บิ๊กโจ๊กกลับลำถอนฟ้องนายกฯ

"บิ๊กโจ๊ก" ถอนคำร้องเอาผิด "เศรษฐา" อ้างไม่ติดใจแล้ว เลขาฯ   ป.ป.ช.ยันต้องตรวจสอบต่อ เหตุ "เสรีพิศุทธ์" เคยมายื่นให้สอบข้อกล่าวหาเดียวกัน "พิชิต" เชื่อนายกฯ ไม่หนักใจเหตุไม่ได้กลั่นแกล้ง ติงร้องเรียนเหมาะสมหรือไม่ "บิ๊กป๊อด" ป้อง "บิ๊กป้อม" ไม่เกี่ยวกรรมการ ป.ป.ช.ขอให้ช่วยเรื่องตำแหน่ง แจงคนเข้าไปหาเยอะแต่ไม่ช่วยคนผิด "ทนายตั้ม" แฉ 2 บิ๊กนายพลรับส่วยเว็บพนันซัด ตร. 2 มาตรฐาน ลั่นหลักฐานชัดเจนดำเนินคดีไม่ได้ไปชิงหมาเกิด

เมื่อวันที่ 23 เมษายน นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ช่วงเช้าวันที่ 23 เม.ย. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ได้ส่งตัวแทนมายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อขอถอนเรื่องที่ยื่นให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง เมื่อวันที่ 22 เม.ย. กรณีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ในการสกัดกั้นไม่ให้เป็น ผบ.ตร. โดยขัดต่อ พ.ร.บ.ตำรวจ  โดยระบุเหตุผลว่า ไม่ติดใจจะดำเนินการเอาผิดนายกรัฐมนตรีแล้ว ส่วนกรณีการเอาผิดพนักงานสอบสวนที่เกี่ยวข้องนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ไม่ได้ยื่นถอนเรื่องแต่อย่างใด

"กรณีการยื่นให้ตรวจสอบนายกรัฐมนตรี แม้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์จะไม่ติดใจดำเนินการ แต่ ป.ป.ช.ก็ยังต้องดำเนินการตรวจสอบต่อไป เพราะก่อนหน้านี้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เคยมายื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบนายกรัฐมนตรีในข้อกล่าวหาทำนองเดียวกัน ซึ่งเรื่องอยู่ระหว่างการตรวจสอบของป.ป.ช." นายนิวัติไชยกล่าว

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชิต ชื่นบาน  ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวหานายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่มิชอบว่า นายกฯเป็นผู้บริหารราชการแผ่นดิน ท่านไม่มีเวลาคิดที่จะไปกลั่นแกล้งใคร ส่วนจะกังวลหรือไม่ คงจะตอบแทนท่านไม่ได้ แต่ส่วนตัวมองว่าเหตุมันมาจากไหนก็อยู่ตรงนั้น

ถามว่า จะต้องเตรียมข้อมูลเพื่อไปชี้แจงกับ ป.ป.ช.หรือไม่ นายพิชิตกล่าวว่า ให้เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช. เราไม่ไปก้าวล่วง ซึ่งนายกฯ บริสุทธิ์อยู่แล้ว เรื่องคดีอาญาท่านไม่ได้แกล้ง ถามว่ามีเหตุผลหรือแรงจูงใจอะไรที่นายกฯ จะไปกลั่นแกล้งใคร แต่ถือว่าเป็นสิทธิ์ของเขาที่จะใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย แต่เราต้องดูพฤติกรรมในหลายเรื่อง ส่วนกรณีที่มีอดีตตำรวจเห็นว่าหาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ไม่พอใจการแต่งตั้ง ผบ.ตร.ให้ไปร้องป.ป.ช.นั้น เห็นว่าเรื่องนี้มันนานมาแล้ว ซึ่งอยากให้ช่วยกันพิจารณา แล้วปัจจุบันนี้ปัญหาสังคมก็เกิดขึ้นมากมาย เช่น ยาเสพติด อาชญากรรม คิดว่านายกฯ คิดเรื่องพวกนี้มากกว่า ท่านไม่ยึดติดเรื่องตัวบุคคล เอาเรื่องงานเป็นหลักในการแก้ไขปัญหา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทนายของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ค่อนข้างมีชื่อเสียง กังวลหรือไม่หากจะต้องไปต่อสู้คดีกัน นายพิชิต กล่าวว่า อย่าไปคิดอะไรมาก เพราะสุภาษิตกฎหมายบอกว่า ไปศาลก็ไปด้วยความสุจริต และเชื่อว่านายกฯ ก็ยังไม่คิดเรื่องนี้ ท่านคิดแต่ว่าจะบริหารประเทศชาติอย่างไรให้เป็นไปด้วยความราบรื่น สามารถทำตามนโยบายที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภา ทุกอย่างวัดกันที่วัคซีนการทำงาน เชื่อว่านายกฯ ไม่ได้หนักใจ เพราะไม่ได้คิดแกล้งใคร

