รุมถล่ม‘รองอ๋องหมูกระทะ’

ไทยโพสต์ ๐ กระหน่ำ! "ทั่นรองตัวตึง"  "โบว์" ชำแหละอีเวนต์เลี้ยงหมูกระทะไม่เหมาะสม ทั้งในเรื่องการใช้งบประมาณผิดประเภท การจัดเลี้ยงลูกจ้างของบริษัทเอกชนโดยไม่ติดต่อสื่อสารกับบริษัท เข้าข่ายหาเสียง "ศรีสุวรรณ" จ่อร้อง ป.ป.ช.สอบ "เจี๊ยบ ก้าวไกล" สวนกลับ งบคนเจ้าชู้ซื้อไวน์ขวดละแสนกับงบเลี้ยงหมูกระทะแม่บ้านสภา อย่างไหนน่าค้นคว้าสืบหาคำตอบมากกว่ากัน

     ภายหลังนายปดิพัทธ์ สันติภาดา   รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1  พร้อมด้วยนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะคณะทำงานของนายปดิพัทธ์ จัดเลี้ยงหมูกระทะแม่บ้านอาคารรัฐสภา  โดยอ้างว่าเพื่อหารือแลกเปลี่ยนความเห็นในการทำงานร่วมกัน จำนวน 370 คน ราคาหัวละ 269 บาท เมื่อคืนวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา

     โดยนายปดิพัทธ์อ้างว่า จากการที่มีการตั้งคณะอนุกรรมาธิการเกี่ยวข้องกับการดูแลสวัสดิการเจ้าหน้าที่ ประชาชน  และสื่อมวลชน จึงเห็นว่ากลุ่มคนที่เราหลงลืมมากที่สุดคือแม่บ้าน ซึ่งมีแม่บ้านเฉพาะฝั่ง สส. 370 คน มีทั้งแบบจ้างเหมา ประจำ และอัตราจ้าง พูดคุยกันและแทนที่จะนั่งประชุมพูดคุยกันเครียดๆ ก็เปลี่ยนมานั่งกินหมูกระทะดีกว่า รวมถึงหลายคนที่หมดสัญญาจ้างด้วย จะได้มาพูดคุยหารือ

     “ให้สภามันสะอาด ใหญ่ขนาดนี้ใครถูพื้น น้ำท่วมแล้วใครถู เพราะฉะนั้นคนบริการเรา เราต้องมีโอกาสที่จะขอบคุณเขา และฟังเสียงพวกเขาด้วย” นายปดิพัทธ์กล่าว

     จากกรณีนี้ นายปดิพัทธ์ถูกโจมตีอย่างหนักว่าเป็นการใช้งบประมาณไม่เหมาะสม โดย น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือโบว์ พิธีกรรายการวิเคราะห์ข่าว  โพสต์เฟซบุ๊ก โบว์ ณัฏฐา มหัทธนา -  Nuttaa Mahattana ว่า กรณีการใช้งบรับรองแขกของรองประธานสภาฯ ไปจัดเลี้ยงหมูกระทะแม่บ้านสภานั้นไม่เหมาะสม และไม่สมเหตุสมผลด้วยเหตุผลหลายประการ โดยส่วนตัวมีข้อสังเกตดังนี้

     1.วัตถุประสงค์ของงบก้อนนี้ ให้ใช้เพื่อรับรองแขกบ้านแขกเมืองเป็นหลัก ในแต่ละปีจะมีคณะบุคคลหลากหลายมาขอเข้าพบประธานและรองตลอดปี เช่น คณะผู้แทนราษฎรหรือส่วนงานนิติบัญญัติจากต่างประเทศ ทูต ผู้แทนกระทรวง หรือคณะบุคคลจากรัฐบาลและผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ซึ่งมีวาระตามจุดประสงค์ของทั้งสองฝ่าย

     งบก้อนนี้ไม่ใช่งบสวัสดิการพนักงาน  มิฉะนั้นประธานและรองก็สามารถเอางบนี้พาพนักงานไปเที่ยวเล่นได้ทั้งปีโดยอ้างเหตุผลต่างๆ ได้ นี่คือการใช้งบผิดประเภท

