โจ๊กพล่านร้องปปช.-ปปง. อึ้งหลอกนายกฯเซ็นคำสั่ง

"โจ๊ก" ดิ้นสุดตัว! เดินสาย "ป.ป.ช.-ปปง." โชว์ความบริสุทธิ์ ยื่นฟันอาญา "พล.ต.อ.ธนา" พร้อม พงส. 200  นาย ผิด ม.157 สอบคดีเว็บพนันออนไลน์โดยไม่มีอำนาจ แนะทางรอดเข้าให้การใครเป็นคนสั่งก่อนติดคุก แฉขบวนการสกัดนั่ง ผบ.ตร. หลอก "นายกฯ" ที่ไม่รู้ พ.ร.บ.ตำรวจเซ็นส่งตัวกลับ สตช.มาเชือดพ้นราชการ โอ่ตัวเองเป็นยาสามัญประจำบ้าน ถ้าให้ ปชช.เลือกตั้งได้นั่งผู้นำสีกากีแน่ "รองธนา" ยันทำตามหน้าที่ไม่มีกลั่นแกล้ง "ทนายษิทรา" เปิดปฏิบัติการ “ป้อนเหยื่ออินทรี” มอบหลักฐาน ป.ป.ป.เอาผิด “บิ๊กต่อ” โยงเว็บพนัน

ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) วันที่ 24 เม.ย. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (อดีตรอง ผบ.ตร.) เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงประธาน ป.ป.ช. เพื่อให้ตรวจสอบการทำงานของหัวหน้าพนักงานสอบสวน และคณะพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับการทำคดีการฟอกเงินจากเครือข่ายเว็บการพนัน BNK Master

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า วันนี้เป็นเทียร์ 2 ยื่น ป.ป.ช.ร้องทุกข์กล่าวโทษคดีอาญาตั้งแต่ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. ที่เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน และคณะพนักงานสอบสวนกว่า 200 คน ไม่มีอำนาจ เป็นการสอบสวนโดยมิชอบตามความผิดฐานมาตรา 157 ซึ่งอย่าลืมว่าการเป็นราชการ เมื่อ ป.ป.ช.ชี้มูลเมื่อไหร่ต้องออกจากราชการไว้ก่อน

"ฝากไปยังน้องๆ พนักงานสอบสวน หลายคนไม่ได้เกี่ยวข้อง ทำกันเป็นกลุ่มเล็กๆ ไม่กี่คน บอกไปเลยทางรอดของท่านคือมาให้การกับ ป.ป.ช.เลยว่าใครสั่ง แค่นั้นก็จะรอด วันนี้รู้ว่าทุกคนเครียดและเชื่อว่าไม่มีใครยอมตายเดี่ยว ท่านก็มาให้การว่าใครสั่ง แล้วจะรอด วันนี้ผมมายื่นและแนะนำทางรอดให้ด้วย การสอบสวนเหมือนพระอาทิตย์ ขึ้นทางตะวันออก แต่นี้ไปสอบพระอาทิตย์ขึ้นทางตะวันตกมันคนละเรื่อง ที่ผ่านมาผมได้ส่งเรื่องแย้งไปยัง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.ตลอด สุดท้ายก็ส่งมาที่ ป.ป.ช. แล้วทำไมไม่ส่งอัยการ เพราะท่านรู้ไม่มีอำนาจ แต่ยังตะแบงเพื่อเอาผมให้ได้ วันนี้สำเร็จเอาผมออกจากราชการได้ถึงส่งมาที่ ป.ป.ช. เป็นการรับสารภาพผิดว่าสำนวนเป็นอำนาจของ ป.ป.ช. การสอบสวนอย่างนี้แล้ว ป.ป.ช.เขาจะอยู่อย่างไร ดีเอสไอเขาจะอยู่อย่างไร" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าว

ถามถึงการถอนฟ้องนายกรัฐมนตรี  พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า การถอนฟ้องนายกฯ ในการแต่งตั้ง ผบ.ตร.โดยมิชอบไม่มีอะไร จากการตรวจสอบพบ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ อดีต ผบ.ตร. ได้ยื่นร้องไว้แล้ว และ ป.ป.ช.ได้มีการรับเรื่องไว้สอบสวนแล้ว เป็นเรื่องซ้ำ ป.ป.ช.ดำเนินการไปไกลแล้ว ถ้ายื่นซ้ำทำให้การสอบสวนล่าช้าจึงต้องถอน

