในการทำงานหลายอย่าง ตนเองก็เจอกับอคติทางเพศเหล่านี้ทั้งในการทำงานด้านกีฬา และการเมือง เราควรเลิกเอาค่านิยมที่สังคมสร้างขึ้น ความคิดแบบปิตาธิปไตย ความคิดแบบทวิลักษณ์ คือระบบสองเพศ มากดทับ ปิดกั้นศักยภาพของเราทุกคน  รัฐต้องทำนโยบายหรือกฎหมายสร้างสังคมที่โอบรับทุกคน ทุกกลุ่ม ลดอคติและการเลือกปฏิบัติได้อย่างชัดเจน เปิดกว้างสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับคนทุกกลุ่ม รวมถึงกฎหมายหรือนโยบายที่ไม่เลือกปฏิบัติ เพื่อลดช่องว่างความไม่เท่าเทียมเหล่านี้ ดิฉันเชื่อว่าคนเท่ากันและพรรคประชาธิปัตย์จะสร้างโอกาสที่ทุกคนเท่ากัน ขอให้วันสตรีสากลคือจุดเริ่มต้นของวันเท่าเทียมในทุกมิติ

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ  (พปชร.) ระบุว่า พรรคพลังประชารัฐ ได้ให้ความสำคัญการลดช่องว่างและความเหลื่อมล้ำ ทางสังคมให้กับกลุ่มสตรีและเยาวชน ได้รับสิทธิเท่าเทียมในทุกมิติ เท่ากับเพศชาย ที่นำมาสู่การระดมความคิดเห็นของกลุ่มสตรีพรรคพลังประชารัฐ ในกลุ่มพลังประชารัฐ เพิ่มพลังสตรีไทย” โดยมีนางฮูวัยดีย๊ะ พิศสุวรรณ ที่ปรึกษาด้านสิทธิสตรี ร่วมระดมความคิดเห็นครั้งนี้  

 “การเพิ่มพื้นที่และโอกาสการทำงานของผู้หญิง ความเท่าเทียมทางเพศทุกช่วงวัย ทุกสาขาอาชีพ และทุกศาสนา รวมถึงสิทธิและสวัสดิการที่ผู้หญิงควรจะได้รับ มีความสำคัญต่อเป้าหมายการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ซึ่ง พปชร.เรามีคนรุ่นใหม่ และผู้มีประสบการณ์ที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว แสวงหาแนวทางในการดูแลคนทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย พปชร.เปิดกว้างรับความคิดเห็นจากทุกฝ่ายสู่การผลักดันโยบายด้านสตรีให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและเท่าเทียม” นางนฤมลกล่าว 

รทสช.ฟิตจัดรับไม้ลุงตู่

ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) น.ส.ศิรินันท์ ศิริพานิช, นางรัดเกล้า สุวรรณคีรี, น.ส.ณัฐวรินธร บวรภัควุฒิสิริ และ น.ส.พัชรนันท์ โกศลสมบัตินนท์ 4 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรครวมไทยสร้างชาติ ร่วมทำกิจกรรมลงพื้นที่รณรงค์สิทธิสตรี พร้อมหาแนวทางช่วยเหลือสนับสนุนผู้หญิง ตามแนวคิด “พลังสตรีเด็ก และเด็กหญิง ร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรมและเทคโนโลยี สู่ความเสมอภาคระหว่างเพศอย่างยั่งยืน” ซึ่งเป็นแนวคิดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

น.ส.ศิรินันท์กล่าวว่า ยังมีบางจุดที่ตนอยากจะผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น เช่น การส่งเสริมให้ผู้หญิงรับทราบถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของตัวเอง ที่ผ่านมารัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ได้ดำเนินการมาตลอด เช่น โครงการมารดาประชารัฐ มีเงินช่วยเหลือและสิทธิพิเศษให้เด็กแรกเกิดจนถึง 6 ปี เช่น เงินช่วยเหลือหลังคลอด 600 บาทต่อเดือน เงินช่วยเหลือการตรวจโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย และภาวะดาวน์ซินโดรมในเด็กทารกในหญิงตั้งครรภ์ เป็นต้น

"โดยมีแนวคิดในการลดเงื่อนไขการรับสิทธิเพื่อขยายสิทธิ์ให้เข้าถึงสตรีในกลุ่มต่างๆ มากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันยังมีการจำกัดฐานรายได้ของผู้หญิงที่จะได้รับบริการนี้  เช่น สตรีวัยทำงานที่มีรายได้ไม่เพียงพอ เช่น กลุ่มสตรีที่เป็นมนุษย์เงินเดือนที่มีเงินเดือนน้อย ทำให้ไม่ได้รับสิทธิดังกล่าว ซึ่งหากมีโอกาสได้เข้าไปทำงานเป็นตัวแทน ก็อยากจะผลักดันให้ขยายกลุ่ม โดยการเพิ่มโอกาสให้กับสตรีกลุ่มนี้ด้วย รวมทั้งกลุ่มเปราะบาง อีกกลุ่มคือ กลุ่มผู้หญิงที่ติดเชื้อ HIV ไม่ว่าจะติดจากคู่สมรสหรือไม่ อยากให้ผู้หญิงกลุ่มนี้ได้รับโอกาสในสังคม ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง"   น.ส.ศิรินันท์ระบุ

ขณะที่ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ในพรรคชาติไทยพัฒนาที่ผ่านมาก็มีหัวหน้าพรรคเป็นผู้หญิง และเราพยายามหาให้มีผู้สมัครที่เป็นผู้หญิงให้มากขึ้นเป็นการเพิ่มบทบาทให้กับสตรี และสิ่งหนึ่งที่สำคัญในงานหลายๆ อย่างผู้หญิงไม่ใช่คนออกหน้า แต่เขาเป็นพลังสำคัญของผู้ชายที่อยู่ข้างหลัง ขอให้ผู้ชายเรานั้นตระหนักถึงความสำคัญของผู้หญิงที่เป็นลมใต้ปีกให้ด้วย

ปักธง ส.ส.หญิงในสภา

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ระบุว่า พรรคมีนโยบาย อาทิ กองทุนพลังหญิง เพื่อให้ผู้หญิงทุกคนมีงานทำมีอาชีพที่มั่นคง นอกจากนี้ เพิ่มจำนวน ส.ส.ผู้หญิงในสภา ด้วยโครงการ More WIP เพิ่มจำนวน ส.ส. ผู้หญิงในสภาผ่านการอบรบ เสริมสร้างศักยภาพ สร้างเครือข่าย และให้คำปรึกษา โดยไทยสร้างไทยได้ตั้ง Gender Club เพื่อเสริมพลังและเปิดให้มีการแสดงความเห็นทุกด้าน รวมทั้งรณรงค์ให้ตระหนักรู้สิทธิเสรีภาพในด้านต่างๆ และส่งเสริมให้ผู้หญิงเข้าไปมีส่วนในการบริหารทั้งการเมืองและราชการ อย่างน้อยร้อยละ 20

ที่พรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า  พรรคเพื่อไทย หัวใจสำคัญของการสร้างความเท่าเทียมทางเพศ นโยบายแรกคือ การยกระดับกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ด้วยเทคโนโลยี ให้ผู้หญิงทุกคนเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจและการพัฒนาทักษะ ซึ่งเดิมทีกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี คือหนึ่งในความสำเร็จของการสร้างความเท่าเทียมทางเพศให้เกิดขึ้น ในสมัยรัฐบาลพรรค พท. โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

 “พรรคเพื่อไทยยึดหลักความเสมอภาคทางเพศ เราจะทำให้เพศไม่ใช่อุปสรรคในการใช้ชีวิต เรายืนหยัดที่จะทำให้ทุกคนสามารถสานฝัน ทำในสิ่งที่ทุกคนต้องการ ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศไหน ทุกคนสามารถเป็นทุกสิ่งที่คุณต้องการได้” น.ส.แพทองธารกล่าว

ที่พรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวเปิดตัวนโยบายเพื่อความเท่าเทียมทางเพศ โดยมี 10 นโยบายเพื่อความเท่าเทียมทางเพศของพรรคก้าวไกล ซึ่งเรียงตามช่วงอายุของคนคนหนึ่งตั้งแต่เกิดจนแก่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง