"นายกฯ อิ๊งค์" เปิดงาน FTI EXPO 2025 ปลุกภาคอุตสาหกรรมผนึกภาครัฐ พลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย ชี้เอสเอ็มอีขับเคลื่อนหลักจีดีพีประเทศ เร่งรื้อกฎหมายล้าหลังซ้ำซ้อนเอื้อนักลงทุน “ขุนคลัง” เดินเครื่องศึกษาตั้ง Thai ESG กองที่ 2 รองรับ LTF 1.8 แสนล้านบาท ไม่เกิน ก.ย.ชัดเจนแน่ จ่อขายโทเคนบอนด์ผ่านระบบแซนด์บ็อกซ์ 5 พันล้าน หนุนรายย่อยซื้อง่ายขายคล่อง เตรียมแก้ กม.จูงใจนักลงทุนหอบเงินกลับประเทศ
ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ เวลา 10.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน FTI EXPO 2025 และกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “จุดประกายอุตสาหกรรมไทย สร้างเศรษฐกิจใหม่นำประเทศสู่ความยั่งยืน” โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม, นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ, นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม, นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์, นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.การคลัง, นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองประธานคณะที่ปรึกษาด้านนโยบายของนายกรัฐมนตรีและประธานกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เข้าร่วม
เมื่อมาถึงนายกฯ ได้เยี่ยมชมบูธต่างๆ ภายในงาน ก่อนกล่าวเปิดงานว่า ถือเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เพราะอุตสาหกรรมเป็น 1 ใน 3 ของการผลักดันจีดีพีของประเทศ เอกชนคือผู้ที่ลงทุนลงแรงในการหาข้อมูลและผลิตพัฒนาคนในหลายด้าน เพื่อให้อุตสาหกรรมนี้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น แน่นอนว่ารัฐบาลเองพร้อมที่จะสนับสนุนอุตสาหกรรมของประเทศไทยให้ไปต่อได้ไกล ให้ทั่วโลกได้รู้ว่าหลังโควิด-19 เราไม่ได้หายไปไหน ไทยยังแข็งแรงเหมือนเดิม และพร้อมที่จะเป็นแหล่งของการผลิตสินค้าอุตสาหกรรม ผลิตคนพัฒนาต่อยอดได้อีกเยอะ เมื่อเอกชนกับรัฐบาลทำงานร่วมกัน เชื่อมั่นว่าเราจะสามารถต่อยอดอุตสาหกรรมไปได้อย่างเข้มแข็งจากนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงต่อรัฐสภา ซึ่งสินค้าเมดอินไทยแลนด์ได้มาตรฐานทั่วโลก สิ่งนี้จะสามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศไทยได้ เพราะเอสเอ็มอีมีมากถึง 75% ของประเทศ
น.ส.แพทองธารกล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายหลักในการพัฒนาเอสเอ็มอีให้ได้เยอะที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกฎหมายที่อาจจะมีมานานแล้ว หรือกฎหมายที่ค่อนข้างซ้ำซ้อนกันมากเกินไป เป็นสิ่งที่ระดับกระทรวงสามารถช่วยกันแก้ไข ปรับแก้ได้เลย หรือยกเลิกใช้ในบางอย่าง เพื่อเปิดช่องทางให้เอสเอ็มอีประเทศไทยได้มีโอกาสเพิ่มการลงทุน เพิ่มศักยภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้เราจะมีการเตรียมตั้งทีมที่จะดูในเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนและเปิดโอกาสให้กับคนไทย รัฐบาลสนับสนุนเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัป เพื่อให้ง่ายในการเข้ามาลงทุน รวมทั้งจะพัฒนาเอไอให้เติบโตไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดทำกฎหมายที่เกี่ยวข้อง มั่นใจว่าจะแล้วเสร็จในไม่ช้า นอกจากนี้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และภูฏาน เป็นประเทศที่เรามุ่งเน้นจะได้เซ็นลงนามความตกลงการค้าเสรี เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับเอสเอ็มอีของประเทศไทย
“วันนี้เรามาถึงยุคที่เวลาหมุนไปเรื่อยๆ เดินไปเรื่อยๆ เราเองคงไม่สามารถรอได้ ประเทศไทยมีคนที่มีศักยภาพอีกเยอะ เราพร้อมที่จะสนับสนุนคนไทยเพื่อเพิ่มสกิล ดิฉันมั่นใจเมื่อรัฐบาลและเอกชนทำงานร่วมกัน เราจะสามารถพัฒนาทั้งคน พัฒนาอุตสาหกรรม ให้เติบโตไปพร้อมกันอย่างเข้มแข็ง และมากไปกว่านั้น ดิฉันเชื่อว่าถ้าอุตสาหกรรมเข้มแข็งแบบนี้แล้ว ในอนาคตการเตรียมพร้อมสำหรับเด็กรุ่นใหม่ๆ เจเนอเรชันใหม่ที่จะขึ้นมาให้มีความรู้ความสามารถในเรื่องของอุตสาหกรรมเป็นสิ่งที่ทำได้อย่างแน่นอน เมื่อเราทำงานร่วมกันอุตสาหกรรมนี้จะถูกพัฒนาอย่างยั่งยืนและเศรษฐกิจถูกกระตุ้น ประเทศไทยจะมีกินมีใช้" นายกฯ ระบุ
จากนั้น เวลา 15.40 น. ที่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เขตบางรัก นายกฯ เยี่ยมชมเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2568 พร้อมด้วย น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย, นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร กรรมการทำหน้าที่ประธานกรรมการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์, นายชาคริต พิชญางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์
ทั้งนี้ น.ส.แพทองธารได้เยี่ยมชมบูธเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2568 พร้อมเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสนับสนุนสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ไทย ก่อนนั่งรถตุ๊กๆ ไฟฟ้า ทะเบียน สข 2198 กรุงเทพมหานคร ไปยังบ้านเลขที่ 1 เพื่อเยี่ยมชมนิทรรศการงานปักผ้า STITCH Rhythm of the Threads By Sirivannavari Atelier & Academy ที่ผสมผสานงานเทคนิคฝรั่งเศสและจินตนาการแบบไทย โดยเล่าผ่านชุด 13 ชุด 1 ฉลองพระองค์ และ 4 ช่างฝีมือ ก่อนเดินทางกลับ
ด้านนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณาจัดตั้งกองทุน Thai ESG กองที่ 2 เพื่อรองรับหน่วยลงทุนของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่กำลังจะครบกำหนด วงเงินราว 180,000 ล้านบาท โดยขณะนี้หน่วยงานกำลังเร่งพิจารณาขั้นตอนและกระบวนการต่างๆ ซึ่งยืนยันว่าจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด คาดว่าจะมีความชัดเจนไม่เกินเดือน ก.ย.
ทั้งนี้ เบื้องต้นกองทุน Thai ESG กองใหม่นี้ อาจจะมีอายุ 5 ปีบวกลบ ส่วนกระบวนการและวิธีการโอนหน่วยลงทุนว่าจะดำเนินการอย่างไร ยังต้องขอพิจารณารายละเอียดในข้อกฎหมายก่อน หลักคิดคือ ปกตินักลงทุนจะมอง 2 เรื่อง คือผลประโยชน์ด้านภาษีและผลตอบแทนจากการลงทุนเมื่อขายหน่วยลงทุน แต่วันนี้ราคาหุ้นในตลาดปรับตัวลดลงพอสมควร สะท้อนว่านักลงทุนที่ถือ LTF จะยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอยู่ แต่อาจจะขาดทุนจากการขายหน่วยลงทุน ดังนั้นกระทรวงการคลังจึงจะเปิดกองทุน Thai ESG ขึ้นมาอีกกองทุนหนึ่ง แปลว่า นักลงทุนจะยังได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอยู่ และยังสามารถชะลอการขายหน่วยลงทุนได้ เพื่อให้มีเวลาในการเลือกว่าจะลงทุนอะไร ซึ่งการลงทุนก็จะอิงบริษัทที่มีการลงทุนใน ESG ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทขนาดใหญ่
นายพิชัยกล่าวว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณาออกโทเคนบอนด์ (Tokenization Bond) ซึ่งจะเป็นการซื้อขายเปลี่ยนมือผ่านแพลตฟอร์ม สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยหลักคิดของการออกโทเคนบอนด์เป็นอีกแนวทางหนึ่งในการกู้เงินตามปกติของรัฐบาล เพื่อใช้ชดเชยการขาดดุลงบประมาณและรีไฟแนนซ์หนี้เก่า ซึ่งที่ผ่านมาการออกพันธบัตรของรัฐบาลจะขายให้แก่นักลงทุนสถาบันรายใหญ่และบุคคลทั่วไปบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่มีฐานะดี ซึ่งมักจะซื้อแล้วนำไปเก็บไว้ ไม่ได้ทำอะไร แต่สำหรับโทเคบอนด์จะใช้เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ซึ่งจะเป็นการขายผ่านแพลตฟอร์มให้กับนักลงทุนที่ไม่จำเป็นต้องมีเงินมาก ไม่ต้องฐานะดี สามารถมาซื้อเพื่อลงทุนได้ หรือซื้อขายเปลี่ยนมือผ่านแพลตฟอร์มนั้นเลย
โดยเบื้องต้นคาดว่าจะทดลองระบบจำหน่ายโทเคนบอนด์เป็นแซนด์บ็อกซ์ วงเงินราว 5,000 ล้านบาท หลังจากนั้นจะมีการประเมินทิศทางตลาดและการตอบรับว่าเป็นอย่างไรต่อไป ส่วนรายละเอียดนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา และจะต้องมีการสรุปวิธีการ ขั้นตอนการดำเนินการทั้งหมด และรายงานไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พิจารณา นอกจากนี้ กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณาทบทวนแก้ไขกฎหมายเพื่อจูงใจให้นักลงทุนไทยที่นำเงินไปลงทุนประกอบกิจการในต่างประเทศ สามารถนำเงินรายได้หรือกำไรกลับเข้ามาในประเทศอย่างสะดวกมากขึ้น แต่ยืนยันว่าจะไม่ใช่การยกเว้นภาษีจากการนำเงินกลับเข้ามาในประเทศแน่นอน เป็นแค่การทบทวนว่าจะทำอย่างไรให้นำเงินกลับเข้ามาง่ายขึ้นเท่านั้น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ลือ 'เหลิม' ร่วมซักฟอก! รังสิมันต์ ลั่นโรยเกลือ 'แพทองธาร'
'รังสิมันต์' ย้ำศึกซักฟอก หลักฐานแน่ พร้อมเปิด 'ยุทธการโรยเกลือ' เอาผิดนายกฯแพทองธารหลังจบอภิปราย เย้ยฝ่ายรัฐบาลส่งสัญญาณเครียดจัดผ่านดินเนอร์ของพรรคร่วมรัฐบาล ขณะที่กระแสข่าว 'เหลิม' เข้าร่วมอภิปรายด้วยยังไม่คอนเฟิร์ม
องครักษ์ 20 คนไม่ช่วย! 'วิโรจน์' ซัด 'แพทองธาร' ไร้ภาวะผู้นำ-บริวารในกงสีแค่ทำคะแนน
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.ประชาชน ซัดแรง องครักษ์พิทักษ์แพทองธาร 20 คน เป็นแค่บริวารในกงสี ไม่มีผลต่อศึกซักฟอก ลั่นฝ่ายค้านถามลูก ไม่ได้ถามพ่อ! เตือนนายกฯ ต้องชี้แจงเอง ไม่ใช่พึ่งบริวาร
ปปช.รับใกล้จบ 44สส.แก้ม.112 ฝ่าฝืนจริยธรรม
เลขาฯ ป.ป.ช.เผยคดี 44 สส.ก้าวไกลแก้มาตรา 112 ส่วนใหญ่รับทราบข้อกล่าวหาทางไปรษณีย์
ชี้10วัน‘รอมฎอน’ระทึก ลอบขนระเบิดเข้าพื้นที่
10 วันสุดท้ายรอมฎอนระทึก การข่าวยะลาพบขนระเบิด
ต่ออายุตัดไฟ-เน็ตปราบแก๊งคอลฯ
"นายกฯ อิ๊งค์" เข้า ทบ.ครั้งแรก ถกด่วนปัญหายาเสพติด-คอลเซ็นเตอร์ ยันนายกฯ กัมพูชาพร้อมร่วมมือไทยปราบคอลเซ็นเตอร์ 100%
ชงทูตไทยปักกิ่ง เยี่ยมชาวอุยกูร์ เพิ่มความมั่นใจ
“ภูมิธรรม” พร้อมคณะกลับถึงไทยแล้ว เผยต่อไปให้ทูตไทยประจำกรุงปักกิ่งเยี่ยมกลุ่มคนที่เหลือให้เกิดความมั่นใจ