นายกฯ ถึงปักกิ่งแล้ว เตรียมพบ "สี จิ้นผิง" หารือความร่วมมือแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ สานต่อรถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ คุย 3 บิ๊กธุรกิจเอกชน "ก่อแก้ว" ออกโรงปลอบเสื้อแดง ยัน "ทักษิณ-อิ๊งค์" ยังยืนหยัดเคียงข้าง ปชน.ร้อง กกต.นับคะแนนใหม่นายก อบจ.นครนายก ส่วนผู้สมัครปากน้ำหอบหลักฐานซื้อเสียง
เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เวลา 11.30 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้เดินทางออกจากกรุงเทพมหานครแล้ว โดยจะถึงท่าอากาศยานนานาชาติกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีนเวลา 17.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นกรุงปักกิ่ง (เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง) โดยมีนางฮว่า ชุนหยิง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน รอให้การต้อนรับอย่างสมเกียรติ ณ สนามบิน นานาชาติกรุงปักกิ่ง พร้อมด้วยผู้บริหารของรัฐบาลจีนและเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย รวมทั้งเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง ร่วมให้การต้อนรับ
นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการสำคัญ ดังนี้ วันพฤหัสบดีที่ 6 ก.พ. ในช่วงเช้า นายกฯ มีกำหนดการเข้าพบหารือกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และนายจ้าว เล่อจี้ ประธานสภาประชาชนแห่งชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อขับเคลื่อนความสัมพันธ์และความร่วมมือในทุกมิติ หลังจากนั้นจะเดินทางเพื่อไปวางพวงมาลาที่อนุสาวรีย์วีรชน จัตุรัสเทียนอันเหมิน
ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายกฯ จะเข้าร่วมพิธีตรวจแถวสวนสนามภายในศาลามหาประชาชน และเข้าพบปะหารือร่วมกับนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน และคณะ จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะเป็นสักขีพยานในการลงนามข้อตกลงต่างๆ ระหว่างไทย-จีน ทั้งในเรื่องเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน และข้อตกลงต่างๆ ระหว่างรัฐบาลของทั้งสองประเทศที่ได้บรรลุข้อตกลงระหว่างกัน ซึ่งการเดินทางครั้งนี้จะมีทั้งในส่วนของกระทรวงคมนาคม, กระทรวงการคลัง, กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงดีอี, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กระทรวงการต่างประเทศ, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้าร่วมหารือในทุกมิติระหว่างกัน โดยในช่วงค่ำ รัฐบาลจีน โดยนายกฯ จีนและคณะผู้บริหาร ได้จัดงานเลี้ยงรับรองนายกฯ ไทยและคณะ
นายจิรายุกล่าวว่า ในวันศุกร์ที่ 7 ก.พ. ในช่วงเช้า นายกฯ พร้อมคณะจะออกเดินทางจากกรุงปักกิ่งไปยังนครฮาร์บิน ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ และเมื่อเดินทางถึง จะเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวัน ที่รัฐบาลจีนจัดขึ้นเพื่อต้อนรับผู้นำแต่ละประเทศ โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เป็นเจ้าภาพ และเชิญ น.ส.แพทองธารเข้าร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว ครั้งที่ 9 อย่างเป็นทางการ โดยนายกรัฐมนตรีจะพบปะเพื่อให้กำลังใจนักกีฬาไทย และเยี่ยมชมงานแสดงศิลปะแกะสลักน้ำแข็ง ก่อนเข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว ครั้งที่ 9 ในช่วงค่ำ
อิ๊งค์ถึงกรุงปักกิ่ง
ต่อมาเวลา 17.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงปักกิ่ง ซึ่งเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง) น.ส.แพทองธารเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติกรุงปักกิ่ง พร้อมให้สัมภาษณ์ถึงการไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการครั้งนี้ว่า จะได้พบกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และบุคคลที่มีบทบาทสำคัญของจีน ทั้งนายจ้าว เล่อจี้ ประธานสภาประชาชนแห่งชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน และนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งตนเคยพบกับนายกรัฐมนตรีของจีน 2-3 ครั้งแล้ว มาครั้งนี้ถือว่ามีความคุ้นเคย
ประกอบกับไทยและจีนมีความสัมพันธ์ทางการทูตมายาวนาน 50 ปี จึงมีเรื่องที่จะประสานทำงานร่วมกันหลายเรื่อง ทั้งซอฟต์พาวเวอร์ ความร่วมมือด้านการค้าการลงทุน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมของอนาคตในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นดาต้าเซ็นเตอร์ และพลังงานสีเขียว การใช้รถอีวี การตั้งโรงงาน และการเปลี่ยนผ่านจากระบบแอนะล็อกมาเป็นดิจิทัล
น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เรื่องของปัญหาความปลอดภัยและอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเคยออกคลิปให้เอไอพูดเป็นภาษาจีน เชิญชวนนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในไทย และบอกว่าเราพร้อมดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมทั้งจีน การเดินทางเยือนจีนครั้งนี้จะไปตอกย้ำความปลอดภัยในประเทศไทยว่าพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี และจะมีการจัดงานเทศกาลอื่นๆ อีกมากมายทั้งปี ส่วนกรณีที่มีข่าวลือต่างๆ ในช่องทางโซเชียลมีเดีย ต้องไปขอความร่วมมือกับทางจีนด้วยว่า เมื่อพบเห็นขอให้ช่วยเอาลงให้ด้วย เพราะไม่ใช่ข้อมูลที่เป็นความจริง
นายกฯ ยังกล่าวถึงปัญหาคอลเซ็นเตอร์ว่า ต้องการความร่วมมือซึ่งกันและกัน และร่วมกับอาเซียน อาจจะมีการแนะนำเทคโนโลยีซึ่งกันและกัน ในการจัดการกับปัญหาคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมออนไลน์ และในฐานะที่ครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับจีน จะมีการพัฒนาทักษะและศักยภาพของคนร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นโรงงานที่จีนมาจัดตั้ง โดยพัฒนาคนให้มีศักยภาพ พร้อมที่จะทำงานได้ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแห่งอนาคตต่างๆ ซึ่งจะมีการแลกเปลี่ยนกัน รวมไปถึงการหาความรู้เพิ่มเกี่ยวกับประเทศจีน เกี่ยวกับการศึกษาว่าพัฒนาคนของจีนอย่างไร จะนำมาปรับใช้กับคนไทยด้วย
นอกจากนี้ จะมีการลงนามความตกลง ระหว่างไทย-จีนอย่างน้อย 14 ฉบับ จะสานต่อโครงการถไฟความเร็วสูงระยะที่ 1 และ 2 เพื่อเชื่อมโยงไทย ลาว และจีน รวมถึงสานต่อเรื่องโครงการแลนด์บริดจ์ ที่นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เคยทำไว้ ส่วนเรื่องการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมซอฟต์พาวเวอร์ ได้มีโอกาสพูดคุยกับเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อหาแนวทางในการสื่อสารระหว่างคนไทยกับจีนโดยผ่านซอฟต์พาวเวอร์ เพื่อให้มีกิจกรรมและร่วมเรียนรู้ซึ่งกันและกัน นอกจากนี้ จะมีโอกาสพบกับสมาคมธุรกิจไทยจีนและพบภาคเอกชน 2-3 รายด้วย นอกจากนี้จะพูดคุยถึงขั้นตอนในการดำเนินการรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่จากจีนมายังประเทศไทย ขณะเดียวกันจะเดินทางไปเมืองฮาร์บิน ซึ่งมีการแข่งขันเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว ครั้งที่ 9 ซึ่งมีนักกีฬาไทยเข้าร่วมแข่งขันด้วย จึงจะหาโอกาสไปเยี่ยมเยียนที่บ้านพักนักกีฬาไทยและให้กำลังใจด้วยตัวเอง
วันเดียวกัน นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นกรณีแกนนำคนเสื้อแดงออกมาโวยวายว่าถูกคนในพรรคเพื่อไทยด้อยค่า ภายหลังการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) โดยระบุว่า เข้าใจดีถึงความรู้สึกของพี่น้องเสื้อแดงหลายคน รวมถึงนายอรรถชัย อนันตเมฆ เพราะบางครั้งเคยรู้สึกแบบเดียวกัน แต่นี่คือช่วงเวลาที่เราต้องเตือนตัวเองให้ก้าวข้ามอารมณ์ และ ความรู้สึกเชิงลบ เพื่อรักษาเป้าหมายที่เราร่วมกันต่อสู้มาตลอด 18 ปี นั่นคือเพื่อให้ได้ประชาธิปไตยที่แท้จริง และเป็นประชาธิปไตยกินได้ ที่ประชาชนทุกคนมีสิทธิ และเข้าถึงโอกาสอย่างเท่าเทียมกัน มีความอยู่ดีกินดี
