"นายกฯ อิ๊งค์" คุย "สี จิ้นผิง" เดินหน้าร่วมกันปราบอาชญากรรมข้ามชาติ "ปธน.จีน" ชมไทยตัดน้ำมัน-ไฟ-เน็ต สกัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมยกระดับบังคับใช้กฎหมายระดับทวิภาคี-อนุภูมิภาค "ภูมิธรรม" พอใจมาตรการเชิงรุก บอกชเวก๊กโกลดใช้ไฟครึ่งหนึ่ง ยันภายในเดือน ก.พ.ตัดสัญญาณเน็ตได้หมด "BGF" ส่งตัว 61 เหยื่อถูกหลอกทำงานให้ไทย "กมธ.ความมั่นคงฯ" เรียกหน่วยงานแจงผลตัดไฟ "รังสิมันต์" จี้รัฐบาลคุมเข้มต่อ แนะลดท่าข้ามตรงข้ามกาสิโน-พื้นที่แก๊งคอล บีบการเข้า-ออก เตรียมให้ข้อมูล "ตร.ไซเบอร์" โยงสีกากีเอี่ยวเว็บพนัน "รอง ผบ.ตร." สั่งตั้งด่านสกัดแก๊งหลอกคนไทยย้ายฐานจากเมียนมาไปกัมพูชา
ที่มหาศาลาประชาชน วันที่ 6 ก.พ.2568 เวลา 10.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงปักกิ่ง) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าเยี่ยมคารวะนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในโอกาสเดินทางเยือนสาธารณประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 5-8 ก.พ.2568
น.ส.แพทองธารกล่าวตอนหนึ่งว่า ไทยพร้อมเดินหน้าความร่วมมือกับจีนในการสกัดกั้นกระบวนการอาชญากรรมที่เดินทางผ่านประเทศไทย และจะเตือนภัยผ่านกลไกความร่วมมือกันอย่างเป็นระบบ รวมทั้งเป็นที่น่ายินดีที่ทั้งสองฝ่าย รวมถึงประเทศที่เกี่ยวข้องในภูมิภาค ได้มีความร่วมมือที่ใกล้ชิดในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ขบวนการคอลเซ็นเตอร์อย่างจริงจังแล้วในปัจจุบัน
ขณะที่ นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า จีนสนับสนุนอย่างเข้มแข็งในการปราบปรามขบวนการหลอกลวง (online scam) การลักพาตัว การค้ามนุษย์ ซึ่งถือเป็นการบั่นทอนผลประโยชน์ของประชาชนจีน เป้าหมายหลักของทั้งสองประเทศคือ การปราบปรามกิจกรรมผิดกฎหมาย ที่ผ่านมาจีนได้ร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและท้องถิ่น สามารถปราบปรามยาเสพติดจนประสบความสำเร็จ
"อาชญากรรมข้ามชาติถือเป็นความท้าทาย มีความเสี่ยงสูง และชื่นชมรัฐบาลไทยที่พยายามอย่างเต็มที่และเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการตัดน้ำ ไฟ อินเทอร์เน็ต และน้ำมัน ที่จะสามารถตัดวงจรกิจกรรมที่เป็นอาชญากรรมต่างๆ ได้ และเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปรามจะดูแลความปลอดภัยและผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ ด้วยการยกระดับการบังคับใช้กฎหมายทั้งในระดับทวิภาคีและอนุภูมิภาค" ประธานาธิบดีจีนระบุ
เวลา 17.00 น. ที่ North Hall มหาศาลาประชาชน น.ส.แพทองธารเข้าร่วมพิธีต้อนรับตรวจแถว จากนั้นนายกรัฐมนตรีพบหารือกับนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า นายกฯ ได้หารือเรื่องความปลอดภัยของประชาชน รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ เป็นสิ่งที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญสูงสุด โดยไทยพร้อมร่วมมือกับจีนและประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งในระดับทวิภาคีและผ่านกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติอย่างเด็ดขาดจริงจัง พร้อมขอความร่วมมือจากจีนในการสกัดกั้นและเตือนภัยเหยื่อตั้งแต่ต้นทาง รวมทั้งเผยแพร่ข้อมูลความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับประเทศไทยในบรรดาชาวจีน
ที่กองบิน 6 กองทัพอากาศ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม เดินทางไปตรวจราชการและประชุมติดตามการปฏิบัติงานสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดและแก้ไขปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ภายหลังตัดไฟที่ อ.แม่สอด จ.ตาก
นายภูมิธรรมกล่าวก่อนขึ้นเครื่องว่า หลังตัดไฟต้องรอการประเมินผลกระทบต่างๆ ก่อน ซึ่งเรื่องความเสียหายทางเศรษฐกิจ เราได้ประเมินแล้วว่าเป็นเรื่องใหญ่กว่า กระทบต่อคนทั้งประเทศ แหล่งกำเนิดมันอยู่ใกล้กับเรา และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อาชญากรรมเพิ่มขึ้น ซึ่งวันแรกที่ตัดไปอาจจะไม่เห็นอะไร แต่ที่ชเวก๊กโกก็ลดลงไป
ถามว่า หากเขามีการไปซื้อไฟฟ้าจากประเทศลาว นายภูมิธรรมระบุว่า ก็เป็นสิทธิ์ของเขา เหมือนกับเป็นอธิปไตยในประเทศเขา เขาอยากจะซื้อเดี๋ยวไปซื้อคนอื่นก็ว่ากันไป เราไม่มีสิทธิ์จะบอกว่าห้ามซื้อลาว เราจัดการในประเทศของเรา
คุยลาวอุดช่องแก๊งคอลซื้อน้ำมัน
"ลาวก็คุยกับผมมาครั้งหนึ่งว่าต้องช่วยกันแก้ปัญหา แต่ตอนนี้เขาอุดตรงนั้นตรงนี้ เขาก็พร้อมซีลชายแดนด้านเขาเหมือนกันเพื่อแก้ปัญหา แต่เรายังไม่คุยไปถึงว่าวันนี้เราต้องทำอะไร การที่เขาต้องวิ่งไปหาฝ่ายอื่น แสดงว่าเขามีปัญหา" นายภูมิธรรมกล่าว
ต่อมานายภูมิธรรมเดินทางถึงจุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 2 อ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา โดยนายภูมิธรรมระบุว่า ไม่มีจุดเสี่ยงอันตราย แต่ไทยได้ตรึงกำลังทหารและตำรวจเอาไว้ ซึ่งเขตชายแดนนั้นปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภูมิธรรมได้สอบถามเจ้าหน้าที่ทหารว่าหนักใจหรือไม่ โดยทางทหารยืนยันว่า “ไม่หนักใจ”
จากนั้นนายภูมิธรรมเดินทางไปเป็นประธานประชุมติดตามและกำชับแนวทางแก้ไขปัญหายาเสพติดและอาชญากรรมชายแดน มี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม, นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ, พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม, พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม
นายภูมิธรรมแถลงผลการประชุมว่า หลังตัดไปจะเห็นว่าเมืองชเวก๊กโกมีการใช้ไฟฟ้าลดลงครึ่งหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการเซฟไฟฟ้าเพื่อใช้หรืออย่างไรก็ตาม แสดงให้เห็นว่ามาตรการนี้กระทบต่อเขา อย่างไรก็ตาม หากโรงพยาบาลฝั่งเมืองเมียวดีมีผู้ป่วยฉุกเฉิน เราก็ไม่ได้ปิดกั้น ที่โรงพยาบาลที่แม่สอดก็พร้อมรับอยู่แล้ว โดยคำนึงถึงหลักมนุษยธรรม
นายภูมิธรรมกล่าวว่า เรื่องสัญญาณอินเทอร์เน็ตได้ดำเนินการตัดสัญญาณตั้งแต่ปี 2566 แล้ว แต่ไม่ได้มีความต่อเนื่อง ซึ่งได้พูดคุยกับศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่ได้แจ้งว่า ภายในเดือนนี้สัญญาณอินเทอร์เน็ตที่เป็นปัญหาทั้งหมดจะต้องถูกตัดออก ส่วนที่มีความจำเป็นบางส่วน ก็จะต้องมีการลดระดับลงมาในการส่งสัญญาณ ซึ่งเป็นไปตามสภาพของแต่ละพื้นที่
"เรื่องของการซื้อขายน้ำมันจาก สปป.ลาว แล้วข้ามมาที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ได้ตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มี เป็นแค่ข่าวลือโคมลอย ส่วนที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 พบว่ามีการซื้อน้ำมันจาก สปป.ลาวจริง ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ของรัฐบาลเมียนมา ซึ่งผมได้พูดคุยกับนายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และจะคุยกับเมียนมาด้วย ซึ่งอาจจะไม่พอแล้ว เพราะเราเคยเสนอว่าต้องมีการพูดคุยกับ สปป.ลาว และทางการกัมพูชาด้วย ซึ่งหากคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไกลเกินไป ก็ดำเนินการเท่านี้ไปก่อน" นายภูมิธรรมกล่าว
ถามว่า มาตรการนี้มีระยะเวลาหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ทำให้เต็มที่มากที่สุด ขอประเมินมาตรการที่สอดรับกับความเป็นจริง
ขณะเดียวกัน บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 กองกำลังพิทักษ์ชายแดน BGF ได้ส่งตัวเหยื่อ 61 คนชาวต่างชาติที่ถูกหลอกไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์ ที่เมืองชเวก๊กโก เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา โดยมีนายภูมิธรรมมารอรับ ก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนการคัดกรองของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
นายภูมิธรรมกล่าวต้อนรับเหยื่อทั้ง 61 คน และบอกว่า วันนี้ทุกคนได้รับอิสรภาพแล้ว จากนี้จะต้องมีการคัดกรองสืบสวน เพราะเราอยากรู้ว่าท่านเข้ามาได้อย่างไร มาทางไหน มานานหรือยัง วิธีการการเข้ามาเป็นอย่างไร ซึ่งเราอยากให้ท่านให้ข้อมูลกับเรามากที่สุด
ทั้งนี้ เหยื่อ 61 คนชาวต่างชาติที่ถูกหลอกไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์ แยกเป็น 7 สัญชาติ เป็นเพศชาย 53 คน เพศหญิง 8 คน มีสัญชาติจีน 39 คน, คาซัคสถาน 1 คน, อินโดนีเซีย 5 คน, เอธิโอเปีย 1 คน, ปากีสถาน 1 คน, มาเลเซีย 1 คน และอินเดีย 13 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองกำลังรักษาชายแดนกะเหรี่ยง BGF ควบคุมในอำเภอเมียวดีบนชายแดนไทย-พม่า ออกแถลงการณ์จะให้ความร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศในการช่วยเหลือในการส่งตัวบุคคลกลับประเทศของตน และจะยังคงให้ความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมต่อไป
'โรม' ชงลดท่าข้ามจุดกาสิโน
ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา ของนายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ที่สอบถามนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถึงมาตรการรับมือที่ประชุม สมช.มีมติตัดไฟ ตัดน้ำมัน และตัดสัญญาณโทรคมนาคม ที่ประเทศไทยส่งไปยังประเทศเมียนมา
น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ตอบกระทู้แทนนายอนุทิน ที่ติดภารกิจเดินทางไปต่างประเทศกับนายกฯ ว่า หลังจากที่ได้ตัดไฟไปแล้ว ทางฝั่งนั้นมีความวุ่นวายบ้างที่จะต้องเร่งหาน้ำมันเพื่อจะได้มีไฟใช้ต่อ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ต้องยอมรับว่าเราเป็นห่วงสำหรับกลุ่มเปราะบาง ผู้ป่วยที่มีอาการหนักที่อยู่ในโรงพยาบาลขณะนั้น ว่าหากเราตัดไฟไปเลยจะเกิดผลกระทบทันทีกับพวกเขา ฉะนั้นเราจึงได้แจ้งโรงพยาบาลที่มีผู้ป่วยหนักอยู่ก่อน ให้ได้นำผู้ป่วยหนักเหล่านั้นเข้ามารักษาในฝั่งไทย เราก็ยินดีต้อนรับ และเราได้เตรียมบุคลากรทางการแพทย์เอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
ด้านคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เป็นประธาน เรียกประชุม กมธ.ติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการฟอกเงิน การใช้บัญชีม้าในขบวนการยาเสพติดที่เชื่อมโยงกับอาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมทั้งกรณีที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายไฟบริเวณชายแดนของไทยกับประเทศเมียนมา โดยเชิญหน่วยงานต่างๆ อาทิ กระทรวงมหาดไทย, สมช., ป.ป.ช., สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน, สำนักข่าวกรองแห่งชาติ, กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์) เข้าร่วมประชุม
นายรังสิมันต์ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมว่า สิ่งที่เราจะต้องติดตามต่อไปคือ เราต้องยอมรับความจริงก่อนว่า การตัดไฟ อินเทอร์เน็ต น้ำมัน อาจจะไม่เพียงพอทั้งหมด แต่เป็นก้าวแรก ก็ต้องมีก้าวที่สองและสามต่อไป เพื่อปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์
"ผมยังมีข้อมูลอีกชุดหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนัน รวมถึงตัวบุคคลผู้เกี่ยวข้อง และนายตำรวจยศไม่ได้เยอะมาก ซึ่งจะมอบให้ตำรวจไซเบอร์ต่อไป แต่ยังเปิดเผยไม่ได้ในขณะนี้ เนื่องจากเครือข่ายจะรู้ตัว ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้าก็จะมีการพิจารณากรณีท่าข้ามด้วย เนื่องจากในแง่ความมั่นคงเอื้อต่อการนำสิ่งของผิดกฎหมายข้ามไป" นายรังสิมันต์กล่าว
ถามว่า รัฐบาลควรดำเนินการอะไรต่อจากนี้ นายรังสิมันต์กล่าวว่า ยังไม่จบหน้าที่ของรัฐบาล เนื่องจากจัดการเพียงแค่ฝั่งเดียว แต่อาชญากรข้ามชาติมีอยู่หลายที่ หากจะคิดว่าแค่ตัดไฟ อินเทอร์เน็ต น้ำมัน อาจจะไม่พอ เพราะยังมีอีกหลายกระบวนการที่ต้องทำ สิ่งที่เราอยากจะจัดการคือ ระบุเป็น Pin Point เพื่อระบุพิกัดที่ชัดเจน เนื่องจากเรารู้อยู่แล้วว่าอาคารของแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ที่ไหน รวมถึงต้องมีการตัดสินใจที่จะให้มีการเปิดหรือปิดท่าข้าม ซึ่งก็เป็นอำนาจของกระทรวงมหาดไทย และต้องดูว่ามีแนวทางจัดการอย่างไร เพราะหากไม่มีมาตรการที่ดีพอ ตนมองว่าควรลดจำนวนเท่าที่จำเป็น เนื่องจากมีบางท่าข้ามตั้งอยู่ตรงข้ามกาสิโนหรือคอลเซ็นเตอร์ด้วย
สั่งสกัดแก๊งคอลย้ายจุดไปเขมร
ที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 115 อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับภายหลังมาตรการ “ระเบิดสะพานโจร” กวาดล้างการลักลอบส่งสัญญาณมือถือและอินเทอร์เน็ต ซิม สาย เสา เพื่อตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการตัดกระแสไฟฟ้า
พล.ต.อ.ธัชชัยกล่าวว่า การตัดกระแสไฟครั้งนี้ทำให้คาดว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์จากเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา อาจย้ายฐานปฏิบัติการไปยังชายแดนประเทศกัมพูชา ดังนั้นจึงต้องมีการวางแผนรับมือแบบบูรณาการร่วมกันของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อการป้องกันปราบปรามไม่ให้กลุ่มแก๊งดังกล่าวสามารถตั้งฐานปฏิบัติการเพื่อหลอกลวงประชาชนไม่ว่าชนชาติใด
มีรายงานว่า ในที่ประชุม พล.ต.อ.ธัชชัยสั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่ชายแดน ปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล โดยให้บูรณาการทุกภาคส่วนในการสกัดอาชญากรรมต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนทั่วประเทศ นอกจากนี้ สั่งการให้เตรียมพร้อมสกัดกั้นการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์และเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่จะย้ายฐานจากชายแดนประเทศเมียนมาไปสู่ประเทศกัมพูชา รวมทั้งสกัดกั้น ตรวจสอบชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้า-ออกประเทศกัมพูชา ให้มีการตรวจค้น ตรวจสอบประวัติบุคคล การเดินทาง ให้การรวบรวมข้อมูลโดยฝ่ายความมั่นคง เพื่อประสานกับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและตำรวจท่องเที่ยว ในการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมต่างๆ ด้วย
"จะเร่งเดินหน้าอย่างเต็มกำลังในการปราบปราม จะมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้งภายใน 3 เดือน คาดหวังว่าสถานการณ์ความรุนแรงของอาชญากรรมดังกล่าวจะลดลงอย่างเป็นรูปธรรม" แหล่งข่าวอ้างคำพูด พล.ต.อ.ธัชชัย
ส่วนที่จังหวัดกาญจนบุรี พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ รอง ผบก.สอท.1 รรท.ผบก.สอท.2 เปิดปฏิบัติการยุทธการ "ซิม สาย เสา" ณ ด่านเจดีย์สามองค์ ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ปล่อยแถวกวาดล้างอาชญากรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จุดแรกเข้าตรวจค้นซอยพาณิชย์ 11 หมู่ 9 บ้านพระเจดีย์สามองค์ ห่างชายแดนเพียง 10 เมตร พบสายโทรศัพท์สื่อสารสายสีดำโยงข้ามฝั่งถนน ออกไปทางอำเภอพญาตองซู ประเทศเมียนมา ความยาวประมาณ 20 เมตร เจ้าหน้าที่ชุดจับกลุ่มอยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานแล้วแจ้งดำเนินคดีต่อไป นอกจากนี้ยังกระจายกำลังลงตามเป้าหมายอีก 4 จุด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ส่งกลับ“อุยกูร์”เกมเสี่ยงหวังผลสูง คว้ากระแสลมเปลี่ยนทิศ
เหตุผลสำคัญที่รัฐบาลพยายามอธิบายเรื่องการส่งชาวอุยกูร์กลับคืนให้ทางการจีน คือ “แรงบีบจากจีน”
ทลายบุหรี่ไฟฟ้า เจ้าใหญ่สุดปท. มูลค่า130ล้าน
"นายกฯ อิ๊งค์" โชว์ทลายโกดังบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุด ส่งขาย 100 เครือข่ายทั่วประเทศ ยึดของกลาง 2.6 แสนชิ้น
นายกฯปัด‘พ่อ’ครอบงำ คลังสนองไอเดียซื้อหนี้
"อิ๊งค์" รีบแก้เกี้ยว "พ่อ" หวังดีกับประเทศผุดไอเดียซื้อหนี้ประชาชน ปัดครอบงำ
จีนประณามUSข่มเหงไทย โชว์อุยกูร์อยู่บ้านดีกว่าคุก
"จีน" ออกโรงประณาม "สหรัฐ" ข่มเหงรังแกไทย ทำตัวสองมาตรฐาน
ห้ามป่วย-ตายช่วยอิ๊งค์
"นายกฯ อิ๊งค์" รับตื่นเต้นศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งแรก 24-26 มี.ค.
น้ำเงินคว่ำกระดาน! ถล่ม112‘สิริพรรณ’ไม่เห็นชอบ‘ชาตรี’หึ่งเปิดทางสายมท.
สภาน้ำเงินคว่ำกระดานเลือกตุลาการศาล รธน.ร่วงทั้งคู่! โหวตไม่เห็นชอบ “สิริพรรณ” 136 เสียงต่อ 43 เสียง