     2.แม่บ้านจำนวนมากในสภานั้น มาจากบริษัท Outsource ที่ทางสภาทำการจัดจ้างมา และมีเงื่อนไขในการทำงานที่ตกลงกับบริษัทเอกชน หากพบว่ามีเงื่อนไขที่ไม่เป็นธรรม สิ่งที่สภาควรทำคือการทบทวนสัญญากับบริษัท ให้มีความครอบคลุมถึงส่วนที่เกี่ยวกับสวัสดิการและความเหมาะสมของเงื่อนไขในการจ้างพนักงาน (หลายคนถูกจ้างแบบรายวันต่อเนื่องเป็นปีๆ โดยไร้สวัสดิการ ซึ่งผิดกฎหมายแรงงาน หากต้องการให้รัดกุม ต้องมีการปรับรายละเอียดส่วนนี้ให้ครอบคลุมการตรวจสอบในสัญญา ซึ่งคือสิ่งที่ทำได้เลยเพราะเป็นสัญญาระยะสั้น และรองประธานควรตรวจสอบได้เอง เพราะเป็นส่วนของการจัดซื้อจัดจ้างระหว่างภาครัฐกับเอกชน)

     3.สภาพแวดล้อมพื้นฐานในการทำงานของแม่บ้านสภาควรได้รับการปรับปรุงก่อน และเป็นสิ่งที่รองประธานย่อมมองเห็นได้เองอยู่แล้ว เพราะเป็นมาตรฐานที่ลูกจ้างทุกคนควรมี เช่น ห้องพัก ที่เก็บของส่วนตัว และโซนรับประทานอาหารของพนักงาน เมื่อทำสิ่งเหล่านี้แล้ว หลังจากนั้นมีรายละเอียดเพิ่มเติมอะไร ก็ดำเนินการทบทวนรายละเอียด โดยส่วนงานที่เกี่ยวข้องไปได้ตามปกติ

     เมื่อข้อเท็จจริงมีดังที่กล่าวมานี้ อีเวนต์เลี้ยงหมูกระทะที่เกิดขึ้นจึงไม่เหมาะสม ทั้งในเรื่องการใช้งบประมาณผิดประเภท การจัดเลี้ยงลูกจ้างของบริษัทเอกชนโดยไม่ติดต่อสื่อสารกับบริษัท การสร้างประเด็นข่าวจากสิ่งที่ควรเป็นงานปรับปรุงแก้ไขตามปกติในสภา

     และสุ่มเสี่ยงที่จะถูกมองว่าเป็นการ “หาเสียง” ด้วยการสร้างภาพกับกลุ่มผู้ใช้แรงงานซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายของพรรคก้าวไกล โดยนำกลุ่มแม่บ้านสภาขึ้นมาเป็นตัวแทนประกอบฉาก ด้วยงบประมาณของรัฐ

     ขณะที่นายแทนคุณ จิตต์อิสระ  รักษาการประธานคณะกรรมการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคระหว่างเพศ พรรคประชาธิปัตย์  กล่าวว่า ถือว่ามีเจตนาชัดเจนว่าต้องการประชาสัมพันธ์ตัวเองและพรรคของตัวเอง เพราะนายปดิพัทธ์ยังมีตำแหน่ง เป็นรองประธานสภาฯ ที่เพิ่งมีประเด็นทำผิดกฎหมาย แล้วยังมาทำเรื่องสิ้นคิดผิดซ้ำอีก เข้าทำนองสุภาษิตไทยว่า   ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก ใช้อำนาจอนุมัติเบิกงบหลวงจากภาษีประชาชนมาใช้แบบนี้ ทั้งที่วัตถุประสงค์ก็ชัดเจนว่าต้องการให้เป็นงบรับรองแขกบ้านแขกเมืองหรือคนสำคัญสำหรับระดับประเทศ

     เขายังกล่าวว่า การกระทำแบบนี้ถือว่าเข้าข่ายหลอกลวงประชาชนด้วยหรือไม่ เพราะพรรคก้าวไกลยังเคยมี นโยบายที่จะ "ห้ามไม่ให้ใช้งบหลวงในการโปรโมตตัวเอง" โดยการที่ก่อนหน้านี้ที่ยังไม่มีอำนาจเที่ยวไปกล่าวหาคนอื่นต่างๆ นานา แต่พอมีอำนาจกลับทำหนักยิ่งกว่าคนอื่น โดยเฉพาะยังมีอดีต สส.อย่างนางอมรัตน์ สมาชิกก้าวไกล ไม่ได้มีตำแหน่งในสภาแล้ว แต่กลับใช้โอกาสไปร่วมเสพสุขจากเงินภาษีประชาชนอีกด้วย แปลว่าอย่างไร เพราะงานนี้ตนมองว่าคนที่ได้ประโยชน์สูงสุดก็คือนายปดิพัทธ์และพรรคก้าวไกล

     "ยิ่งช่วงนี้จะมีเลือกตั้งซ่อม ถ้าหากพบว่าแม่บ้านที่ไปร่วมรับประทานอาหารเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งในการเลือกตั้งซ่อม เขต 3 ที่ระยอง ก็จะเข้าข่ายจัดเลี้ยงเพื่อจูงใจหรือซื้อเสียงด้วย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายการเลือกตั้ง จึงอยากให้พรรคก้าวไกลได้เตือนสติและเปลี่ยนตัวรองประธาน เพราะไหนๆ อีกไม่กี่วันก็ต้องลาออกอยู่แล้ว อย่าสร้างความอับอาย มัวหมองให้กับสภาอีกต่อไปเลย" นายแทนคุณกล่าว

     นายศรีสุวรรณ จรรยา กลุ่มองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เปิดเผยว่า วันที่ 21 ส.ค. เวลา 10.00 น. จะไปยื่นคำร้องต่อป.ป.ช. ขอให้ไต่สวน ตรวจสอบ วินิจฉัยว่าเข้าข่ายฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามที่รัฐธรรมนูญ 2560 บัญญัติห้ามไว้ หรือไม่ เพราะกระทำการที่อาจขัด รธน.เกี่ยวกับผลประโยชน์ขัดกัน ประกอบมาตรฐานจริยธรรมฯ

     ส่วนนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ทีมงานของนายปดิพัทธ์ โพสต์เฟซบุ๊กตอบโต้เสียงวิจารณ์ว่า ที่ผ่านมาท่านอื่นในตำแหน่งเดียวกันเคยใช้งบรับรองก้อนนี้ซื้อไวน์แพงๆ ใช้เลี้ยงดูปูเสื่อเพื่อนสนิทมิตรสหายนายทุนมาแล้ว งบรับรองปีละ 2 ล้านบาทของรองประธานสภาฯ เป็นดุลยพินิจของผู้ใช้ หมูกระทะไม่ได้แพงอะไรเมื่อเทียบกับไวน์ขวดละเป็นหมื่นเป็นแสน

     ถ้าเห็นว่าตรงไหนมีประโยชน์ ควรแก่การใช้ก็ใช้ได้ หรือให้คุณค่ากับสิ่งใดก็ใช้ไป ไม่มีระเบียบข้อบังคับใดห้ามไว้

     งบคนเจ้าชู้กับงบเลี้ยงหมูกระทะแม่บ้านสภา ถ้าเพื่อผลประโยชน์ของชาติ อย่างไหนน่าค้นคว้าสืบหาคำตอบมากกว่ากัน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน'รับปริญญาดุษฎีบัณฑิต สาขาสาธารณสุขศาสตร์'สบช.'

นักการเมืองคนแรกที่ได้เกียรตินี้!  “อนุทิน” รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สบช. สาขาสาธารณสุขศาสตร์ หลังสร้างความเท่าเทียมด้านการศึกษาหลักสูตรพยาบาล

รับวินิจฉัยจริยธรรม ศาลมีมติ6:3ให้นายกฯชี้แจง 5:4ไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่

ศาล รธน.มีมติ 6 ต่อ 3 รับวินิจฉัยสถานะนายกฯ ปมผิดจริยธรรมตั้ง "พิชิต" นั่ง รมต. แต่มีมติ 5 ต่อ 4 ไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่