‘นิกร’เสนอนิรโทษ เป็นร่างกม.รัฐบาล ‘พท.’กำหนดท่าที

เริ่มแล้วเปิดสมัยประชุมสภาฯ พท.นัดถกกำหนดท่าทีเสนอญัตติตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม-การทำประชามติแก้ไข รธน. “นิกร” แนะให้เสนอเป็นร่าง กม.ในนามรัฐบาล เดินตามแนวยุติธรรมเปลี่ยนผ่าน

มีความเคลื่อนไหวหลังเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 12 ธ.ค.นี้เป็นต้นไป โดยนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคได้เรียกประชุม สส.ในวันที่ 12  ธันวาคม เตรียมความพร้อมก่อนเปิดการประชุมสภา เพื่อรับฟังความเห็นจาก สส.ประมวลเอามาเป็นความเห็นของพรรค  เพื่อนำมติพรรคไปหารือกับคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลเกี่ยวกับการนำร่าง พ.ร.บ.ต่างๆ ที่จะนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในสมัยประชุมที่จะถึงนี้ ซึ่งจะเริ่มสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคมเป็นต้นไป เพื่อลำดับความสำคัญของร่างกฎหมายที่จะนำเข้าพิจารณา

นายอัครเดชกล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 67 ถือเป็นกฎหมายที่ต้องเร่งนำมาพิจารณา ซึ่ง ครม.แจ้งว่าจะส่งเข้าพิจารณาในสภาวันที่ 4 ม.ค. 2567 สภาฯ จะต้องเร่งพิจารณาให้แล้วเสร็จ จากนั้นมีร่าง พ.ร.บ.ที่สำคัญอีกหลายฉบับในสมัยประชุมสภาฯ นี้ ทั้ง พ.ร.บ.การกู้เงินเพื่อใช้ในโครงการแจกเงินดิจิทัล, พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หรือร่าง พ.ร.บ.อื่นๆ ที่ ครม.เห็นชอบแล้ว รวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่อยู่ในช่วงที่คณะกรรมการที่รัฐบาลตั้งขึ้นกำลังพิจารณารายละเอียดขั้นตอนดำเนินการ

“พรรครวมไทยสร้างชาติมีความพร้อมในการพิจารณากฎหมายต่างๆ ที่จะเข้าสภาฯ ในการประชุมพรรควันที่ 12 ธันวาคมนี้ จะเป็นการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อม เพื่อนำมติพรรคไปหารือกับวิปรัฐบาล บอกถึงการลำดับความสำคัญของการนำร่างกฎหมายเข้าพิจารณาในสภาฯ อย่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ถือว่าสำคัญมากควรเร่งพิจารณา เพื่ออัดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ เป็นกลไกหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ถือว่าสำคัญน้อยกว่า  ยังไม่ควรนำมาพิจารณาก่อน เป็นต้น ควรพิจารณาเรียงลำดับความสำคัญจากมากไปหาน้อย” นายอัครเดชกล่าว

นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการหารือกันระหว่างพรรคฝ่ายค้าน ในการอภิปรายเมื่อเปิดสมัยประชุมสภาฯ ว่า พรรคฝ่ายค้านคงมีการคุยกันใกล้ชิดมากขึ้น เดิมจากสมัยประชุมที่แล้ว เราได้มีการประชุมอย่างไม่เป็นทางการร่วมกัน ซึ่งก็คิดว่าต้องรอกระบวนการโปรดเกล้าฯ ผู้นำฝ่ายค้าน ซึ่งเมื่อได้ผู้นำฝ่ายค้านชัดเจนแล้วอย่างเป็นทางการ ก็ควรมีการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านอย่างเป็นทางการด้วย ในขณะนี้กระบวนการโปรดเกล้าฯ ยังไม่เรียบร้อย แต่การทำงานในสภาฯ ต้องเริ่มแล้ว

เมื่อถามว่า การที่พรรค ปชป.ได้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน  เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ จะทำให้การหารือกันง่ายขึ้นหรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า ก็คงเหมือนเดิมไม่ว่าหัวหน้าพรรคจะเป็นใคร

เมื่อถามว่า หัวหน้าพรรค ปชป.คนใหม่ดูจะเป็นอุปสรรคสำหรับการทำงานของฝ่ายค้านหรือไม่ เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าพรรค ปชป.กำลังหาช่องที่จะไปร่วมรัฐบาล  นายชัยธวัชกล่าวว่า การทำงานร่วมกันต้องให้เกียรติกัน ถ้าเรามัวแต่ไม่ไว้วางใจกันโดยไม่จำเป็น คงไม่สร้างบรรยากาศในการทำงานที่ดีร่วมกัน ในช่วงต้นที่สภาฯ เปิดคงให้ความสำคัญกับการพิจารณากฎหมาย ทั้งร่างกฎหมายของคณะรัฐมนตรี ร่างกฎหมายที่พรรคการเมืองต่างๆ และที่ประชาชนเสนอเข้ามา เนื่องจากสภาฯ สมัยที่แล้วไม่ได้พิจารณาร่างกฎหมายเลย ขณะนี้มีร่างกฎหมายหลายฉบับที่จ่อเข้าอยู่ รวมถึงของรัฐบาลด้วย ยังมีวาระสำคัญในการพิจารณาวาระสำคัญในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567

