ขู่ขรก.ติดคุกแทน‘นช.เทวดา’

“ภูมิธรรม” ย้ำจุดยืนเพื่อไทย ไม่นิรโทษกรรมคดี 112 แม้  “ทักษิณ” จะถูกดำเนินคดีพาดพิงสถาบัน ส่วน "อนุทิน" ยันภูมิใจไทยไม่แตะ ม.112 เป็นสัญญาประชาคมตั้งแต่หาเสียง ขณะที่ "วัชระ" ลั่น ตราบใดที่ "ทักษิณ" มีอำนาจ อย่าเชื่อว่าระบบความยุติธรรมจะมีจริงในไทย เชื่อในที่สุดเรื่องจะจบที่ศาลอาญาคดีทุจริตฯ  ต้องมีข้าราชการติดคุกแทน

เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย   รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร   อดีตนายกรัฐมนตรี เตรียมถูกอายัดตัวจากคดีมาตรา 112 หากได้รับการพักโทษ จะทำให้จุดยืนทางการเมืองพรรคเพื่อไทยเกี่ยวกับการนิรโทษกรรมเปลี่ยนไปหรือไม่ ว่าจะโดนคดีมาตรา 112 หรือว่าไม่โดน ขณะนี้เรายังไม่ทราบรายละเอียด แต่การที่ท่านกลับเข้าประเทศก็ชัดเจนแล้วว่าท่านต้องการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ส่วนจุดยืนของพรรคเพื่อไทย ก็ยืนตามที่พรรคได้เสนอมาโดยตลอด และไม่ได้เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว

เมื่อถามย้ำว่า หากนายทักษิณโดนดำเนินคดีเรื่องมาตรา 112 จะไม่กระทบจุดยืนเดิมเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะไม่แตะหมวด 1-2 รวมถึงหากเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม ก็จะไม่เอาเรื่อง 112 มารวมด้วยใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า เรายืนยันชัดเจนอยู่แล้วเรื่อง 112 ต้องเคลียร์กันให้ชัดเจนก่อน เพราะว่าเป็นประเด็นความขัดแย้ง ถ้าคุยกันยังไม่จบ และเสนอเข้ามาแล้วมีเรื่อง 112 ก็จะเป็นปัญหา ดังนั้นเรายืนยันอยู่แล้วว่าไม่เกี่ยวกัน

ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า แนวทางของเราที่ผ่านมาไม่แตะมาตรา 112 สัญญาประชาคมแต่ละพรรคไม่เหมือนกัน พร้อมย้ำว่า พรรคภูมิใจไทยหาเสียงมาไม่แตะมาตรา 112 เพราะถ้าหากไปแตะก็เท่ากับเราไม่รักษาสัญญา

นายนริศ ขำนุรักษ์ และ น.ต.สุธรรม  ระหงษ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  พร้อมด้วยนางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท อดีต  สส.บัญชีรายชื่อของพรรค รับหนังสือจากเยาวชนกลุ่มนิรโทษกรรมภาคประชาชน โดยนายนริศกล่าวภายหลังการรับหนังสือว่า เรื่องนิรโทษกรรมเป็นเรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์มีหลักการและจุดยืนที่ชัดเจนอยู่แล้ว ตนรับหนังสือจากกลุ่มเยาวชนภาคประชาชนด้วยความเคารพ จึงขอให้ทุกท่านเคารพในจุดยืน หลักการ และท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ด้วย 

 “ในฐานะพรรคการเมือง อยากให้ทุกกฎหมายไปจบที่ในสภา อย่างไรก็ตามขอขอบคุณที่เข้ามาเชิญชวนพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งพวกเราก็ทำหน้าที่ศึกษาทุกประเด็นปัญหา โดยเฉพาะเรื่องนิรโทษกรรมมาโดยตลอด โดยในช่วงนี้พรรคได้มีการหารือเรื่องการนิรโทษกรรมทุกสัปดาห์ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ของบ้านเมืองและทั่วโลก พรรคประชาธิปัตย์พยายามศึกษา สรุปบทเรียนการนิรโทษกรรมจากทุกกรณีจากทั่วโลกอยู่แล้ว ว่าเราจะข้ามความขัดแย้งไปได้อย่างไร ส่วนจะนิรโทษกรรมที่นอกเหนือจากจุดยืนของพรรค จะมีแค่ไหน อย่างไรนั้น เราพร้อมที่จะรับฟังและศึกษารายละเอียด ยังไม่สามารถสรุปได้ในวันนี้  แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าที่สุดแล้วจะมีข้อสรุปได้ในชั้นกรรมาธิการ และจะยุติโดยสภาที่ทุกฝ่ายควรเคารพ" นายนริศกล่าว

ขณะที่ นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีรายชื่ออยู่ในบัญชีที่ได้รับการพักโทษว่า มีตั้งแต่เมืองนอกแล้ว เพราะพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็ไม่แตกต่างอะไรกับคนในบ้านของนายทักษิณ เพราะฉะนั้น การทำหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและนายกรัฐมนตรี  ตนเห็นว่าไม่ได้ยึดหลักตามนิติรัฐ  นิติธรรม และธรรมาภิบาลแต่อย่างใด นายทักษิณไม่ได้ติดคุกจริงแม้แต่วันเดียว และไม่ได้ป่วยจริง แต่กลับถูกปกป้องจากกลไกของข้าราชการของรัฐ

