โจรใต้ยังก่อเหตุรายวัน กราดยิงตร.ที่ปัตตานีดับ

ปัตตานี ๐ 4 โจรใต้สวมชุดดาวะห์ใช้อาวุธสงครามยิงถล่ม ตร.เสียชีวิต ขณะอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่สัญจรบนถนนช่วงเวลาที่รถไฟกำลังจะผ่านเส้นทาง ต.นาประดู่ ยะลาสั่งคุมเข้ม ตั้งจุดสกัดบริเวณรอยต่อ

     ผู้สื่อข่าวปัตตานีรายงานว่า เมื่อเวลา  12.30 น. วันที่ 10 มิถุนายน 2566    ร.ต.อ.ปรีชา ประชุมชัย รอง สว.(สอบสวน) สภ.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณป้อมถนนพาดทางรถไฟบ้านนาประดู่ ม.6 ต.นาประดู่ หลังรับแจ้งจึงนำกำลังไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปราบพาล มีมงคล รอง ผบช.ภ.9, นายอับดุลการีม ยีดำ นายอำเภอโคกโพธิ์, พ.ต.อ.ชาติชาย ชนะสิทธิ์ ผกก. เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ได้ปิดเส้นทางบริเวณที่เกิดเหตุทันที

     จากนั้นจึงเข้าทำการตรวจสอบ พบเจ้าหน้าที่ตำรวจนอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ด้านข้างป้อมริมถนน ทราบชื่อ ส.ต.ต.พิจักษณ์ บัวแก้ว อายุ 22 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่ นปพ.ปัตตานี 13 สภ.นาประดู่ อยู่บ้านเลขที่ 668 ถ.โชคสมาน ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สภาพศพอยู่ในเครื่องแบบตำรวจ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเอ็ม 16 และ 9 มม. เข้าลำตัวหลายนัด ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนหลายปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

     จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่รถไฟ จำนวน 2 นาย กำลังอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่สัญจรบนถนนขณะที่รถไฟกำลังจะผ่านเส้นทางดังกล่าว พนักงานรถไฟที่อยู่ภายในป้อมได้กดสวิตช์สัญญาณไม้กั้นทางรถไฟลงมาเพื่อให้รถที่สัญจรหยุด เมื่อรถไฟได้ผ่านไปพนักงานรถไฟจึงได้กดสัญญาณเปิดทาง

     ปรากฏว่าช่วงที่รถจำนวนมากเคลื่อนตัวออกไป คนร้าย 4 คนแต่งกายชุดดาวะห์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะจำนวน 2 คันขี่ปะปนอยู่ด้วยนั้น  และเป็นจังหวะที่ผู้ตายยืนอยู่เพื่ออำนวยความสะดวก คนร้ายฉวยจังหวะที่ผู้ตายเผลอชักอาวุธปืนกระหน่ำยิงผู้ตายทันทีหลายนัดจนล้มลง จากนั้นจึงได้ลงจากรถชิงอาวุธปืนเอ็ม 16 ของผู้ตายยิงซ้ำอีกหลายนัดจนเสียชีวิตทันที ก่อนหลบหนียังได้ชิงอาวุธปืนประจำกายขนาด 9 มม.ของผู้ตายไปด้วย

     หลังเกิดเหตุ พล.ต.ขจรศักดิ์ อินทร์ทอง ผบ.ฉก.ปัตตานี, พล.ต.ต.อาซาน จันทร์ศิริ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี นำกำลังชุดปฏิบัติการร่วมและชุดสืบสวนเข้าที่เกิดเหตุ พร้อมสั่งการให้จัดกำลังไล่ล่าคนร้ายตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี และจัดกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายบริเวณที่เกิดเหตุในรัศมี 500 เมตร พร้อมทั้งให้รวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทุกตัวทั้งบริเวณที่เกิดเหตุและตามเส้นทางต่างๆ

     ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพยานหลักฐานเบื้องต้นพอที่จะรู้เบาะแสคนร้ายแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากต้องรอผลตรวจสอบจากพยานหลักฐานให้ชัดเจนอีกครั้ง ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้เชื่อว่าเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบชุดเดิมที่อยู่ในสารบบคดีความมั่นคง

     ขณะที่ชุดสืบสวนสอบสวนคดีความมั่นคงระบุว่า ก่อนหน้านี้ได้รับรายงานว่าจะมีการก่อเหตุเจ้าหน้าที่ของรัฐในพื้นที่เขตรอยต่อ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี และ อ.เทพา จ.สงขลา ซึ่งหน่วยงานความมั่นคงได้มีการแจ้งเตือนและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะแผนลวงที่คนร้ายอาจจะใช้วิธีการแผนซ้อนแผนเพื่อทำร้ายเจ้าหน้าที่และเป้าหมายอ่อนแอ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยมีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้เชื่อว่าคนร้ายมีการวางแผนก่อนที่จะก่อเหตุ และเป็นกลุ่มเดิมที่ยังเคลื่อนไหวในพื้นที่และรู้เส้นทางหลบหนี

     ทางด้าน พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 ได้วิทยุสั่งการเร่งด่วน แจ้งเตือน และกำชับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ให้ระมัดระวังการก่อเหตุ โดยเฉพาะฐาน นปพ. ที่มี จนท. การลาดตระเวนโดยทางเท้า การถูกซุ่มโจมตี ลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติหน้าที่ การลวงเข้าที่เกิดเหตุ เน้นย้ำให้มีการปรับเปลี่ยนวิธีการในการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ให้มีความพร้อมและหมั่นสังเกตสิ่งผิดปกติอยู่เสมอ การเข้าเวรยามของ จนท. ต้องมีคนคอยช่วยเหลือเสมอ มีชุดเตรียมความพร้อมหากมีเหตุต้องสนับสนุนได้ในทันที

     ทางด้านตำรวจ สภ.เมืองยะลา ได้กระจายกำลังเข้าดูแลพื้นที่ พร้อมตั้งจุดตรวจจุดสกัดในเขตรอยต่อที่มีความสุ่มเสี่ยง ซึ่งคาดว่าคนร้ายอาจจะใช้เป็นเส้นทางลักลอบผ่านเข้ามาสู่เมืองยะลา เน้น ตรวจเข้มงวดบุคคล รถยนต์ รถจักรยานยนต์ต้องสงสัย เป้าหมาย รวมถึงสิ่งของต้องสงสัย เพื่อป้องกัน สกัดกั้น กลุ่มคนร้ายที่อาจจะแฝงตัวเข้ามาก่อเหตุสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ เพิ่มความเชื่อมั่นความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง