อีสานเชียร์‘ตู่’อยู่ยาว นายกฯควงบิ๊กป้อมลงอุดรชื่นมื่นไหว้พระขอพร

"บิ๊กตู่" ควง "บิ๊กป้อม" ลงพื้นที่อุดรฯ มดขึ้นตลอดทาง ปากหวาน ไม่ทิ้งคนอีสาน โชว์ผลงานโครงสร้างพื้นฐานเพียบ ส่วนชาวบ้านเชียร์อยู่ยาว เผยอธิษฐานวังนาคินทร์ คำชะโนด ขอให้ประเทศชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ปลอดภัย เพราะว่าท่านอยู่คู่แผ่นดินไทยมายาวนาน และต้องอยู่ตลอดไปชั่วกัลปาวสาน พิทักษ์ปกป้องคนไทยให้รอดปลอดภัยจากโควิด

เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2564 เวลา 09.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี, นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม, นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม, นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย และนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม เดินทางลงพื้นที่ จ.อุดรธานี โดยในจุดแรกนายกฯ พร้อมคณะเดินทางมายังวัดเกษรศีลคุณ (วัดป่าบ้านตาด) ต.บ้านตาด อ.เมืองอุดรธานี เพื่อตรวจความก้าวหน้าการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว) โดยนายกรัฐมนตรีได้นั่งรถคันเดียวมาพร้อมกับพล.อ.ประวิตร เป็นรถโตโยต้าอัลพาร์ด เลขทะเบียน กว 5445 อุดรธานี พร้อมมีการประคองกันเป็นระยะระหว่างลงพื้นที่

เมื่อมาถึงนายกรัฐมนตรีเข้ากราบพระประธาน จากนั้นกราบนมัสการพระราชวชิรธรรมาจารย์ หลวงพ่อสุธรรม สุธัมโม เจ้าอาวาสวัดเกษรศีลคุณ (วัดป่าบ้านตาด) และพระราชภาวนาวชิรากร (หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก) เจ้าอาวาสวัดอุดมมงคลวนาราม (วัดป่านาคำน้อย) ก่อนสนทนาธรรมกับพระเกจิอาจารย์ทั้ง 2 รูป โดยเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด มอบหนังสือประวัติความเป็นมาของวัดป่าบ้านตาดให้นายกฯ

พร้อมกล่าวกับนายกฯ ขอให้รัฐบาลยกเลิกถนนเส้นเก่าที่ตัดผ่านทางวัด เพราะได้มีการตัดถนนเส้นใหม่เพื่อให้ชาวบ้านสัญจรได้สะดวกขึ้นแล้ว โดยนายกฯ กล่าวว่า จะรับเรื่องไป หากมีอะไรให้เสนอขึ้นมา มีจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับเรื่อง หลายอย่างต้องใช้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและใช้กฎหมายต่างๆ หากมีอะไรแจ้งมา พร้อมทิ้งท้ายด้วยว่า "ผมเป็นคนโคราช เป็นลูกอีสาน ยังไงผมก็ไม่ทิ้งชาวอีสานอยู่แล้ว"

เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาดยังกล่าวว่า เป็นวันมหามงคล ยิ่งที่นายกฯ และคณะมาเยี่ยมวัดป่าบ้านตาด ซึ่งไม่คาดคิดมาก่อน เห็นแต่ในสื่อวันนี้ได้เห็นตัวจริง และยังให้พร พล.อ.ประวิตร ขอให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ เป็นมิ่งขวัญของประเทศชาติตลอดไป

จากนั้น พล.อ.ประวิตรได้แยกมาพบกับชาวบ้านอีกกลุ่มหนึ่งที่มาให้กำลังใจในงาน โดย พล.อ.ประวิตรได้ขอบคุณชาวบ้าน และขอให้ทุกคนสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ให้ทำงานต่อไป ยืนยันว่ารัฐบาลนี้ไม่มีใครทะเลาะกัน และพร้อมเดินหน้าทำงาน

ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์จะควง พล.อ.ประวิตรเดินทักทายประชาชน พร้อมกล่าวว่า ดีใจได้มาพบปะทุกคนที่นี่ ซึ่งนายกฯ เคยมาหลายครั้งแล้ว วันนี้พระอาจารย์ได้ให้กำลังใจนายกฯ และ ครม.ให้ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองต่อไป เพื่อให้สุขภาพแข็งแรง ซึ่งพรที่ได้มาขอให้ส่งไปยังชาวอุดรฯ และคนไทยทั้งประเทศ เราเป็นประเทศที่มีหลายจังหวัด จังหวัดใครใครก็รัก แต่เราต้องเผื่อแผ่ความรักให้กับจังหวัดอื่นด้วย เพราะเราคือคนไทย ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่อยู่ในทางสายกลาง เราต้องเอาคำสอนมาใช้มาแปลและสร้างความเข้าใจ ไม่เช่นนั้นก็จะปฏิบัติไม่ถูก ซึ่งคนไทยมี 2 อย่าง ทำบุญกับพระกับวัด และช่วยกันทำทานบริจาคให้คนอื่น คนที่ยากไร้กว่าเรา ถ้าทำได้ประเทศไทยไปโลด

ไม่เคยทิ้งอีสาน

"นายกฯ ในฐานะเป็นคนอีสานด้วยกัน ไม่เคยลืม ไม่เคยทิ้งอีสาน จะเห็นว่าโครงการต่างๆ ได้ลงมาในพื้นที่แล้ว ถ้ามีโอกาสได้ทำต่อไปโครงการอื่นๆ จะสำเร็จขึ้นเรื่อยๆ วันหน้าลูกหลานของเราจะมีความสุข วันนี้ทำเพื่อลูกหลาน นายกฯ ยึดแบบนี้ ซึ่งหลายอย่างติดขัดบ้างต้องแก้ปัญหาในระดับประชาชนให้ได้ ถ้าทำได้ก็จะดีและเกิดผลโดยรวม" นายกฯ กล่าว

นายกฯ ยังแนะนำ พล.อ.ประวิตรกับประชาชนว่า วันนี้รองฯ ประวิตรรับผิดชอบแก้ปัญหาความยากจน รวมถึงหนี้นอกระบบให้กับประชาชน ขณะที่ชาวบ้านตะโกนว่า รักลุงตู่ เป็นกำลังใจให้นายกฯ นายกฯ สู้ๆ ลุงตู่อยู่ยาว และขออย่ายุบสภา นายกฯ จึงกล่าวตอบว่า "รักทุกคน ฝากถึงทุกคนชาวอุดรด้วย"

นอกจากนี้ มีทหารผ่านศึกคนหนึ่งถือป้ายให้กำลังใจว่า "นายกฯ สู้ๆ ขอสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ต่อไปอีก 20 ปี" ต่อจากนั้นนายกฯ พร้อมคณะตรวจความก้าวหน้าการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศการลงพื้นที่ของนายกฯ และคณะในวันเดียวกันนี้ ผู้ที่มาร่วมงานจะต้องลงทะเบียนผ่านคิวอาร์โค้ด เพื่อรับชุดตรวจ ATK และรับการตรวจผ่านรถตรวจ เพื่อเป็นการคัดกรองก่อนเข้างาน นอกจากนี้มีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่และพื้นที่โดยรอบ รวมไปถึงตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ประมาณ 1 กองร้อย และรถควบคุมผู้ต้องขังประจำการในพื้นที่ แต่ยังไม่พบรายงานว่ามีมวลชนกลุ่มต่อต้านแฝงตัวเข้ามาในพื้นที่แต่อย่างใด

ต่อมาเวลา 11.00 น. ที่ศูนย์ประชุมมลฑาทิพย์ฮอลล์ อ.เมืองอุดรธานี พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเกี่ยวกับการพัฒนาจังหวัดอุดรธานี เพื่อหารือแลกเปลี่ยนทิศทางการพัฒนาจังหวัด

โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลเห็นถึงศักยภาพของจังหวัดอุดรธานี ในการเป็นศูนย์กลางของอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (Hub of GMS) ได้อนุมัติงบประมาณ ปรับปรุงระบบโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนในทุกมิติ 1.รถไฟฟ้าความเร็วสูง กำลังเร่งก่อสร้าง จาก กรุงเทพฯ-นครราชสีมา-ขอนแก่น ผ่านอุดรธานีสิ้นสุดที่หนองคายและเชื่อมต่อกับระบบรถไฟลาว-จีน 2.ท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานี ซึ่งเป็นสนามบินภูมิภาคของกรมท่าอากาศยาน ที่มีผู้ใช้บริการสูงสุดก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 ก็กำลังจะขยายให้รองรับผู้โดยสารให้ได้มากขึ้นเป็นจำนวน 7 ล้านคนต่อปี

ฝากถึงกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า 3.ถนนมิตรภาพ อุดรธานี-หนองคาย กำลังขยายเป็น 6 เลนตลอดสาย ลงมือก่อสร้างแล้วในปีนี้ (2564) คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2567 ช่วยรองรับนักธุรกิจ นักท่องเที่ยวจาก สปป.ลาว และจีนได้อีกมาก 4.ถนนสายใหม่ตัดตรง อุดรธานี-บึงกาฬ ปลายทางเชื่อมต่อสะพานข้ามแม่น้ำโขง แห่งที่ 5 บึงกาฬ-บอลิคำไซ ขณะนี้สำรวจเส้นทางที่จะสร้างถนนเสร็จแล้ว ถนนสายนี้มีมูลค่าประมาณ 5,500 ล้านบาท ซึ่งจะมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมตั้งงบประมาณก่อสร้างโดยเร็วต่อไป เพื่อให้เชื่อมกับสะพานข้ามแม่น้ำโขง จ.บึงกาฬที่กำลังลงมือก่อสร้างอยู่ โดยชาวอุดรธานีและทุกจังหวัดในภูมิภาคนี้จะได้รับประโยชน์มาก

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมแนวคิดภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และผู้แทนนักธุรกิจรุ่นใหม่ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของรัฐบาลในการผลักดันภาคเกษตรกรให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เกิดการเปลี่ยนแปลงการทำการเกษตรให้มีมูลค่าสูงขึ้น พร้อมฝากให้กลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่สร้างความเข้าใจที่ตรงกัน เน้นความรักความสามัคคี ยืนยันตนเองไม่ได้ขัดแย้ง ไม่ได้รังแกใคร และไม่ได้ใช้อำนาจกลั่นแกล้ง ขอให้คนรุ่นใหม่และทุกคนยึดหลักชัยของชาติคือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพราะเป็นแผ่นดินไทยที่เติบโตและตายที่ประเทศไทย ขอให้หยุดความขัดแย้ง อย่าทำโอกาสให้เป็นวิกฤต ช่วยกันพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส เพราะทุกคนคือคนไทยต้องช่วยกันสร้างประเทศไทยให้มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณด้านหน้าศูนย์ประชุม มีประชาชนมารอให้การต้อนรับอย่างหนาแน่น พร้อมคล้องผ้าขาวม้าและให้กำลังใจนายกฯสู้ๆ อย่าไปไหน ก่อนที่นายกฯ จะหันไปส่งนิ้วโป้งเยี่ยม และกล่าวว่า ผ้าขาวม้านี้จะมัดใจไปด้วยกัน ตนรักคนอุดร รักคนอีสานทุกจังหวัด เราต้องไปด้วยกัน อย่างไรก็ตาม อีกฟากของถนนยังมีกลุ่มเห็นต่างมารออยู่ประมาณ 10 คน พร้อมชูสัญลักษณ์ 3 นิ้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามเจรจาให้ออกจากพื้นที่แต่ไม่เป็นผล จึงใช้วิธีกางร่มดำและนำป้ายให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีมาปิดกลุ่มผู้เห็นต่าง

จากนั้นเวลา 14.30 น. ที่วังนาคินทร์ คำชะโนด ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี พล.อ.ประยุทธ์ตรวจพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวศักดิ์สิทธิ์ "วังนาคินทร์ คำชะโนด" ซึ่งเป็น 1 ใน 6 อำเภอนำร่องเปิดท่องเที่ยวภายใต้แผนเปิดเมือง UDON PLUS MODEL เพื่อตรวจความพร้อมในการเปิดเมืองต้อนรับนักท่องเที่ยวตามนโยบายรัฐบาล เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจในพื้นที่ หลังได้รับผลกระทบจากการปิดกิจการเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 โดยนายกฯ ได้ทักทายประชาชนและพ่อค้าแม่ค้า พร้อมบอกรักทุกคน และเตือนอย่าการ์ดตกขอให้เข้มมาตรการป้องกันโควิด-19 ก่อนจะเข้าสักการะพ่อปู่ศรีสุทโธ และแม่ย่าศรีปทุมมา ประจำวังนาคินทร์ คำชะโนด โดยนายกฯ ใช้พานบายศรีขนาดกลางเป็นพญานาค 9 เศียร พร้อมดอกไม้หมากพลู ซึ่งขอพรได้ทุกอย่าง ขอโชคขอลาภ ยศถาบรรดาศักดิ์

นายกฯ เปิดเผยภายหลังสักการะว่า "นายกฯ ขอพรให้ประเทศชาติและประชาชนมีความสุข ขอให้โควิดหมดสิ้นไป ขอให้ประเทศไทยเจริญก้าวหน้าในทุกมิติ ขอให้ปราศจากความขัดแย้ง และขอให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพื่อทุกข์สุขของประชาชนโดยรวม ได้ขอพรพ่อปู่แม่ย่า ขอให้ครอบครัวมีความสุข แข็งแรง เป็นกำลังใจให้ผมต่อไป และตลอดไป คนทำดีก็ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จ"

นายกฯ ทักทายแผงหวย

ภายหลังสักการะ นายกฯ สอบถามเจ้าหน้าที่​ว่าส่วนใหญ่ประชาชนที่เดินทางจะขอพรในเรื่องใด​ ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่า​ ทั้งขอเรื่องหน้าที่การงานและมาขอหวย​ โดยเฉพาะ​ในวันหวยออก​ประชาชนเดินทางมาขอพรเป็นจำนวนมาก​ นายกฯ จึงถามอีกว่า​ ขอแล้วถูกหวยหรือไม่​ ซึ่งขึ้นอยู่กับดวงของแต่ละคน จากนั้นนายกฯ เยี่ยมชมบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่กลางป่าคำชะโนด ซึ่งชาวบ้านเชื่อกันว่าหากมาอธิษฐานหน้าบ่อน้ำก็จะสมปรารถนา

ต่อจากนั้นนายกฯ ได้เดินทักทายประชาชนและพ่อค้าแม่ค้าแผงหวย พร้อมเหมาสลากกินแบ่งทั้งหมด เพราะใกล้จะออกรางวัลแล้วแต่ยังขายไม่หมด นายกฯ จึงเหมาสลากเลขท้าย 00 ไป 20 ใบ พร้อมย้ำว่า อย่าให้ได้ยินว่าขายเกิน 80 บาท

พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ จ.อุดรธานี ว่ามาอธิษฐานขอให้ประเทศชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ปลอดภัย เพราะว่าท่านอยู่คู่แผ่นดินไทยมายาวนาน และต้องอยู่ตลอดไปชั่วกัลปาวสาน พิทักษ์ปกป้องคนไทยให้รอดปลอดภัยจากโควิด ขอให้ตนทำงานสำเร็จ ขอให้ประเทศชาติมีการพัฒนาที่เรียกว่าพลิกโฉมประเทศไทย ในการปรับเปลี่ยนทุกอย่างตามมาตรการที่เหมาะสม ตนอยากให้ทุกอย่างที่ตั้งเจตนารมณ์ไว้ตลอดหลายปีที่ผ่านมาสำเร็จ ในระหว่างที่ยังทำหน้าที่อยู่ ก็หวังว่าทุกคนจะช่วยกัน หากไม่มีอะไรที่ค้างคาเยอะแยะ ต้องทำสำเร็จไปแล้ว เพราะมันมีหลายอย่างที่ถูกทิ้งไว้ ตนก็ต้องมารื้อทุกวัน ให้สิ่งใหม่เกิดขึ้นได้ แต่ตนไม่โทษใครทั้งสิ้น

เมื่อถามว่าการลงพื้นที่จังหวัดอุดรฯครั้งนี้มีความอบอุ่นหรือไม่ นายกฯ ตอบว่า ก็อบอุ่น ไปไหนก็อบอุ่น เพราะตนอยู่ท่ามกลางคนไทยที่รักชาติ

ถามว่าชาวบ้านบอกให้นายกฯ อยู่ยาวๆ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า อยู่ได้แค่ไหนก็อยู่แค่นั้น

ซักว่า บรรยากาศดีหรือไม่ เพราะพล.อ.ประวิตรได้ลงพื้นที่ด้วย นายกฯย้อนว่า ทำไม เมื่อท่านว่างก็มา นับเป็นนิมิตหมายที่ดี ตนว่างก็มา มาได้ก็มา สุขภาพท่านแข็งแรงมากับตนได้ก็มา ไม่เห็นจะเป็นเรื่องใหญ่โต ตนก็ชวน รมว.มหาดไทยบ้าง พล.อ.ประวิตรบ้าง ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร วันนี้เดินไกล พล.อ.ประวิตรก็มา พอดีมีวันว่างตรงกันท่านก็มา บางเวลาท่านก็ไปงานของท่านเข้าใจหรือไม่ อย่าไปมองเป็นเรื่องการเมืองอย่างเดียวเลย

ผู้สื่อข่าวถามว่า คนอีสานสนับสนุนให้นายกฯ อยู่ต่อ ก็จะมีกำลังใจมากขึ้นใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็ต้องมีสิ จะไม่มีได้อย่างไร

เมื่อถามว่า ที่นายกฯ ระบุกับชาวบ้านระหว่างการลงพื้นที่ จ.อุดรธานี เหมือนการให้คำมั่นสัญญาว่าจะอยู่ครบเทอม นายกฯ ตอบว่า ตนไม่จำเป็นต้องให้คำมั่นสัญญาอะไร ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกระบวนการสภา

จากนั้นนายกฯ เดินทักทายกลุ่มประชาชน ที่นำโดยนายอานนท์ แสนน่าน ผู้ริเริ่มก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย ที่นำมวลชนมาชูป้ายต้อนรับ เช่น คนอุดรธานีรักลุงตู่ ให้เป็นนายกรัฐมนตรีอีก 1 สมัย พร้อมตะโกนให้กำลังใจ ลุงตู่สู้ๆ เรารักลุงตู่ โดยนายกฯกล่าวว่า ตนบันทึกเทปไว้แล้วนะว่าใครพูดอะไรบ้าง และขอให้สู้ไปด้วยกัน รักคนไทยทุกคน ขอให้ทุกคนรักกัน เราคนไทยจะไม่ทิ้งกัน พร้อมกล่าวว่าขอให้หมู่เฮารักกัน และขอบคุณหมอ พยาบาล อสม.ที่ช่วยกันแก้ไขปัญหาโควิด-19

ทั้งนี้ ก่อนเดินทางกลับนายกฯ ได้กล่าวกับประชาชนที่มาส่งว่า ทุกคนต้องช่วยกัน ยืนยันว่าไม่มีอะไรหรอก รัฐบาลตั้งใจทุกอย่าง ขอเพียงอย่าขัดแย้งซึ่งกันและกัน นายกฯ เองก็ตั้งใจมาก ขอฝากทุกคน ขอให้ทุกคนปลอดภัย และโอกาสหน้าจะมาเยี่ยมเยียนอีกครั้ง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' การันตี ภท. ไม่ปรับ ครม. ชี้ 8 รมต. ทำงานคืบหน้า

'อนุทิน' ย้ำรัฐมนตรีภูมิใจไทย 8 คน ไม่มีขยับ ชี้ทุกคนทำงานเต็มที่ผลักดันนโยบายคืบหน้าตลอด นายกฯ ยังไม่ส่งสัญญาณปรับ ครม. พร้อมอุ้ม 'เกรียง' มอบ พช. ดูแลเพิ่มอีกกรม