"ผมเชื่อว่ากรณีที่ข้าราชการปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่กรณีนายทักษิณนั้น ในที่สุดเรื่องจะจบที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง"

ส่วนจะต้องมีข้าราชการติดคุกแทนหรือไม่นั้น นายวัชระกล่าวว่า แน่นอน ต้องมีข้าราชการติดคุกแทนนายทักษิณ ทั้งนี้ ได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ไต่สวนนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายทวีเรียบร้อยแล้ว รอให้ ป.ป.ช.สอบสวนและส่งสำนวนให้ศาลอาญาคดีทุจริตฯ

เมื่อถามว่า ในวันที่ 22 ก.พ.นี้ นายทักษิณจะได้กลับไปอยู่บ้านแน่นอนใช่หรือไม่ นายวัชระกล่าวว่า “แน่นอน วันนี้ก็ไม่ได้อยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ” ส่วนจะอยู่ที่ไหนนั้น เขาว่ากันว่ามีอยู่ 3 ที่ที่นายทักษิณไปๆ มาๆ ในขณะนี้ คือ 1.บ้านจันทร์ส่องหล้า 2.คอนโดฯ ริมน้ำใกล้กับห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง 3.โรงแรม ที่แปลว่า ‘ไม้’ แถวถนนสุขุมวิท

นายพายัพ ปั้นเกตุ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีนายภูมิธรรม เวชยชัย ได้กล่าวถึงการชุมนุมของ คปท.ในขณะนี้ว่า ขาดความชอบธรรมที่จะนำประชาชนต่อไปแล้ว เพราะไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ที่รัฐบาลนายเศรษฐา กำลังเร่งทำงานสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ที่เคยประสบปัญหาความไม่ชอบธรรมของรัฐบาลก่อนหน้านี้มา 8 ปีแล้ว ทั้งปัญหาการเมือง ความไม่ชอบธรรมของรัฐบาลเผด็จการ การลิดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชน การด้อยความสามารถในการบริหารประเทศชาติบ้านเมืองของรัฐบาลที่ผ่านมา ที่ทำให้คนไทยรวยกระจุก จนกระจายไปทั้งประเทศ ตลอดจนสร้างหนี้สินไว้ให้ลูกหลาน ดั่งที่รู้ๆ กันอยู่ เพราะคนไทยกินข้าว ไม่ใช่กินแกลบ  วันนี้รัฐบาลนายเศรษฐาเพิ่งมาอยู่ยังไม่ถึง 4 เดือน แต่คนไทยกับมีความหวังกันทั้งประเทศว่าจะหายจน เศรษฐกิจชาติจะดีขึ้น

เขาบอกว่า กรณีนายทักษิณ ก็เป็นไปตามแนวทางปฏิบัติที่ทำได้และเคยทำมาแล้ว ทั้งหมดก็เป็นไปตามหลักกฎหมายและแนวทางปฏิบัติของกระทรวงยุติธรรมและตามรัฐธรรมนูญการปกครองประเทศอยู่แล้ว ไม่มีใครกล้าทำผิดกฎหมายเพื่อใครหลอก ฉะนั้นจึงไม่ควรเอาเรื่องนายทักษิณมาก่อกระแสไฟทางการเมืองกันอีกต่อไป กลับบ้านเถอะเพื่อน ให้โอกาสประชาชนได้เห็นแสงไฟที่ปลายอุโมงค์จากรัฐบาลชุดนี้กันบ้าง

ด้านนายนัสเซอร์ ยีหมะ แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) กล่าวตอบโต้นายพายัพว่า อย่าเลียนายจนลืมอุดมการณ์ ฝากไปถึงนายพายัพ เพื่อนรุ่นพี่ร่วมสถาบันฯ ร่วมรุ่นเดียวกัน ที่วันนี้มีตำแหน่งแห่งหนเป็นที่ปรึกษารองนายกฯ ภูมิธรรม ว่าความสันติสุขของประเทศที่ได้ร่ำเรียนมาร่วมกันนั้น ปัจจุบันนายพายัพปิดตาข้างหนึ่งหรือไม่ กรณีการจัดการปัญหาหรือทำให้นักโทษชายทักษิณไม่นอนอยู่ในคุกแม้เพียงวันเดียว นั้นคือแนวทางของการสร้างสังคมสันติสุขที่ได้ร่ำเรียนกันมาหรือไม่          เพราะจากกรณีนักโทษชายทักษิณ จะทำให้สังคมมันมีความแตกแยก มันดูเหมือนถูกเลือกปฏิบัติ ถูกปฏิบัติเพียงแค่นักโทษชายทักษิณคนเดียว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รมต.ใหม่ถวายสัตย์ เศรษฐานำเข้าเฝ้าฯ3พ.ค. แม้วควงสุวัจน์ทัวร์ภูเก็ต

มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ "มาริษ" เป็น รมว.ต่างประเทศ "นายกฯ" เตรียมนำ รมต.ชุดใหม่เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ 3 พ.ค.นี้