โลกจับตาท่าทีฮิซบุลเลาะห์ หลังผู้นำเตรียมแถลงจุดยืนในสงครามอิสราเอล-ฮามาส “เศรษฐา” บอกข่าวดีนายกฯ มาเลย์โทร.มายืนยันตัวประกันไทย 20 คนสบายดี กำลังตามหาอีก 3 ราย “ปานปรีย์” ฟุ้งผลงานคุย 3 ประเทศ “กาตาร์-อียิปต์-อิหร่าน” มั่นใจคนไทยจะได้รับการปล่อยตัวก่อนเพื่อน
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันศุกร์ที่ 3 พ.ย.ว่า ความขัดแย้งในฉนวนกาซาโหมกระหน่ำต่อเนื่องเป็นวันที่ 28 จากการสู้รบระหว่างกองทัพอิสราเอลและกลุ่มฮามาส จนมีผู้เสียชีวิตรวมแล้วกว่า 10,461 ราย และยังมีผู้ถูกจับกุมเป็นตัวประกันอีก 240 คน โดยกองทหารของอิสราเอลได้ปิดล้อมฐานที่มั่นของกลุ่มฮามาสในเมืองกาซาได้หมดแล้ว ตามภารกิจขยายปฏิบัติการภาคพื้นดินในดินแดนที่ถูกปิดล้อม ซึ่งมีประชากร 2.4 ล้านคน ขณะที่กองกำลังฮามาสประกาศโต้อย่างไม่เกรงกลัวว่า ทหารอิสราเอลจะพ่ายแพ้ และทั้งหมดจะกลับออกไปในสภาพไร้วิญญาณ
ขณะที่ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เดินทางถึงอิสราเอลเมื่อวันศุกร์ เพื่อประสานความร่วมมือในการเจรจาช่วยเหลือพลเรือนในฉนวนกาซา โดยกล่าวว่าจะขอมาตรการที่เป็นรูปธรรมจากอิสราเอลเพื่อให้แน่ใจว่าความเสียหายต่อพลเรือนชาวปาเลสไตน์จะลดลง
กลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนที่ได้รับมอบหมายจากสหประชาชาติกล่าวว่า เวลาในการป้องกันการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และหายนะด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซากำลังหมดลง และขอให้ทุกฝ่ายเพิ่มเติมปฏิบัติการใดๆ ก็ได้ที่มากกว่าการขนส่งสิ่งของเข้าไปช่วยเหลือ
ผู้ถือหนังสือเดินทางต่างประเทศและบุคคลสองสัญชาติเดินทางข้ามเข้าสู่อียิปต์มากขึ้นในวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นวันที่สองที่จุดผ่านแดนราฟาห์ได้เปิดให้ผู้คนหลบหนีออกจากฉนวนกาซา
ส่วน ฮัสซัน นัสรุลเลาะห์ ผู้นำกลุ่มฮิซบุลเลาะห์ในเลบานอน เตรียมเปิดตัวสุนทรพจน์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามอิสราเอล-ฮามาสเริ่มต้นขึ้น ทำให้หลายฝ่ายจับตาคำแถลงที่อาจส่งผลกระทบต่อภูมิภาคนี้ โดยคำปราศรัยที่หลายคนตั้งตารอคอยจะออกอากาศ โดยเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมในเขตชานเมืองทางตอนใต้ของเบรุต ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มฮิซบุลเลาะห์ เพื่อรำลึกถึงนักรบที่เสียชีวิตในการทิ้งระเบิดของอิสราเอล
ก่อนหน้านี้กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า ได้โจมตีเป็นวงกว้างใส่กลุ่มฮิซบุลเลาะห์จนมีนักรบเสียชีวิต 4 นาย เป็นการตอบโต้ที่โดนกลุ่มดังกล่าวโจมตีที่มั่น 19 แห่งพร้อมกัน และทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 รายในเมืองเคอร์ยัตชโมนาของอิสราเอล ใกล้ชายแดนเลบานอน
ความไม่สงบได้เพิ่มขึ้นในเขตเวสต์แบงก์ ควบคู่ไปกับสงครามในฉนวนกาซา โดยชาวปาเลสไตน์ 5 รายถูกสังหารด้วยการยิงของอิสราเอลในเมืองเจนิน ตามการระบุของกระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์ แต่กองทัพอิสราเอลโต้ว่ากำลังดำเนินกิจกรรมต่อต้านการก่อการร้ายในเขตดังกล่าวทางตอนเหนือ
ทั้งนี้ มีชาวปาเลสไตน์ราว 130 รายถูกสังหารในการปะทะกับกองทัพอิสราเอลหรือผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิวทั่วเวสต์แบงก์ตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.
ด้านความเคลื่อนไหวในไทย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าในการช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอลว่า เมื่อวันที่ 2 พ.ย. นายกฯ มาเลเซียได้โทรศัพท์มาหาและแจ้งให้ทราบว่าตอนนี้ตัวประกันคนไทยจำนวน 12 คนหนึ่งกลุ่ม และอีก 8 คนหนึ่งกลุ่มกำลังถูกลำเลียงมาอยู่ในที่เดียวกัน เพื่อเตรียม และเมื่อมีจังหวะดีก็จะย้ายออกมาอยู่รวมกัน ส่วนอีก 2-3 คนกำลังหาตัวว่าอยู่จุดใด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางครอบครัวของตัวประกันสบายใจได้แล้วใช่หรือไม่ว่ายังมีความปลอดภัยอยู่ นายเศรษฐาตอบว่า ครับ อย่างที่บอกไปตามนั้นเพียงแต่ยังหาตัวไม่ได้อีก 2-3 คน แต่จำนวน 20 คนนายกฯ มาเลเซียยืนยันว่าขอให้สบายใจได้ว่าปลอดภัย และหลังจากนี้ได้สั่งการให้เตรียมพร้อมเครื่องบินไว้ แม้ว่าขณะนี้ไม่มีคนไทยในอิสราเอลแสดงเจตจำนงแล้ว แต่ต้องเตรียมเส้นทางการบินไว้ หากมีความต้องการจะอพยพคนไทยในประเทศอื่นที่ไม่ใช่อิสราเอลจะได้เคลียร์เส้นทางการบินไว้ก่อน ถือเป็นการเตรียมการล่วงหน้า
ขณะที่ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯ และ รมว.การต่างประเทศ แถลงผลการไปพบกับบุคคลสำคัญในประเทศกาตาร์, อียิปต์ และอิหร่าน เพื่อขอให้ประเทศเหล่านี้เจรจากับกลุ่มฮามาสเพื่อปล่อยตัวประกันไทย ว่าทั้ง 3 ประเทศแสดงท่าทีช่วยเหลือไทยอย่างเต็มที่ และอยากให้ไทยสนับสนุนให้หยุดยิงโดยเร็ว ซึ่งจะทำให้มีโอกาสปล่อยตัวมากขึ้น โดยกาตาร์เชื่อว่าคนไทยจะได้รับการปล่อยตัวเป็นกลุ่มแรก ซึ่งฟังแล้วสบายใจ ส่วนรัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านจะช่วยเจรจาให้ปล่อยตัวโดยเร็ว ส่วนรัฐมนตรีอียิปต์เขารับปากจะรีบช่วยปล่อยตัวประกัน
เมื่อถามถึงแผนการเดินทางไปเจรจาเพิ่มเติมกับประเทศต่างๆ และจำนวนแรงงานไทยที่ถูกจับกุมเพิ่มเติมนั้น นายปานปรีย์กล่าวว่า ข้อมูลจากสถานทูตไทยมี 23 ราย ส่วนที่อ้างว่ามีเพิ่มขึ้น ฝ่ายอิสราเอลยังยืนยัน 23 ราย เป็นจำนวนที่ถูกต้อง ไม่ได้จับตัวเพิ่มเติม ส่วนแผนจะเดินทางไปคุยกับประเทศใดเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ถ้ามีประเทศใดช่วยเหลือเราได้ก็พร้อมจะไป
ขณะเดียวกัน นายปานปรีย์มอบเงิน 3 ล้านบาทในนามรัฐบาล เพื่อช่วยเหลือแก่สำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานของสหประชาชาติ สำหรับผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (United Nations Relief and Works Agency for Palestine Refugees in the Near East: UNRWA) ผ่านนาย Giuseppe De Vincentiis ผู้ประสานงานสหประชาชาติ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จับตากรมวิทย์ฟอกข้าว วรงค์จี้พณ.ตอบ4คำถาม
“ภูมิธรรม” ดี๊ด๊าบอกดีใจหลังสื่อเอาข้าว 1 ทศวรรษไปตรวจไม่พบทั้งอะฟลาท็อกซินและสารรมควัน
จ่อผุด13อรหันต์นิรโทษ
กรมคุกร่อนแถลงการณ์ ยันทัณฑสถานราชทัณฑ์ช่วยชีวิต ‘บุ้ง ทะลุวัง‘ ตามมาตรฐานวิชาชีพอย่างเต็มกำลัง
‘หนูหวานเจี๊ยบ’ เห็นตามนายกฯ ปมเรื่อง‘กัญชา’
นิด้าโพลเผยคนส่วนใหญ่ 60% เห็นด้วยดึงกัญชากลับบัญชียาเสพติด ซ้ำร้าย 47%
ดีเดย์สมัครเลือกสภาสูง ‘กกต.’มั่นใจครบ200แน่
ดีเดย์รับสมัครเลือกสมาชิกสภาสูงวันแรก “แสวง” มั่นใจไร้ปัญหา
ฟุ้ง6วาระปลดล็อก! พิธาขายฝันโอ่กวาด300เสียง/สว.ยํ้าฟัน‘ถุงขนม’ไร้พลิก
"ดิเรกฤทธิ์" มั่นใจไร้ผลกระทบหลังมี "สว." โวยถูกอ้างชื่อยื่นศาล รธน.ถอด "เศรษฐา-พิชิต" เหตุการลงชื่อครบตาม
ก้าวไกลเตรียมรับทุกสถานการณ์
"ชัยธวัช" เชื่อก้าวไกลไม่ถูกยุบ เพราะคดีเสนอแก้ ม.112