เมื่อถามว่า ดูคำร้องของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์แล้วมีอะไรน่าหนักใจหรือไม่ นายพิชิตกล่าวว่า ไม่ขอวิจารณ์ ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม เราต้องเคารพกระบวนการยุติธรรม การใช้สิทธิ์ตามกระบวนการยุติธรรมถือเป็นเรื่องดี แต่ต้องพิจารณาด้วยว่าความเหมาะสมที่จะมากล่าวหานายกฯ มีความเหมาะสมหรือไม่

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีมีเอกสารหลุดของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พาดพิงว่านายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข กรรมการ ป.ป.ช. เคยขอให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกฯ  และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ฝากเป็นกรรมการ ป.ป.ช. ว่าไม่ได้มีการพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร เป็นการส่วนตัว ยังไม่ได้พูดคุยกันเลย

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ พปชร.และ พล.อ.ประวิตร ที่เข้าไปแทรกแซงองค์กรอิสระเรื่องการแต่งตั้งหรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า “ลุงป้อมไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวหรอก มีแต่คนไปหา คนที่ไปหาจะดำเนินการอะไรหรือไม่ ก็เชื่อว่าเขาไม่เคยยุ่ง”

เมื่อถามถึงกรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่ามีหนึ่งในกรรมการ ป.ป.ช.ไปพบ พล.อ.ประวิตร พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวว่า ก็ขอให้ไปถาม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เอง ใครก็ไปพบท่านเยอะ ท่านใจดี เมื่อถามย้ำว่าแต่จะช่วยเหลือเป็นอีกเรื่องหนึ่งใช่หรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวว่า อะไรที่ผิดจะช่วยเหลือได้อย่างไร ส่วนที่เอกสารที่หลุดมาเป็นจังหวะเดียวกันกับกับที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ไปร้องกับ ป.ป.ช. จะสอดคล้องหรือไม่ ขอให้ไปสอบถาม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์

วันเดียวกัน นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม แถลงเปิดแผนผังแสดงความเชื่อมโยงระหว่างบัญชีม้าจากเว็บไซต์พนันออนไลน์บีเอ็นเค ที่มีความเชื่อมโยงไปถึงนายตำรวจทั้ง 2 คน โดยกรณีของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์นั้น พบว่ามีเงินจากเว็บพนันออนไลน์โอนเข้าบัญชีม้าที่ผู้ใต้บังคับบัญชาถืออยู่จำนวน 4 บัญชี และโอนไปยังบัญชีครอบครัว รวมทั้งมีการโอนไปยังโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ใจกลางกรุงเทพมหานคร 4 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นค่ารักษาพยาบาลให้กับครอบครัว และยังมีการโอนเข้าไปยังบัญชีของน้องชายและแม่เดือนละ 5 หมื่นบาท ซึ่งเป็นหลักฐานที่สามารถดำเนินคดีอาญากับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ได้อย่างแน่นอน แต่เรื่องของวินัยนั้นตนไม่ทราบรายละเอียดขั้นตอน แต่มองว่ามีการกระทำเป็นขบวนการเร่งรัดให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนทันที ก่อนที่ตำรวจจะส่งสำนวนให้ ป.ป.ช.อีกครั้ง