"เราต้องเข้าใจว่าทุกอย่างต้องยึดลูกนักเลงลูกความเป็นธรรม วันนี้ผมตรวจสอบแล้ว เราต้องยอมรับว่านายกฯ อยู่ในกระบวนการที่ให้ผมออก ส่งผมกลับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อตรวจสอบลึกไปกว่านั้นทราบว่านายกฯ ไม่รู้เรื่อง ถูกหลอกให้มาเซ็นทราบเฉยๆ คนที่อยู่ในกระบวนการไม่ได้หมายความว่ามีส่วนในการกระทำผิดเสมอไป นายกฯ อยู่ในกระบวนการ แต่ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในการกระทำความผิด ไม่มีเจตนาทำผิด อะไรที่ถอนได้ก็ถอน ส่วนคนที่หลอกจะลากลูกน้องเดือดร้อนไปหมด หลอกแม้กระทั่งนายกฯ ไม่อายฟ้าอายดินหรืออย่างไร จะปกครองหน่วยได้อย่างไร  หลอกแม้กระทั่งนายกฯ เพื่อประโยชน์ส่วนตนเพียงคนเดียว ไม่ได้คิดเพื่อองค์กร นายกฯ ไม่เข้าใจต้องเห็นใจท่านว่ามาจากภาคธุรกิจ พ.ร.บ.ตำรวจ  ตำรวจยังรู้ไม่หมดเลย ท่านเข้าใจว่าส่งผมกลับไปเพื่อทำงานให้ประชาชน ที่ไหนได้มาหลอกท่านตอนเที่ยงวัน เพราะฉะนั้นผมก็ถอนนายกฯ แบบนักเลง" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าว

โจ๊กลุยขอความเป็นธรรม

อดีตรอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ในวันที่ 25 เม.ย. เป็นเทียร์ 3 จะให้รู้ว่าคำสั่งไม่ชอบอย่างไร แต่อย่าลืมว่าอย่าลากลูกน้องตัวกระเป๋งไปเดือดร้อนด้วย เพราะตนได้โทร.ไปสอบถามผู้การกองวินัย ทราบว่ามีการประมวลไว้ล่วงหน้าแล้ว 2 วัน แปลว่ามีการวางแผนกันล่วงหน้าเตรียมการไว้ก่อนแล้วว่าจะให้ตนออกแล้วไปหลอกนายกฯ ต้มได้แม้กระทั่งนายกฯ แล้วไม่ต้มลูกน้อง ต้มประชาชนเหรอ  หลอกเพื่อประโยชน์ส่วนตนอย่างเดียว ไม่ต้องพูดถึงประโยชน์ส่วนตนคืออะไรรู้กันอยู่ อยู่ดีไม่ว่าดีหาคดีให้ตัวเอง

ถามถึงเอกสารคัดค้านการทำหน้าที่ของกรรมการ ป.ป.ช.ที่หลุดออกมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า มันหลุดมาอย่างไรไม่รู้ แต่ก็ตามเอกสาร ฝากคนที่หน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมต้องมีความยุติธรรมมีความศักดิ์สิทธิ์เชื่อถือได้ เพราะตำแหน่งอยู่ไม่นานตำนานอยู่นาน ความจริงคือความจริง บางคนรู้ที่ไปอย่างเดียวแต่จำที่มาไม่ได้ ตนไม่ได้เอ่ยชื่อ อยากจะบอกให้ทำโพลถามคนใน ป.ป.ช.ว่ามีความคิดเห็นอย่างไร สิ่งที่กลัวคือกลัวว่าประทัดจะหมดเยาวราชเสียก่อน

"วันนี้ประชาชนเขางงกันทั้งประเทศการสอบสวนเป็นอย่างนี้ ที่ผ่านมาผมทำงานให้ประชาชนขนาดไหน อำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชนมากขนาดไหน ถ้าให้ประชาชนเลือกตั้งผมได้เป็น ผบ.ตร.แน่ ผมคือยาสามัญประจำบ้าน ประชาชนนึกไม่ออกก็นึกถึงผม ที่ผมทำงานให้ประชาชนอย่างหนักเพราะเกลียดความอยุติธรรม วันนี้เหมือนกันถ้าผมไม่สู้ จะเอาความยุติธรรมให้ชาวบ้านได้อย่างไร ต้องคิดเผื่อว่าเมื่อผมชนะได้รับความชอบธรรมคืนมาผมจะได้เอาความยุติธรรมคืนชาวบ้าน" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าว

ซักว่าเล่นกันแรงหรือไม่กับตำแหน่งผบ.ตร. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า เล่นกันแรงอยู่แล้ว ต้องเล่นกันแรงแบบนี้ เพราะคนมันอยากเป็น มันห้ามไม่ได้ คนที่อยากเป็นก็เป็นคนที่ไปพบนายกฯตอนเที่ยง

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ยังกล่าวว่า ในวันที่ 25 เม.ย. จะเข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรม (ก.พ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จากนั้นไปยื่นต่อประธาน ก.ตร. แต่ต้องยื่นผ่านเลขาฯ  คือ ผบช.ก.ตร. ว่าคำสั่งทางปกครองที่ให้ตนออกจากราชการเป็นคำสั่งที่มิชอบ เพราะเรื่องนี้มีการทำกันเป็นขบวนการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายของการให้สัมภาษณ์ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ได้ยกแขนขวาเพื่อโชว์สายสิญจน์และวัตถุมงคล เดินสายทำบุญที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อช่วงเดือน เม.ย. ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดที่ จ.เชียงใหม่

ต่อมาช่วงบ่าย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เดินทางมาที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อยื่นหนังสือแจ้งให้ ปปง.ทราบถึงการสอบสวนของคณะพนักงานสอบสวนเว็บพนันออนไลน์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่สามารถตรวจยึดหรืออายัดทรัพย์ใดๆ ได้

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆและ สน.เตาปูน ได้มีการส่งข้อเท็จจริงมายัง ปปง.เพื่อดำเนินการฟอกเงิน ยึด อายัดต่างๆ จึงทำหนังสือส่งถึง ปปง.เมื่อการสอบสวนไม่มีอำนาจการทำรายงานส่งมายัง ปปง.เรื่องความผิดฟอกเงินเป็นข้อเท็จจริงที่ทาง ปปง.ไม่สามารถเอาไปดำเนินการอะไรได้ ไม่สามารถชี้ใครผิดใครถูกได้ ไม่สามารถดำเนินยึดอายัดอะไรได้ จึงต้องมาร้องให้ ปปง.ทราบ

 “วันนี้ต่อสู้กันไปตามหลักกฎหมาย ต่อไปเป็นกระบวนการล่ารายชื่อ ถ้าครบ 20,000 ชื่อ สามารถส่งไปให้ประธานสภาเพื่อดำเนินการต่อไปตามกฎหมาย ให้ประชาชนได้ร่วมลงชื่อเป็นไปตามกฎหมายรัฐธรรมนูญว่ากันไปตามขั้นตอน เพราะตอนนี้การรวบรวมรายชื่อไม่ต้องลงพื้นที่ใช้เทคโนโลยีโซเชียลมีเดียได้ เชื่อว่าประชาชนอยากเห็นการทำหน้าที่อย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ยิ่งมีประเด็นแบบนี้ประชาชนยิ่งถาโถมมา” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าว

อดีตรอง ผบ.ตร.กล่าวว่า เมื่อ ปปง.ได้รับข้อมูลแล้วก็จะนำไปตรวจสอบ ตนเป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่มาเองแบบนี้บ่งบอกแล้ว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรม เมื่อมายื่นเอง ปปง.ก็ต้องสอบสวนด้วยความเป็นธรรม ถ้า ปปง.ทำไม่ชอบก็เข้าฐานความผิด 157 เพราะถือว่าตนแจ้งเตือนแล้ว แจ้งให้รับรู้แล้วว่าการสอบสวนไม่ชอบ

 “เรื่องทั้งหมดที่ทำอยู่เพื่อความเป็นธรรม ถ้าอยากเป็น ผบ.ตร.ก็บอกผมตรงๆ จะบายให้ก็ได้ ไม่ต้องมาใช้วิธีการแบบนี้ มาพูดกับผมตรงๆ อยากเป็น ผบ.ตร. ผมยอมให้ ก็จะได้พาไปกราบพล.ต.อ.เผ่า คุยได้ไม่เป็นไร ผมนักเลง แต่ไม่ควรใช้วิธีการแบบนี้ ถ้าใช้วิธีการแบบนี้ตัวท่านจะติดคุกเอง วันที่ 25 เม.ย. จะไปยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรม ตร. จะชี้ให้เห็นคำสั่งทางปกครองให้ผมออกผิดหรือถูก อย่ารีบเอาผมกลับเดียวฟ้องอาญาไม่ทัน” อดีตรอง ผบ.ตร.กล่าว

'ธนา' ลั่นไม่กลั่นแกล้งใคร

ขณะที่ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ยื่น ป.ป.ช.เอาผิด พร้อมคณะพนักงานสอบสวนกว่า 200 นาย สอบสวนโดยมิชอบคดีเว็บพนันออนไลน์ว่า ได้รับมอบหมายจาก ผบ.ตร.ให้เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ก็ทำตามหน้าที่ ไม่ได้มีเจตนาจงใจกลั่นแกล้ง ทำตรงไปตรงมา

"เราได้ขออัยการร่วมสอบสวนด้วย 2 ท่าน รวมถึง ปปง. และทุกอย่างอยู่ในรูปกระบวนการหมด ไม่มีใครสามารถที่จะกลั่นแกล้งใครได้" พล.ต.อ.ธนากล่าว

ถามว่า การกล่าวหารุนแรงกับหัวหน้าคณะและพนักงานสอบสวนกว่า 200 นาย อ้างว่าหลักฐานที่ได้มาโดยมิชอบ โดยเฉพาะที่ส่งให้กับ ปปง.ไม่ถูกต้อง รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ก็แล้วแต่ท่านพิจารณา ตนคิดว่าการที่เราทำตรงไปตรงมา ถูกต้อง ชอบธรรม โปร่งใส จะเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้

ซักว่าส่วนตัวกังวลหรือไม่ พล.ต.อ.ธนากล่าวว่า “ไม่กังวล”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. ได้ลงนามคำสั่งกำหนดลักษณะงานและการมอบอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบให้รอง ผบ.ตร., จเรตำรวจแห่งชาติ, ผู้ช่วย ผบ.ตร. และรองจเรตำรวจแห่งชาติ (เพิ่มเติม) เนื้อหาโดยสรุปเป็นการยกเลิกการมอบอำนาจหน้าที่ที่ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ อดีตรอง ผบ.ตร. (กฎหมายและคดี) และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อดีตรอง ผบ.ตร. รับผิดชอบงานความมั่นคงและกิจการพิเศษ โดยงานกฎหมายและคดี มอบหมายให้ พล.ต.อ.สราวุฒิ การพานิช รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบแทน ส่วนงานความมั่นคงและกิจการพิเศษ มอบหมายให้ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.รับผิดชอบ

วันเดียวกัน ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน  นำหลักฐานเพิ่มเติมเส้นทางการเงินจากบัญชีม้าเชื่อมโยงไปยัง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. มอบให้กับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ซึ่งนายษิทราระบุว่า วันนี้เป็นการเอาเหยื่อมาป้อนอินทรี อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติไม่ได้อยู่รับหลักฐาน เนื่องจากไม่ได้มีการนัดหมายล่วงหน้า

นายษิทราแถลงข่าวโดยนำแผนผังแสดงเส้นทางการเงินของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ที่ได้รับโอนมาจากเว็บพนันเข้าไปยังบัญชีม้าว่า มีตำรวจ 3 กลุ่มเกี่ยวข้อง กลุ่มที่ 1 กลุ่มที่โอนเงินเข้าบัญชีม้า เป็นตำรวจที่ไปเก็บส่วยและโอนเข้าบัญชีม้านายณัฐพงศ์ หรือนายคชาชาญ, กลุ่มที่ 2 ม้าเลี้ยงดู คือกลุ่มที่ได้รับการโอนเงินจากบัญชีม้าเข้าไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีการโอนทุกเดือน, กลุ่มที่ 3 คือทั้งโอนให้ทั้งรับ เก็บมาก่อนแล้วส่งให้นาย แล้วนายทอนมาให้อีกครั้ง อย่างระบบของตำรวจ สอท.เขาใช้ระบบแบบน้ำตก ส่งข้างบนข้างล่างได้เท่าไหร่แล้วแต่ความปรานีของเจ้านาย โดยเส้นเงินที่นำมามอบให้ บก.ปปป.วันนี้มี 2 ประเภท เป็นเส้นเงินเว็บพนันบีเอ็นเค และส่วย 18 ธุรกิจ จากบัญชีม้าของนายณัฐพงศ์แค่บัญชีเดียวมีเงินเข้ากว่า 800 ล้าน คิดว่าทั้งระบบน่าจะมีสูงถึง 1,000 ล้าน ซึ่งมีตำรวจนายหนึ่งพ่อเป็นถึง “พล.อ.อ”

"วันนี้จะมาดูใจอินทรีเต่า จะกล้าดำเนินคดีกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ที่เป็นผู้บังคับบัญชาหรือไม่ อย่างที่บอก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ไม่ธรรมดา 8 ปี 8 ตำแหน่ง เลื่อนยศทุกปีไม่มีใครทำได้ ทางการเมืองเรียกตั๋วช้าง แต่ตำรวจบางคน 8 ปียังอยู่ตำแหน่งเดิม แต่ ผบ.ตร.กลับเติบโตทุกปี ไม่รู้เก่งกาจมาจากไหน คนนี้อินทรีเต่าต้องปราบให้สังคมตำรวจดีขึ้น จะได้ไม่มีเส้นสาย ทราบดีว่าพล.ต.อ.ต่อศักดิ์เป็นน้องชายใคร แต่ถ้า พล.ต.ต.จรูญเกียรติไม่ยอมดำเนินการใดๆ ก็เป็นการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ วันนี้เอาเหยื่อมาป้อนแล้วจะทำกันอย่างไรต่อไป" นายษิทรากล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง