ชงวิป3ฝ่ายส่งศาลรธน. ตีความประชามติกี่ครั้ง

"ชูศักดิ์" ชงวิป 3 ฝ่ายส่งศาล รธน.ตีความซ้ำทำประชามติกี่ครั้ง เชื่อศาลรับพิจารณาเนื่องจากเกิดความขัดแย้งแล้ว ทำ สส.-สว.ไม่กล้าโหวต เลขาฯ วิปวุฒิสภาเผย "วันนอร์" บรรจุร่างแก้ รธน. ม.256/1  แล้ว "วิป 3 ฝ่าย" ถกจัดสรรเวลาอภิปราย 13-14 ก.พ.นี้ ฝ่ายละ 6 ชม. “สส.ปชน.” พาอดีตผู้สมัครนายก อบจ.สมุทรปราการยื่นหลักฐานทุจริตเลือกตั้ง

เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร 3 ฝ่าย หรือวิป 3 ฝ่าย  หารือถึงกรอบการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญที่จะมีขึ้นในวันที่ 13-14 ก.พ. ทั้งแบบรายมาตราและการแก้ไขทั้งฉบับ ซึ่งประกอบไปด้วยร่างของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังมีความกังวลจากสมาชิกรัฐสภา ว่าสุดท้ายแล้วจะต้องทำประชามติ 2 ครั้งหรือ 3 ครั้ง ตนจึงได้เสนอผ่านไปทางวิปรัฐบาลให้มีการยื่นรัฐธรรมนูญตามมาตรา 210 ให้วินิจฉัยว่าสามารถทำประชามติได้กี่ครั้ง ซึ่งการยื่นวินิจฉัยครั้งนี้ แตกต่างจากครั้งก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับวินิจฉัย เพราะครั้งนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา  ได้บรรจุระเบียบวาระเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งคนที่จะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความจะเป็น สส.หรือ สว.ก็ได้

นายชูศักดิ์กล่าวต่อว่า การยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ สามารถยื่นได้ทันทีหรือจะประชุมไปแล้วก็สามารถยื่นได้ และเชื่อว่าทำให้ทุกคนสบายใจ เพราะหากเดินหน้าต่อไปอาจจะทำให้ สส.และ สว.หลายคนเกิดความกังวลและไม่กล้าพิจารณาโหวตรัฐธรรมนูญทั้งนี้ ตนไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการคว่ำการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปเสียก่อน เพราะจะเป็นการเสียของ ส่วนจะยึดร่างของพรรคเพื่อไทยที่ไม่แก้ในหมวด 1 และ 2 แต่ในส่วนของพรรคประชาชนเสนอให้มีการแก้ไขทั้งฉบับนั้น ยังไม่มีการพูดคุยกัน ขอให้ผ่านขั้นตอนแรกไปก่อน

นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงษศ์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.)  ในฐานะเลขาธิการวิปวุฒิสภา เปิดเผยภายหลังการประชุมวิป 3 ฝ่าย เพื่อหารือถึงกรอบการประชุมร่วมรัฐสภา วาระพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมว่า นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้บรรจุระเบียบวาระการประชุมรัฐสภาในวันที่ 13-14 ก.พ.นี้ เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติมการแก้ไขมาตรา 256 เพื่อเปิดทางยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ซึ่งมี 2 ร่าง คือร่างของพรรคเพื่อไทย กับร่างของพรรคประชาชน

นายพิสิษฐ์ระบุถึงการจัดสรรเวลาวิป 3 ฝ่าย โดยแบ่งเวลาอภิปรายฝ่ายละ 6 ชั่วโมง คือ พรรคการเมืองร่วมรัฐบาล 6 ชั่วโมง, พรรคการเมืองฝ่ายค้าน 6 ชั่วโมง  และสมาชิกวุฒิสภา 6 ชั่วโมง ซึ่งกรอบการประชุม จะเริ่มวันที่ 13-14 ก.พ.นี้ ตั้งแต่เวลา 09.30 น.ถึงเวลา 22.00 น. ในวันที่ 14 ก.พ. และภายหลังจากอภิปรายเสร็จสิ้น คาดว่าในเวลา 15.00 น.เป็นต้นไป จะเป็นการเริ่มกระบวนการโหวตให้ความเห็นชอบในวาระรับหลักการ ซึ่งตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ให้โหวตขานชื่อทีละคน จากจำนวนสมาชิกของรัฐสภาเท่าที่มีอยู่ในขณะนี้ จำนวน 692 คน แบ่งเป็นจำนวน สส. 493 คน และ สว. 199 คน โดยส่วนตัวตนไม่เห็นด้วยกับยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ด้วยการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่เห็นด้วยกับการแก้ไขแบบรายมาตรา

รัฐสภา สส.สมุทรปราการ พรรคประชาชน นำโดยน.ส.พนิดา มงคลสวัสดิ์, นายวีรภัทร คันธะ พร้อมด้วยนายนพดล สมยานนทนากุล อดีตผู้สมัครนายก อบจ.สมุทรปราการ พรรคประชาชน นำหลักฐานการทุจริตการเลือกตั้งนายก อบจ.สมุทรปราการ มายื่นให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ โดยมีนายคัมภีร์  ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาฯ เป็นผู้รับหนังสือ

นายนพดลกล่าวว่า การมายื่นหนังสือถึงประธานสภาฯ ครั้งนี้ เพราะเชื่อมั่นว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งประชาธิปไตย และการเลือกตั้งก็เป็นรากฐานของประชาธิปไตยเช่นเดียวกัน โดยการเลือกตั้งท้องถิ่นที่ผ่านมา ชาวสมุทรปราการต่างพบว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น เราจึงต้องทำเพื่อปกป้องทุกคะแนนเสียงและเจตนารมณ์ของประชาชน จึงมาขอความเป็นธรรมผ่านประธานสภาฯ เพื่อให้ดำเนินการติดตามว่าเกิดเหตุผิดปกติอะไรขึ้นในจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งตนได้ยื่นหลักฐานบางส่วนให้ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไปแล้วเมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา และกำลังรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อไปยื่น กกต.อีกครั้ง พร้อมแจ้งความดำเนินคดี รวมถึงจะยื่นเรื่องไปยัง รมว.มหาดไทยด้วย

ด้านนายวีรภัทรกล่าวว่า การเลือกตั้งนายก อบจ.ที่ผ่านมา พบความผิดปกติมากมาย ซึ่งพรรคได้ดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมไปแล้ว เช่น การแจ้งความที่ สภ.พระประแดง เพื่อดำเนินการกับผู้ที่มีลักษณะซื้อสิทธิ์ขายเสียง แต่ สภ.พระประแดงโดยร้อยเวรให้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ไม่ใช่เพื่อประสงค์ดำเนินคดี โดยอ้างว่าพนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจสอบสวน เพราะอำนาจสอบสวนอยู่ที่ กกต. ฝ่ายเดียว ทั้งที่จริงๆ แล้วพนักงานสอบสวนสามารถดำเนินการพร้อมๆ กับ กกต.ได้

“ผมขอฝากไปยัง สภ.พระประแดงและหน่วยงานยุติธรรมที่เกี่ยวข้องว่า จริงๆ แล้วก็มีระบบติดตามใบหน้าของผู้ที่กระทำผิด จึงไม่ควรมีข้ออ้างใดๆ ว่าไม่สามารถติดตามผู้กระทำผิดได้ ขอว่าอย่าประวิงเวลาคดีเพื่อไปซักซ้อมพยาน เพราะตรงนี้เราค่อนข้างกังวล ในการติดตามดำเนินคดี และเราจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการทำงานของ กกต. เพราะที่ผ่านมาในการทำงานหลายอย่างของ กกต. ไม่เป็นไปตามหลักสากล เช่น จัดการเลือกตั้งวันเสาร์ และทุกเพจในจังหวัดสมุทรปราการ หากไปเปิดดูจะพบมีแต่คำว่า 200 ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าหมายความว่าอะไร ดังนั้นจึงอยากให้ กกต.ดำเนินการเรื่องนี้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม” นายวีรภัทรกล่าว

นายวีรภัทรกล่าวต่อว่า นอกจากนั้นยังมีหลักฐาน การรายงานผลนับคะแนนของอำเภอพระประแดง ที่มีชื่อผู้สมัคร ส.อบจ.หมายเลข 1 และ 2 แค่ 2 คน แต่ในใบนับคะแนนกลับมีหมายเลข 4 มาด้วย ซึ่งหมายเลข 4 เป็นผู้สมัครนายก อบจ. ขณะที่ป้ายนับคะแนนของหน่วยเดียวกัน มีเพียง 2 หมายเลข แต่ใบนับคะแนน กับใบลงคะแนนไม่ตรงกัน ส่วนใบลงคะแนนของนายกอบจ. มีการลงคะแนนที่สลับไปมาทำให้สับสน นี่เป็นแค่ตัวอย่างหนึ่งของหน่วยที่มีคนของพรรคไปเฝ้า แต่ยังมีอีกหลายจุดที่ไม่ยอมให้เข้าไปเฝ้าหน่วย และคะแนนคู่แข่งออกมาแบบชนะขาดลอย

ขณะที่นายคัมภีร์กล่าวว่า จะนำเรื่องดังกล่าวเรียนไปยังประธานสภาฯ เพื่อพิจารณาส่งเรื่องให้คณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป และจะแจ้งไปยัง กกต.เพื่อให้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้เสร็จสิ้น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สอบพยานคดีฮั้วสว.ทุกราย!

“แสวง” แจงทำหน้าที่คุมเลือก สว.ตามกฎหมาย ด้าน “กกต.” ยกคำร้องเลขาธิการ กกต.ไม่ปฏิบัติหน้าที่ “ดีเอสไอ"