โดยเมื่อพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณ ซึ่งคาดว่าน่าจะเสร็จภายในช่วงเดือน มี.ค. 67 ก่อนที่จะมีการปิดสมัยประชุมอีกครั้ง ก็น่าจะทำให้เรามีเวลาในการอภิปรายใหญ่ได้  แต่จะเป็นการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ หรือเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ คงจะมีการหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านอีกครั้ง ขึ้นอยู่กับเนื้อหา ข้อเท็จจริง ข้อมูลในการทำงานของฝ่ายค้านว่ามีความพร้อมมากน้อยเพียงใด

เมื่อถามว่า จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องมีการใช้สิทธิ์ของฝ่ายค้านในการอภิปราย หรือหากไม่มีประเด็นก็ไม่เปิดอภิปราย  นายชัยธวัชกล่าวว่า เอาเนื้อหาเป็นหลัก ส่วนประเด็นที่จะเปิดอภิปรายนั้นยังต้องใช้เวลา แต่ในฐานะฝ่ายค้านก็ควรจะใช้โอกาสในสภาฯ ตรวจสอบถ่วงดุลการทำงานของฝ่ายบริหารให้เป็นประโยชน์ที่สุดแก่พี่น้องประชาชน

นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงวาระการประชุมพรรค พท.ในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ว่า ในการประชุมพรรคจะมีเรื่องที่เราจะเสนอญัตติเกี่ยวกับ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่จะให้ตั้งเป็นคณะกรรมาธิการ (กมธ.) เหมือนที่เคยพูดไปก่อนหน้านี้ และเรื่อง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ที่ขณะนี้กำลังรอกฤษฎีกา ซึ่งจะนำกลับเข้ามาและคาดว่าภายในเดือนนี้น่าจะยื่นเข้าสู่สภาฯ ได้

เมื่อถามถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ระบุว่าจะมีการหารือในที่ประชุมพรรค พท.เกี่ยวกับประเด็นการส่งเรื่องไปสอบถามศาลรัฐธรรมนูญ มีปมปัญหาการทำประชามติด้วยหรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่า นายภูมิธรรมจะเข้ามาชี้แจงในพรรคว่าจะขอทำประชามติแค่ 2 ครั้ง เพราะสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายได้เยอะ เนื่องจากการทำประชามติแต่ละครั้งต้องใช้เงินจำนวนมาก 3,000-4,000 ล้านบาทเลย คิดว่าน่าจะเป็นการวางแนวทางเบื้องต้นก่อน แต่หากไม่มีความเห็นที่แตกต่างก็น่าจะจบ

นายนิกร จำนง ประธานคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560  กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประกบร่างของพรรคก้าวไกลว่า อันที่จริงจะเรียกว่าเสนอประกบไม่ได้ เพราะเป็นหลักคิดในการดำเนินการทางการเมือง ขณะที่พรรคเพื่อไทยเองเดิมก็มีปัญหาเรื่องนิรโทษกรรม ทั้งที่จริงเรื่องนั้นจบไปนานแล้ว ดังนั้นจึงเห็นว่าทำไมจึงไม่เสนอในนามพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อประกาศอยู่แล้วว่ารัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลสมานฉันท์ แสวงหาความปรองดอง ที่เราสามารถทำได้ชั้นหนึ่งแล้ว คือสามารถนำพรรคการเมืองที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามมารวมกันเป็นพรรคร่วมรัฐบาลได้แล้ว ส่วนในรูปธรรมเราก็มาดูแลเรื่องความขัดแย้งต่างๆ ที่มีอยู่ในสังคมไทย

“และความจริงคำว่านิรโทษกรรม ทุกคนก็แหยงๆ อยู่แล้ว หากจะเรียกเป็นอย่างอื่นก็คงได้ เพื่อไม่ให้มีปัญหาในคำที่ถูกใช้กันมายาวนานแล้วเป็นลบ ผมจึงเห็นว่าควรเสนอในนามพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อให้เป็นแนวทางเดียวกัน ในความเป็นรัฐบาลสมานฉันท์ ก้าวข้ามความขัดแย้งอย่างแท้จริง” นายนิกรกล่าว

นายนิกรกล่าวว่า  หรืออีกทางหนึ่งอาจจะเสนอตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาศึกษาเรื่องการจัดทำกฎหมายเกี่ยวกับการสร้างความสามัคคีหรืออะไรทำนองนี้ ซึ่งเดิมเคยมีคนศึกษามาแล้ว โดยอาจมีการใช้คำว่าความยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่าน โดยมีหลักการว่าผู้กระทำความผิดโดยมีความเชื่อทางการเมือง ซึ่งจะใช้กฎหมายปกติไม่ได้ จึงอาจจะต้องออกกฎหมายมาเป็นพิเศษ ซึ่งในข้อเสนอดังกล่าวเห็นว่าจะต้องเว้นเรื่องที่อ่อนไหว ได้แก่ความผิดมาตรา 112 และความผิดกฎหมายอาญาที่รุนแรง เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งใหม่ขึ้นมา เช่นความผิดถึงแก่ชีวิต.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง