เตรียมพัฒน์ร่อนหนังสือชี้แจงยิบ "หยก" ไม่ได้เป็นนักเรียน เหตุไม่มอบตัวตามกำหนด แต่โรงเรียนอนุญาตให้เข้าเรียนก่อน กลับไม่ปฏิบัติตามระเบียบ ย้อมผม ไม่แต่งชุดนักเรียน การทำสีผม เลือกเรียนวิชาตามความพอใจ "อังคณา" ยกอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ผู้ปกครองต้องดูแลหยก "โบว์" ชี้เด็กมีปัญหา แม่ตัดการติดต่อตั้งแต่ถูกดำเนินคดี
จากกรณี น.ส.ธนลภย์ ผลัญชัย หรือ หยก เยาวชนนักเคลื่อนไหวทางการเมือง อายุ 15 ปี โพสต์ข้อความว่าถูกไล่ออกจากโรงเรียน พร้อมเล่าถึงเหตุการณ์ที่ได้รับแจ้งว่าจากนี้ไปตนคือบุคคลภายนอก ล่าสุด คณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงสาเหตุ โดยระบุรายละเอียดว่า ตามที่นางสาวธนลภย์มีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารตามสื่อต่างๆ และช่องทางโซเชียลมีเดียนั้น คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ สมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ สมาคมนักเรียนเก่าเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ชมรมครูเก่าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ เครือข่ายผู้ปกครองโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ และสภานักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ขอแถลงการณ์ ดังนี้
1.นางสาวธนลภย์ ผลัญชัย สำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2565 ซึ่งเป็นการศึกษาภาคบังคับตามกฎหมาย วันที่ 1 เมษายน 2566 มารดาของนางสาวธนลภย์ ผลัญชัย ได้มาบันทึกขอเลื่อนการมอบตัวเพื่อศึกษาต่อระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ต่อมาวันที่ 19 พฤษภาคม 2566 โรงเรียนได้รับรายงานตัวนางสาวธนลภย์ ผลัญชัย ไว้ก่อน เพื่อรักษาสิทธิ์ในการศึกษาต่อ หลังจากศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนหญิงบ้านปรานี จังหวัดนครปฐม ได้ปล่อยตัวในคดีมาตรา 112 ซึ่งในการรายงานตัวดังกล่าว ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขในการมอบตัวตามประกาศการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2566 ที่กำหนดให้นักเรียนต้องมามอบตัวที่โรงเรียนพร้อมกับผู้ปกครอง (มารดา) ในวันที่ 2 เมษายน 2566 ซึ่งโรงเรียนอนุญาตให้นักเรียนเข้าเรียนก่อน และเน้นย้ำให้นำผู้ปกครอง (มารดา) มามอบตัวนักเรียนให้สมบูรณ์ภายในวันที่ 10 มิถุนายน 2566 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่โรงเรียนจะต้องยืนยันข้อมูลจำนวนนักเรียนในระบบ DMC ของกระทรวงศึกษาธิการ แต่นักเรียนไม่ได้ดำเนินการดังกล่าว ทำให้ไม่มีฐานข้อมูลในระบบ จึงไม่ได้เป็นนักเรียนของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ในปีการศึกษา 2566
2.หลังจากที่นางสาวธนลภย์ ผลัญชัย เข้าเรียนในวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 โรงเรียนได้ชี้แจงให้นักเรียนรับทราบระเบียบแนวปฏิบัติตามคู่มือนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ปีการศึกษา 2566 ที่ผ่านการประชาพิจารณ์โดยภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน และนักเรียนทุกคนได้ปฏิบัติตามระเบียบนี้ แต่นางสาวธนลภย์ ผลัญชัย ไม่ปฏิบัติตามระเบียบ เช่น ไม่แต่งกายชุดนักเรียน การทำสีผม การมาเรียนตามเวลา/รายวิชาตามความพอใจของนักเรียน รวมทั้งขอไม่เข้าร่วมกิจกรรมโฮมรูม กิจกรรมหน้าเสาธง และกิจกรรมอื่นๆ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นการไม่ยอมรับกฎระเบียบและไม่เข้าสู่กระบวนการของโรงเรียน
3.โรงเรียนขอเน้นย้ำให้ทราบ ว่าไม่เคยปฏิเสธการรับนักเรียนเข้าเรียน และได้ให้การดูแลตามระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างเต็มกำลังความสามารถ ถึงแม้นักเรียนไม่ได้ให้ความร่วมมือในการปรับปรุงพฤติกรรมตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น จึงประกาศมาให้ทราบทั่วกัน
ลงชื่อ นายปรีชา จิตรสิงห์ ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ
ขณะที่ นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า หากน้องหยกต้องการเข้ามาเรียนที่โรงเรียนเตรียมอุดมพัฒนาการ ก็ยังมีที่นั่งว่างสำหรับให้น้องหยกเข้าเรียน เพียงแต่ต้องปฏิบัติตามระเบียบ ซึ่งมีการทำประชาพิจารณ์สอบถามความคิดเห็นจาก 3 ส่วน คือ ครู นักเรียน และผู้ปกครอง ก่อนออกมาเป็นข้อกำหนดที่ใช้ร่วมกันภายในสถานศึกษา ดังนั้น อยากให้สังคมมีความเข้าใจในส่วนนี้ แต่หากน้องหยกไม่อยากทำตามกติกาดังกล่าว ก็สามารถเลือกเรียนได้ในช่องทางอื่นๆ ทั้งการศึกษานอกระบบ หรือการเรียนด้วยตัวเองที่บ้าน หรือโฮมสคูล เป็นต้น
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวว่า เรื่องเครื่องแต่งกายชุดนักเรียนหรือชุดไปรเวตมาเรียนนั้น ทาง ศธ.กำหนดระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยเครื่องแบบนักเรียน พ.ศ.2551 ไว้เป็นกรอบ แต่ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของสถานศึกษา ซึ่งมีบางแห่งกำหนดให้มีการแต่งกายชุดไปรเวตสัปดาห์ละ 1 วัน แต่ต้องเป็นไปตามความคิดเห็นของส่วนรวมที่กำหนดร่วมกัน 3 ฝ่ายคือ ครู นักเรียน และผู้ปกครอง รวมถึงเรื่องทรงผมก็มีการเปิดกว้างให้สถานศึกษา นักเรียน และผู้ปกครอง สามารถกำหนดได้เอง
นางอังคณา นีละไพจิตร อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าวว่า โพสต์นี้อาจไม่ถูกใจบางคน แต่ก็อยากจะพูดในฐานะคนทำงานด้านสิทธิมนุษยชน ที่ต้องยืนยันหลักการ ตามแถลงการณ์ของโรงเรียนเตรียมอุดมพัฒนาการ คือ การรายงานตัวที่ต้องมีผู้ปกครอง (ตามกฎหมาย) มาร่วมในการรายงานตัวเด็กที่โรงเรียน
เธอระบุว่า ในส่วนของผู้เยาว์ ตามกฎหมายไทยและกฎหมายระหว่างประเทศให้ความสำคัญกับผู้ปกครองมาก ในอารัมภบทของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ขององค์การสหประชาชาติ ย่อหน้าที่ 5 ระบุว่า
"เชื่อว่า ครอบครัวในฐานะเป็นกลุ่มพื้นฐานของสังคมและเป็นสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ สำหรับการเจริญเติบโตและการกินดีอยู่ดีของสมาชิกทุกคน โดยเฉพาะเด็กควรได้รับการคุ้มครองและการช่วยเหลือที่จำเป็น เพื่อที่จะสามารถมีความรับผิดชอบในชุมชนของตนได้เต็มที่"