นายษิทรากล่าวว่า  สำหรับการดำเนินคดีของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ตนได้นำพยานหลักฐานทั้งเส้นทางการเงินและอื่นๆ ไปร้องทุกข์กล่าวโทษที่สถานีตำรวจนครบาลเตาปูน และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.)  กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางนั้น ยังไม่มีความคืบหน้า พนักงานสอบสวนอ้างว่าอยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงินและตรวจสอบต้นทางของบัญชีต่างๆ ซึ่งมองว่าเป็นการดำเนินการสองมาตรฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์  รักษาราชการแทน ผบ.ตร. และ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. จะกล้าดำเนินคดีกับผู้บังคับบัญชาคือบิ๊กต่อหรือไม่ ทั้งที่หลักฐานที่ตนนำไปส่งให้นั้นชัดเจนว่ามีการโอนเงินจากบัญชีม้าไปยังภรรยาของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์และเครือญาติชัดเจน  ทั้งยังพบเงินถูกใช้จ่ายเป็นค่านิติบุคคลให้กับคอนโดมิเนียม 3 แห่ง รีสอร์ตหรูชื่อดังที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับรถอีกหลายคัน

ทนายตั้มระบุว่า ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ ต้นทางมาจากบัญชีม้าบัญชีหนึ่งของณัฐพงศ์ ที่มีเงินเข้าจากเว็บไซต์การพนันออนไลน์ เฉพาะบัญชีนี้เดือนละ 80 ล้านบาท ยอดรวมทั้งหมดมีมากกว่า 800 ล้านบาท และพบว่าเงินจากบัญชีนี้ถูกโอนต่อเป็นทอด เชื่อมโยงไปยังปลายทางคือบัญชีของเครือญาติและคนสนิท พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ในลักษณะเดียวกันกับกรณีของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงเป็นเหตุให้ตั้งข้อสงสัยว่า การดำเนินการของพนักงานสอบสวนมี 2 มาตรฐาน หลักฐานขนาดนี้ดำเนินคดีไม่ได้ก็ไปชิงหมาเกิด ที่ไม่มีใครกล้าดำเนินคดีกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เนื่องจากมีเบื้องหลังดีหรือไม่ และเชื่อว่านายกฯ ก็ไม่กล้ายุ่งเช่นกัน ขอให้ประชาชนช่วยสนับสนุนตนเองด้วย เพราะตนยอมตาย เสียสละทำเพื่อชาติ ในอนาคตอาจจะโดนยิงตายก็ได้ และถ้าทำให้ส่วยน้อยลง ตนเองก็อาจได้ขึ้นสวรรค์ก็ได้ หากหลักฐานที่ตนยื่นไปเป็นเท็จ ก็ดำเนินคดีกับตนเองได้

นายษิทราเปิดเผยว่า วันที่ 24 เม.ย. จะนำข้อมูลเส้นทางการเงินของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ไปให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติที่ บก.ปปป. เวลา 10.00 น. และให้ขอดูการกระทำของตน ที่กล้าเอาผิดกับทั้งสองฝั่งเป็นตัวอย่าง และในวันพฤหัสฯ นี้ จะไปพบพนักงานสอบสวนที่สน.เตาปูน เพื่อให้ปากตำเพิ่มเติมด้วย

"คดีของบิ๊กโจ๊กที่มีความผิดจากการรับเงินจากเว็บพนันออนไลน์นั้น เชื่อว่าผิดจริง ในฐานะทนายความมองว่าค่อนข้างจะเหนื่อยแล้ว แต่ต้องเป็นเรื่องที่ต้องต่อสู้คดีต่อไป แต่ศาลจะเชื่อหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง" นายษิทรากล่าว

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีที่นายษิทราร้องให้ตรวจสอบตำรวจไซเบอร์ ยศนายดาบ ย. และรอง  ฟ. ที่เกี่ยวข้องกับการรับเว็บพนันออนไลน์ว่า ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบของคณะกรรมการฯ เพราะกำลังเรียกตัวบุคคลเข้ามาให้ตรวจสอบ ส่วนกรอบระยะเวลา จะต้องดูที่คณะทำงานที่นายกรัฐมนตรีและชุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งขึ้น ว่ามีใครใน บช.สอท.มีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มเติมหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดความซับซ้อน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง