คว่ำตั้งแต่อยู่ในมุ้ง แกนนำสภาสูงชี้เปรี้ยงเสียง สว.โหวตเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ถึง 1 ใน 3 แน่ ถีบร่างพรรคประชาชน-เพื่อไทยร่วงตั้งแต่วาระแรก เหตุอำพรางแก้รายมาตราแต่เจตนาเขียนใหม่ทั้งฉบับ ซัดทำตัวเป็นศรีธนญชัย “พริษฐ์” ข้องใจ “อุ๊งอิ๊ง” เงียบฉี่ทั้งที่เป็นนโยบายแถลงต่อสภา
เมื่อวันอาทิตย์ มีการแสดงความคิดเห็นของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ก่อนการประชุมร่วมรัฐสภาครั้งที่ 3 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ ในวันที่ 13-14 ก.พ. เพื่อพิจารณาเรื่องด่วนร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พุทธศักราช.... (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1) ของพรรคประชาชน (ปชน.) และพรรคเพื่อไทย (พท.)
โดย พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สว. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ และหนึ่งในวิปวุฒิสภา กล่าวว่า ได้ศึกษารายละเอียดร่างแก้ไข รธน.ทั้ง 2 ฉบับแล้ว พบว่าเป็นการเสนอแก้ไขมาตรา 256 โดยเขียนเพิ่มหมวดใหม่ขึ้นมา เพื่อนำไปสู่การยกร่าง รธน.ใหม่ทั้งฉบับ ที่ไม่ได้เป็นการทำตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อนหน้านี้ที่เคยวินิจฉัยหากจะแก้ไข รธน. เพื่อให้มีการยกร่าง รธน.ใหม่ทั้งฉบับ ดังนั้นจะลงมติไม่เห็นชอบร่างแก้ไข รธน.ทั้งสองฉบับ
“ไม่เห็นด้วยกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งสองฉบับ ดังนั้นจะโหวตไม่เห็นชอบทั้งสองร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยมาแล้วว่า หากจะแก้ 256 โดยเพิ่มหมวดใหม่เท่ากับเป็นการนำไปสู่การให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งการทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องให้ประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริงได้ลงประชามติก่อนว่าเห็นด้วยกับการให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่” พล.อ.สวัสดิ์กล่าว
เมื่อถามว่า มีแนวโน้ม สว.จะโหวตเห็นชอบร่างแก้ไข รธน.ทั้งสองฉบับเสียงถึง 1ใน 3 หรือไม่ ในการโหวตวาระแรกวันที่ 14 ก.พ.นี้ พล.อ.สวัสดิ์ระบุว่า คงเสียงไม่ถึง เพราะค่อนข้างชัดเจนว่า เป็นการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะส่งผลกระทบกับรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันโดยตรง ฝั่ง สว.เราคงไม่เห็นด้วย
นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว. และโฆษกวิปวุฒิสภา กล่าวว่า ร่างแก้ไข รธน.ทั้งของพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทย เป็นการเสนอแก้ไข รธน.ที่จะนำไปสู่การยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน เพื่อนำไปสู่การยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพราะฉะนั้นไม่เห็นด้วยกับร่างแก้ไขทั้งสองฉบับ 100% เพราะไม่ใช่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่เป็นการทำให้ไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ แม้ต่อให้ร่างของพรรคเพื่อไทยจะเขียนไว้ว่า ให้ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยคงไว้ซึ่งหมวดหนึ่ง หมวดสอง ของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันไว้ แต่เชื่อว่าเมื่อแก้ไขแล้วยกร่างใหม่ยังไง คงเกิดผลกระทบกับรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันทุกหมวดที่ผ่านการทำประชามติ 16 ล้านเสียงที่โหวตเห็นชอบ
เมื่อถามว่า จนถึงตอนนี้แนวโน้ม สว.แนวโน้มการลงมติเห็นชอบจะถึงหนึ่งในสามหรือไม่ นายพิสิษฐ์กล่าวว่า เสียงเห็นชอบจะถึงหนึ่งในสามหรือไม่ ยังไม่มั่นใจ แต่เท่าที่ได้คุยกับ สว.หลายคนในช่วงที่ผ่านมา สว.หลายคนก็บอกว่าไม่เห็นชอบที่จะให้แก้ไข โดยเฉพาะการไปเพิ่มหมวด 256 จนถึงตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่าเสียง สว.จะถึง 67 เสียงหรือหนึ่งในสามหรือไม่ แต่ตอบได้ว่าส่วนใหญ่ที่คุยกับ สว.ด้วยกันมา สว.ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญมายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ตามร่างที่เสนอมา
นายชาญวิศว์ บรรจงการ สว. กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญสามารถแก้ไขได้ แต่หากเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อนำไปสู่การยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องให้ประชาชนลงประชามติก่อน ซึ่งเรื่องนี้ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยวางแนวทางเป็นหลักการไว้แล้ว โดยหลังจากได้ศึกษาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งสองฉบับของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน พบว่าเป็นการเสนอแก้ไขโดยยังไม่ได้มีการทำประชามติถามประชาชนก่อนว่าเห็นด้วยกับการให้มีการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ เมื่อเป็นแบบนี้จึงขัดแย้งกับที่ศาลรัฐธรรมนูญวางบรรทัดฐานไว้
“ถ้าดูกระบวนการทั้งหมดที่พวกเขาทำ ก็เหมือนกับเป็นเกมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะศาลรัฐธรรมนูญบอกว่าต้องถามประชาชนก่อน แต่คุณมาเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแบบนี้ก็เหมือนศรีธนญชัย คือมาใช้วิธีเสนอแก้รายมาตรา มาแก้ 256 เพื่อให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ เป็นเกมของพวกคุณ เพราะการมีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญก็เท่ากับให้มาทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ร่างของพรรคเพื่อไทยกับของพรรคประชาชน หลักๆ ก็คล้ายกันแต่อาจแตกต่างกันเล็กน้อย เช่น พรรคเพื่อไทยบอกว่าให้ร่างใหม่ทั้งฉบับ แต่ห้ามแตะหมวดหนึ่งกับหมวดสอง ดังนั้นส่วนตัวผม จะลงมติโหวตไม่เห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งสองฉบับ เพราะขัดแย้งกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ตัดสินไว้เป็นแนวทางไว้แล้ว เพราะการเป็น สว.เรามีหน้าที่ต้องปกป้องรัฐธรรมนูญของประเทศไทย และต้องทำกฎหมาย” นายชาญวิศว์กล่าว
เมื่อถามว่า แนวโน้มเสียง สว.จะโหวตเห็นชอบร่างแก้ไข รธน.ถึงหนึ่งในสาม จนผ่านวาระแรกหรือไม่ นายชาญวิศว์กล่าวว่า ไม่มั่นใจ เพราะ สว.ทุกคนเป็นอิสระ มีความคิดเห็นส่วนตัวกัน แต่อย่างที่กล่าวไป ที่ไม่เห็นด้วยกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งสองร่างดังกล่าว เพราะเนื้อหาทั้งสองร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เสนอมาไม่ตอบโจทย์ประชาชน ไม่ทำตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และอาจเปิดช่องให้ยกร่างใหม่แล้วไปแตะหมวดหนึ่งและหมวดสองของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันที่เกี่ยวข้องกับสถาบัน ซึ่งรับไม่ได้ เพราะประเทศไทยยังไงต้องมีสถาบันคู่อยู่กับสังคมไทย
“ผมศึกษาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งสองฉบับแล้ว พบว่าไม่ได้เป็นการทำประโยชน์ให้กับประชาชนเลย ไม่ได้ทำให้ประชาชนอยู่ดีมีสุขขึ้นมาเลย มีแต่ตอบสนองนักการเมืองบางพวกบางฝ่ายเท่านั้นเอง เช่นสุดท้ายจะไปยกเลิกมาตรฐานจริยธรรมนักการเมือง ที่ไม่ตอบโจทย์ประชาชน ประชาชนไม่ได้ประโยชน์แบบนี้ไม่เอาด้วย และยังทำผิดรัฐธรรมนูญด้วย ส่วนที่จะให้ สส.พรรครัฐบาลเข้าชื่อกันยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่า ต้องทำประชามติการแก้ไขรัฐธรรมนูญกี่ครั้งนั้นก็เห็นด้วย จะได้มีความชัดเจน” นายชาญวิศว์กล่าว
วันเดียวกัน ที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) ได้จัดเสวนาหัวข้อ “ผ่าน ม.256 เปิดประตูเลือกตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เพื่อร่างรัฐธรรมนูญใหม่” โดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. กล่าวว่า หากลองคำนวณตามไทม์ไลน์ระยะเวลาแล้ว หากที่ประชุมรัฐสภาไม่รับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมเกี่ยวกับการมี ส.ส.ร. ในวาระ 1 วันที่ 13-14 ก.พ.นี้นั้น การที่เราจะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่บังคับใช้ทันต่อการเลือกตั้งปี 2570 ก็จะเป็นไปไม่ได้เลย จึงถือว่าวันดังกล่าวจะเป็นโอกาสสุดท้ายที่เราจะยังคงความเป็นไปได้ที่จะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทันต่อการเลือกตั้งครั้งถัดไป
“ฝ่ายการเมืองที่มีความเกี่ยวกับข้องกับเรื่องนี้อาจยังให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ไม่มากพอ นั่นคือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่หายไปจากบทสนทนาเรื่องรัฐธรรมนูญ และต้องยอมรับว่าเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญไม่ใช่แค่นโยบายของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง แต่เป็นนโยบายของรัฐบาลที่เคยแถลงต่อรัฐสภาไว้ด้วย โดยขณะนี้เหลือเวลาอีกเพียงแค่ 5 วันเท่านั้น ก่อนจะถึงวันที่มีการพิจาณาในวาระที่ 1”
นายพริษฐ์กล่าวอีกว่า อย่าว่านายกฯ จะพูดถึงเลย แต่ปกติเราจะเห็นคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอร่างเข้ากฎหมายต่างๆ เข้ามาประกบด้วยไม่ว่าจะเป็นกฎหมายอะไรก็ตาม แค่ทำไมเมื่อเป็นเรื่องรัฐธรรมนูญเราจึงเห็นเพียงแค่ร่างของพรรค พท. หากจะบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของสภา ไม่ใช่เรื่องฝ่ายบริหารนั้น เราจะมองเช่นนั้นไม่ได้ หัวหน้าฝ่ายบริหารหรือนายกฯ ย่อมถูกคาดหวังให้รับผิดชอบงานของรัฐบาลในสภาด้วย นั่นคือการแก้กฎหมายในสภา
นายพริษฐ์ยังยืนยันว่า การทำประชามติ 2 ครั้งไม่ขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้นสามารถทำได้ แม้ สว.บางคนจะมองว่าทำได้แค่แก้ไขรายมาตรา ซึ่งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก็บอกว่าสามารถทำได้ หากเดินตามร่างแก้ไขของพรรค ปชน. และพรรค พท.แม้ว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจะผ่านทั้ง 3 วาระแล้ว แต่ ส.ส.ร.ก็ไม่ได้เกิดขึ้นทันที ต้องถามความเห็นของประชาชนก่อน
“การทำประชามติ 2 ครั้งพอและไม่ถึงความจำเป็นว่าต้องยื่นศาลรัฐธรรมนูญอีกครั้ง สำหรับใครที่คิดว่าจะยื่นนั้นก็กังวลว่ายื่นแล้วจะได้อะไร เพราะมุมหนึ่งที่หากยื่นไปแล้วก็อาจได้คำตอบเหมือนตอนที่พรรค พท.เคยยื่นไปเมื่อปี 2567 ที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับไว้วินิจฉัย หรือหากรับเรื่องไว้ก็อาจได้คำตอบเหมือนปี 2564” นายพริษฐ์ระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สังเวยพระราม2อีก5ศพ
ประมาทซ้ำซาก สะพานกำลังก่อสร้างถนนพระราม 2 ถล่ม มีผู้เสียชีวิต 5 คน บาดเจ็บ 27 ราย อัปยศ! "สุริยะ" อ้างมาตรการสมุดพกผู้รับเหมาจะออกมาเดือนเมษา.
‘วันนอร์’ ชี้ช่อง ใช้ ‘สทร.’ แทน
"วันนอร์" ลั่น! แก้ญัตติซักฟอกกับการอภิปรายในสภาเป็นคนละเรื่องกัน ถ้าพาดพิง "ทักษิณ" ก็ต้องสั่งหยุด แนะใช้ สทร.แทนก็ได้ เพราะไม่ได้เอ่ยชื่อบุคคล "หัวหน้าเท้ง"
อเมริการะงับวีซ่า กาหัวเจ้าหน้าที่ไทยส่งอุยกูร์กลับจีนพัวพันฆ่าล้างเผ่าพันธุ์!
อเมริกายุคทรัมป์เป็นห่วงชาวมุสลิม รัฐมนตรีต่างประเทศแถลง ระงับวีซ่าเจ้าหน้าที่ไทยที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลักดันชาวอุยกูร์กลับจีน
ใต้เดือดต่อเนื่อง ระเบิด ‘ปัตตานี’ บาดเจ็บระนาว
โจรใต้วางระเบิดต่อเนื่อง บึ้มสนั่นใจกลางเมืองปัตตานี เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินเจ็บ 8 นาย ชาวบ้านถูกลูกหลงอีก 1 คน คาดเป็นกลุ่มเดิม
อย่าทำตัวน่ารำคาญ ‘ทักษิณ’อัดศึกอภิปราย! ไล่ปชน.คุยผู้ก่อตั้งพรรค
"ผู้นำฝ่ายค้านฯ" ยันซักฟอก 30 ชม.เหมาะสม น้อยกว่านี้เนื้อหาอาจตกหล่น บอก "นายกฯ อิ๊งค์" ก็อยากตอบ ขอฝั่งรัฐบาลอย่ากั๊กเวลา อุบตัดชื่อ "ทักษิณ" จากญัตติอภิปรายแล้วใช้คำอะไรแทน อ้างเก็บเป็นไพ่ใบสุดท้ายต่อรองเวลาอภิปราย
สั่งรัฐบาลเรียกทูตอียูแจงปมอุยกูร์
“ทวี” เชื่อ กต.มีแผนรับมือหลังอียูประณามไทยปมส่งกลับอุยกูร์ “ปชน.” ได้ทีขย่ม รีบบอกให้รัฐบาลขยับเรื่องมาตรา 112 “นันทนา” จี้อธิบายต่อสังคมโลกให้ดี