ปลอบคนเสื้อแดง
"พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองใหญ่ มีความหลากหลายทั้งในมุมมองและบุคลากร แต่สิ่งหนึ่งที่ยังมั่นใจคือ ผู้ใหญ่ในพรรค โดยเฉพาะ ดร.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว รวมถึงท่านนายกฯ แพทองธาร ท่านให้เกียรติและยืนหยัดเคียงข้างคนเสื้อแดงมาโดยตลอด โดยเฉพาะท่านนายกฯ แพทองธาร ท่านคือคนเสื้อแดงครับ ส่วนสมาชิกบางคนที่อาจแสดงออกไม่เหมาะสมหรือไม่ให้เกียรติเรา ผมเชื่อว่าพวกเราสามารถแยกแยะได้ว่าใครที่ควรให้ความสำคัญ และใครที่ไม่จำเป็นต้องไปใส่ใจ" นายก่อแก้วระบุ
นายก่อแก้วกล่าวว่า ปีนี้พรรคเพื่อไทย จะผลักดันการแก้รัฐธรรมนูญครั้งสำคัญ ด้วยการให้ประชาชนเลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เข้ามาดำเนินการ นอกจากนี้ ยังมีการเดินหน้าผลักดันการแก้ไขกฎหมายสำคัญ เช่น กฎหมายทวงคืนความยุติธรรม รวมถึงการเสนอแก้ไข พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหมในเร็วๆ นี้ กฎหมายเหล่านี้ไม่ใช่แค่เป้าหมายของพรรค แต่เป็นเป้าหมายที่คนเสื้อแดง และนักสู้เพื่อประชาธิปไตยเรียกร้องมาตลอด และนี่เป็นเครื่องยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยยังคงเคียงข้าง แคร์พวกเรา และยังคงมีจุดยืนเดียวกัน อยากเชิญชวนพี่น้องเสื้อแดงทุกคนให้มองข้ามอารมณ์หรือเรื่องราวเชิงลบ ร่วมแรงร่วมใจเดินเคียงข้างกันต่อไป ด้วยหัวใจที่เข้มแข็งและความเชื่อมั่นในเป้าหมายของเรา
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายนพดล สมยานนทนากุล ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สมุทรปราการ พรรคประชาชน พร้อมด้วยนายจักรพันธ์ จินตนาพากานนท์ ผู้สมัครนายก อบจ.นครนายก พรรคประชาชน เข้ายื่นคำร้องต่อ กกต. เกี่ยวกับการเลือกตั้ง อบจ. โดยนายจักรพันธ์ยื่นคำร้องให้ กกต.สั่งนับคะแนนใหม่ เพราะมีความผิดปกติในเขตเลือกตั้งที่ 1 อ.องครักษ์ จ.นครนายก ที่มีผู้มาใช้สิทธิ 6,449 คน แต่กลับเป็นบัตรเสียกว่า 1,096 ใบ จึงถือว่ามีบัตรเสียถึง 1 ใน 6 อีกทั้งคะแนนห่างจากผู้ชนะเพียง 900 กว่าคะแนน แต่กลับมีบัตรเสียกว่า 5,800 ใบ
ด้านนายนพดลกล่าวว่า หลักฐานที่เราเตรียมมายื่นให้กับ กกต.ในวันนี้เป็นเรื่องการซื้อเสียง 3 กรณี โดยทั้งพยานบุคคลที่พร้อมให้ถ้อยคำต่อ กกต. คลิปวิดีโอที่ประชาชนได้บันทึกไว้ในระหว่างการซื้อเสียง แชตไลน์ที่หัวคะแนนทักหาผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งเกิดขึ้นในหลายอำเภอใน จ.สมุทรปราการ จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่ามีการซื้อเสียงหัวละ 200 บาท ซึ่งมั่นใจว่า กกต.จะพิจารณาแน่นอน ส่วนกรณีอื่นก็จะมีการอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม และจะมีการทยอยนำมายื่นต่อ กกต. นอกจากนี้ การรายงานจำนวนบัตรเสียของ จ.สมุทรปราการแบบเรียลไทม์พบความผิดปกติด้วย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ลาก1ปีสรุปฮั้วสว./หมอเกศลุ้นเม.ย.
“ประธาน กกต.” แจงยิบจับมือดีเอสไอสอบฮั้ว สว.ช่วยให้ทำงานคล่อง
ธปท.ดักคอซื้อหนี้ คลังไม่ถอยกาสิโน
“จุลพันธ์” มั่นใจซื้อหนี้ประชาชนเกิดได้ในรัฐบาลนี้ ขอรอความชัดเจนก่อน
ปลุกใส่กางเกง สัญลักษณ์จว. เล่นสงกรานต์
“นายกฯ อิ๊งค์” หัวโต๊ะ คกก.ซอฟต์พาวเวอร์ ปลุกใส่กางเกงสัญลักษณ์ประจำจังหวัดเล่นน้ำสงกรานต์ พร้อมทุ่ม 150 ล้าน
การันตีจีนดูแลอุยกูร์ดี อ้วนฝากทูตไทยตามต่อ
นายกฯ ย้ำส่ง "อุยกูร์" กลับจีนไม่ต้องห่วง พร้อมตอบทุก ปท.ที่เห็นต่าง “ภูมิธรรม-ทวี” ถึงซินเจียงแล้ว
ซักฟอกแม้วลาม‘ปู’ เคาะฝ่ายค้านเชือด28ชม./‘อิ๊งค์’มนุษย์แม่เคลียร์ดรามา
"นายกฯ" ลั่นคนเราไม่ได้มีมิติเดียว ต้องแบ่งเวลาให้ถูก หลังโดนดรามาพาลูกวิ่งสนามหญ้าทำเนียบฯ เมินคุยม็อบแก้ปัญหาปลาหมอคางดำ
ทลายบุหรี่ไฟฟ้า เจ้าใหญ่สุดปท. มูลค่า130ล้าน
"นายกฯ อิ๊งค์" โชว์ทลายโกดังบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุด ส่งขาย 100 เครือข่ายทั่วประเทศ ยึดของกลาง 2.6 แสนชิ้น