"ยอมรับว่า เพื่อให้พัฒนาบุคลิกภาพได้อย่างกลมกลืนและเต็มที่ เด็กควรจะเติบโตในสิ่งแวดล้อมของครอบครัว .." (ย่อหน้าที่ 6) และ "คำนึงถึงว่า ตามที่ได้ระบุในปฏิญญาว่าด้วยสิทธิเด็กนั้น เด็กโดยเหตุที่ยังไม่เติบโตเต็มที่ทั้งทางร่างกายและจิตใจ จึงต้องการการพิทักษ์และดูแลเป็นพิเศษ รวมถึงต้องการการคุ้มครองทางกฎหมายที่เหมาะสมทั้งก่อนและหลังการเกิด" (ย่อหน้า 9)
ผู้ปกครอง (พ่อแม่) จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินการต่างๆ ต่อเด็ก (อายุต่ำกว่า 18 ปี) ไม่ใช่ให้ใครก็ได้มาเป็นผู้ปกครองแทน ซึ่งตามกฎหมายผู้ปกครองคือ พ่อแม่ หากพ่อแม่ไม่มีความสามารถ หรือเป็นบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ หรือกรณีที่เด็กไม่มีพ่อแม่ รัฐมีหน้าที่ต้องให้ความคุ้มครองต่อเด็ก
น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือโบว์ นักกิจกรรมนักเคลื่อนไหวทางการเมือง โพสต์เฟซบุ๊กว่า เด็กมีปัญหา แม่ตัดการติดต่อ ถูกดำเนินคดียังไม่มาดูแล ล่าสุดเข้าโรงเรียนใหม่ไม่มีใครไปเซ็นมอบตัว โรงเรียนยืดหยุ่นให้แล้ว แต่ปฏิเสธที่จะทำตามกฎ ไม่เข้าเรียนคาบเช้า ไม่เรียนวิชาที่ไม่อยากเรียน ไม่ร่วมกิจกรรมที่ไม่อยากร่วม ไม่ใส่เครื่องแบบ ย้อมผมผิดระเบียบ ไม่ร่วมมือกับครูที่พยายามพูดคุย ล่าสุดไปโรงเรียนสายรั้วปิดแล้ว ขนเพื่อนไปยืนระรานด่าทอ รปภ.หน้าประตูอย่างหยาบคาย
แทนที่จะเห็นปัญหาหนักของการขาด “ผู้ปกครอง” และเร่งช่วยเหลืออย่างเป็นมืออาชีพ อย่างผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบ นักการเมืองบางคน พรรคการเมืองบางพรรค ผู้เล่นทางการเมืองและแนวร่วม กลับส่งเสริมให้ท้ายพฤติกรรมจักรวาลหมุนรอบตนเองนี้ต่อไป เพื่อประโยชน์ทางการเมือง
แต่ความอดทนของสังคมมีขีดจำกัด ผู้คนรู้ว่าสังคมมีปัญหาอยู่เสมอ และต้องหาทางออกอย่างมีวุฒิภาวะ เขาจะไม่ปล่อยให้กระแสความโกรธแค้นเกลียดชังที่ถูกปลุกปั่นขึ้นมานำพาสังคมไปอย่างผิดทิศผิดทางแล้วนั่งมองเฉยๆ อีกต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พปชร.ขับก๊วนธรรมนัส ตัดจบที่ดิน‘หวานใจลุง’
"บิ๊กป้อม" ไฟเขียว พปชร.มีมติขับ 20 สส.ก๊วนธรรมนัสพ้นพรรค "ไพบูลย์" เผยเหตุอุดมการณ์ไม่ตรงกัน
พ่อนายกฯเคลียร์MOUสยบม็อบ
อิ๊งค์พร้อม! จัดชุดใหญ่แถลงผลงานรัฐบาล ลั่นรอจังหวะไปตอบกระทู้
รบ.อิ๊งค์ไม่มีปฏิวัติ! ทักษิณชิ่งสั่งยึดกองทัพ เหน็บอนุทินชิงหล่อเกิน
"ทักษิณ" โบ้ยไม่รู้ "หัวเขียง" ชงแก้ร่าง กม.จัดระเบียบกลาโหม
ศาลรับคำร้อง ให้สว.สมชาย หยุดทำหน้าที่
ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง “สมชาย เล่งหลัก” หยุดปฏิบัติหน้าที่ สว.
คิกออฟแพ็กเกจแก้หนี้ ลุ้นบอร์ดขึ้นค่าแรง400
นายกฯ เผยข่าวดี ครม.คลอดชุดใหญ่แก้หนี้ครัวเรือน "คลัง-แบงก์ชาติ"
เร่งตั้ง‘สสร.’ให้ทันปี70
รัฐสภาจัดงานวันรัฐธรรมนูญคึกคัก แต่พรรคประชาชนเมินเข้าร่วม