บีบลบชื่อ‘ทักษิณ’! ‘วันนอร์’ขู่ไม่บรรจุญัตติซักฟอก/‘จตุพร’นัดไล่รัฐบาล11มี.ค.

เดือด! “วันนอร์” ลั่น! หากฝ่ายค้านไม่แก้ญัตติซักฟอกตัดชื่อ “ทักษิณ” ออก ก็ไม่บรรจุวาระ ยันต้องทำตามข้อบังคับ หากบรรจุไปประธานโดนฟ้องคนแรก “พิเชษฐ์” อ้างเอาชื่อคนนอกมาอยู่ในญัตติจะคุมยาก วุ่นวายไม่จบ แนะเอาเรื่องคอร์รัปชัน-บริหารมาอภิปรายดีกว่าเรื่องครอบครัว ขณะที่ "ชูศักดิ์" ชี้ตัดไฟแต่ต้นลม หวั่นประท้วงกัน "จตุพร" นัดชุมนุมหน้าทำเนียบฯ ไล่รัฐบาล 11 มี.ค.

เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2568 นายวันมูหะมัดนอร์  มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านยืนยันไม่แก้ไขญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ  น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่าบอกให้ฝ่ายค้านไปแก้ไขญัตติมา โดยให้ตัดชื่อนายทักษิณ  ชินวัตร อดีตนายกฯ เพราะเป็นบุคคลภายนอก  เพราะหากบรรจุญัตติไปแล้วจะมีปัญหาเรื่องฟ้องร้องกัน ฉะนั้นจึงให้ไปแก้ไข แต่ฝ่ายค้านกำลังจะอุทธรณ์ว่าเขาไม่แก้ ดังนั้นถ้าเขาไม่แก้ ประธานซึ่งมีอำนาจหน้าที่บรรจุระเบียบวาระ เมื่อเขาไม่แก้เราก็ไม่บรรจุระเบียบวาระ

 “ดังนั้น ถ้าเขาอยากจะอภิปรายเขาก็ต้องแก้ญัตติ ถ้าเขาไม่แก้เราก็ไม่บรรจุ ซึ่งผมก็ต้องดำเนินการไปตามข้อบังคับ” นายวันมูหะมัดนอร์กล่าว

เมื่อถามย้ำว่า ถ้าฝ่ายค้านไม่แก้ญัตติก็ไม่สามารถบรรจุในระเบียบวาระได้ใช่หรือไม่ ประธานสภาฯ กล่าวว่า ถ้าเราบรรจุวาระไปก็จะผิดในเรื่องของการดูแลความเรียบร้อยหากเกิดการฟ้องร้องขึ้นมา และตามข้อบังคับระบุชัดเจนว่าห้ามกล่าวถึงบุคคลภายนอกโดยไม่จำเป็น แค่กล่าวเขาก็ห้ามแล้ว แต่นี่เขียนลงไปในญัตติ ก็ยิ่งหนักกว่าการกล่าว เพราะการกล่าวถึงเราบอกให้ถอนได้ แต่เขียนในญัตติถ้าอนุมัติไปเขาก็ถอนไม่ได้แล้ว

 “ผมจึงเรียกผู้นำฝ่ายค้านฯ เข้ามาคุยแล้ว และให้เอาญัตติกลับไปแก้ โดยผู้นำฝ่ายค้านฯ บอกขอกลับไปปรึกษาก่อน เมื่อเขาออกไปแล้วผมเลยให้สภาแจ้งไปว่าขอให้มาแก้ในเรื่องที่มีชื่อบุคคลภายนอก เพราะผิดข้อบังคับ” ประธานสภาฯ ย้ำ

ต่อข้อถามว่า หากฝ่ายค้านไม่ยอมแก้ญัตติ มีโอกาสที่จะคุยกับฝ่ายค้านอีกหรือไม่เพื่อตกลงกัน  นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า ยังมีเวลา โดยต้องรอดูว่าฝ่ายค้านยื่นอุทธรณ์ในประเด็นอะไรบ้าง ฟังคำสัมภาษณ์อย่างเดียวไม่ได้ ต้องเห็นหนังสือที่อุทธรณ์มาก่อนว่าเขาอุทธรณ์ประเด็นไหน และมีประเด็นไหนที่เราจะต้องคุยกัน ซึ่งต้องเชิญเลขาธิการสภาฯ และฝ่ายกฎหมายมาคุย เข้าใจว่าน่าจะเป็นวันที่ 10 มี.ค. หรือ 11 มี.ค. หรือสัปดาห์หน้า ฝ่ายค้านคงจะยื่นคำอุทธรณ์มา ซึ่งฝ่ายค้านจะยื่นเป็นหนังสือหรือมาแจ้งก็ได้ แล้วแต่เขา เราก็พร้อมที่จะดำเนินการเพื่อให้การประชุมเกิดความเรียบร้อยและไม่ผิดข้อบังคับ

ส่วนเรื่องวันอภิปรายฯ ที่ฝ่ายค้านขอมา 5 วันนั้น ประธานสภาฯ กล่าวว่า เรื่องเวลาก็ต้องคุยกันในวิป 3 ฝ่าย ทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล และผู้แทนของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งตนได้มอบหมายให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง เชิญหารือเมื่อมีการบรรจุญัตติ และตนก็ต้องส่งญัตติที่ได้รับการแก้ไขแล้วไปให้ ครม.รับทราบ

เมื่อถามว่า มองความเหมาะสมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ คนเดียวควรใช้เวลากี่วัน นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า ไม่สามารถจะบอกได้ เพราะต้องมีการคุยกันว่าเวลาเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม เพราะตั้งแต่ 1-5 วัน ซึ่งก็แล้วแต่ความเหมาะสมที่สามารถคุยกันได้

'วันนอร์' กลัวถูกฟ้องคนแรก

ประธานสภาฯ​ กล่าวย้ำว่า ต้องดำเนินการทุกอย่างเพื่อให้การประชุมดำเนินไปได้ และให้เกิดความเรียบร้อยไม่ผิดข้อบังคับที่จะเกิดการฟ้องร้อง ถ้าประธานเป็นคนสั่งบรรจุและมีชื่อบุคคลภายนอกนั้นอยู่ ถ้าเขาพิจารณาฟ้องร้อง ก็ต้องฟ้องประธานเป็นคนแรก เพราะเป็นผู้บรรจุ และฟ้องผู้เสนอญัตติเป็นจำเลยที่ 2 ที่ 3 ต่อไป ซึ่งไม่ควรจะมี

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาคนที่หนึ่ง ให้สัมภาษณ์ว่า ถ้าไม่แก้จะมาหนักที่การควบคุมการประชุม เพราะมีชื่อบุคคลภายนอกอยู่ หากไม่ระบุชื่อในญัตติใครอยากพูดอะไรก็พูดได้ แต่ถ้าเกิดความเสียหายก็รับผิดชอบเอง แต่พอชื่ออยู่ในญัตติการควบคุมการประชุมจะยากและวุ่นวายไม่จบ และหากเกิดความเสียหายกับบุคคลภายนอกขึ้นมา หากมีการฟ้องร้องก็ต้องถูกฟ้องทั้งหมด ตั้งแต่คนบรรจุวาระ คนอนุญาต และเอาไปเอามาจะไม่เป็นงานบ้านเมือง จะกลายเป็นเรื่องตัวบุคคลมากกว่าหรือไม่

"หากเอาเรื่องคอร์รัปชันการบริหารมาอภิปรายดีกว่าหรือไม่ ดีกว่าเอาเรื่องครอบครัวมาพูด และสิ่งที่เราต้องการคือไม่อยากให้เกิดความไม่เรียบร้อย อย่างไรก็ตาม ที่ฝ่ายค้านบอกจะไม่แก้ไขญัตตินั้น คงต้องมีการหารือกัน" รองประธานสภาฯ  กล่าว

ด้านนายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกฯ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า  ตามข้อบังคับเขียนห้ามไว้ในเรื่องการอภิปราย ห้ามอภิปรายถึงบุคคลภายนอกโดยไม่จำเป็น แต่ที่สำคัญที่เขียนไว้คือ ในรัฐธรรมนูญที่บอกว่าการกล่าวถึงบุคคลภายนอกที่ไม่ใช่สมาชิกสภาผู้แทนหรือรัฐมนตรี หากขณะนั้นมีการถ่ายทอดเสียงไปยังภายนอก หากเป็นความผิดทั้งทางอาญาและหรือทางแพ่ง ผู้กล่าวไม่ได้รับเอกสิทธิ์ ต้องรับผิดชอบ อาจถูกฟ้องร้องได้ นอกจากนั้นบุคคลภายนอกที่ได้รับความเสียหายอาจร้องขอให้ประธานสภาฯ ลงคำชี้แจงให้ได้อีกด้วย เข้าใจว่าประธานสภาฯ อาจพิจารณาว่าญัตติมีข้อบกพร่อง และจะมีปัญหาตรงนี้ เพื่อป้องกันมิให้เกิดปัญหาตามมาในการอภิปราย ตัดไฟเสียแต่ต้นลม ตัดปัญหาการประท้วงกันวุ่นวาย ทำให้การอภิปรายเดินไปได้ยากลำบาก

ฝ่ายค้านอย่ารั้นเลย

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ  พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่ได้สลับซับซ้อนอะไร  ประชาชนอาจเบื่อหน่ายได้ว่าขนาดเขียนเนื้อหาญัตติยังเขียนไม่ถูก อย่างอื่นจะฝากความหวังอะไรได้ หรือถ้าไม่มีชื่อนายทักษิณในญัตติ ฝ่ายค้านจะไม่มีเรื่องพูด ไม่มีแรงบันดาลใจในการอภิปรายหรืออย่างไร อภิปรายไม่ไว้วางใจรอบนี้ฝ่ายค้านน่าจะมีขวัญกำลังใจดี เพราะมีเจ้าของวลี ใจบันดาลแรง มาอยู่ด้วยกัน แม้ตอนหาเสียงเลือกตั้งจะประกาศชัดว่ามีเราไม่มีลุง แต่วันนี้ มีเราต้องมีลุงเสียแล้ว ก็ไม่ถือเป็นปัญหา

"ฝ่ายค้านอย่ารั้นเลย ถ้าไม่ได้หวังป่วนหวังสร้างคอนเทนต์ให้วุ่นวาย แล้วก็จินตนาการไปเองว่ารัฐบาลจะยุบสภา ทั้งที่เรื่องจริงคือรัฐบาลจะอยู่ครบวาระ 4 ปีแน่นอน เพราะมีอีกหลายปัญหาให้รัฐบาลแก้ เพื่อนำพาประเทศชาติและเป็นประโยชน์ต่อประชาชน คือการที่ฝ่ายค้านเดินหน้าอภิปรายตรวจสอบรัฐบาลด้วยข้อมูลที่เป็นความจริง ลดการประดิษฐ์วาทกรรม เสียดสี ด้อยค่า ใช้เวลาทุกนาทีให้เกิดประโยชน์ ดีกว่าโวยวายกวนน้ำให้ขุ่น ไม่เกิดประโยชน์" นายอนุสรณ์กล่าว

ขณะที่ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน แสดงความไม่เห็นด้วยกับคำขอของประธานสภาฯ โดยระบุว่า ในเชิงกฎหมายไม่มีเหตุผลที่จะต้องตัดชื่อ “บุคคลภายนอก” ออกจากเนื้อหาของญัตติ เนื่องจากรัฐธรรมนูญและข้อบังคับไม่ได้ให้อำนาจประธานสภาฯ ตัดสินว่าเนื้อหาของญัตติควรจะเป็นอย่างไร  อีกทั้งในข้อบังคับข้อ 176 ก็ไม่ได้ระบุถึงการตัดสินใจเรื่องเนื้อหาของญัตติ หากไม่พบข้อบกพร่องในรูปแบบการยื่นญัตติ

นอกจากนี้ นายพริษฐ์ยังกล่าวว่า แม้จะอ้างข้อบังคับข้อ 176 ในการแจ้งให้แก้ไขข้อความในญัตติ แต่กรณีนี้ไม่เป็นไปตามกรอบเวลาที่ข้อบังคับกำหนดไว้ เพราะประธานสภาฯ ได้แจ้งให้พรรคฝ่ายค้านแก้ไขญัตติเมื่อวันที่ 7 มีนาคม ซึ่งเกินกรอบเวลา 7 วันตามที่ข้อบังคับกำหนดไว้ ประธานสภาผู้แทนราษฎรไม่มีอำนาจตัดสินว่าเนื้อหาของญัตติควรมีการปรับแก้ตามความเหมาะสมหรือไม่      

 “ทักษิณ ชินวัตร เองก็เคยพูดหลายครั้งว่าเขามี   ‘สทร.’ หรือ ‘เสือกทุกเรื่อง’ ในการบริหารรัฐบาลนี้  เพราะฉะนั้นการระบุชื่อเขาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจถือเป็นการอภิปรายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบริหารประเทศ ไม่ใช่การโจมตีส่วนบุคคล” นายพริษฐ์กล่าวย้ำ

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ได้ออกมาชวนประชาชนร่วมชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาล บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ในวันที่ 11 มี.ค.นี้ เพื่อขัดขวางการตั้งบ่อนกาสิโนและการพนันออนไลน์ ที่กำลังจะถูกผลักดันเข้ารัฐบาลในเร็วๆ นี้ โดยเตือนว่า นี่คือจุดเริ่มต้นของการต่อต้านที่สำคัญ เพราะหากปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้น  ประเทศไทยจะต้องเผชิญกับปัญหาใหญ่ที่ไม่สามารถย้อนกลับได้

นายจตุพรกล่าวว่า “ถึงเวลาเร่งด่วนที่ประชาชนคนรักชาติบ้านเมืองต้องลุกขึ้นมารวมตัวกันเพื่อหยุดยั้งบ่อนกาสิโนและการพนันออนไลน์ ที่จะมาทำลายบ้านเมืองให้เต็มไปด้วยอบายมุข และทำลายความมั่นคงของชาติ” พร้อมทั้งขอให้พรรคร่วมรัฐบาลมีสติในการตัดสินใจ และหยุดยั้งความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการผลักดันร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคเพื่อไทย ที่มีเป้าหมายชัดเจนในการผลักดันเรื่องนี้ แม้ไม่ได้ใช้หาเสียงเลือกตั้ง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โต้บ่อนกาสิโนคือรายได้หลัก

"นักวิชาการ" สวนกลับ "พ่อนายกฯ" ชี้หัวใจเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์คือ "บ่อนกาสิโน" ทุกพื้นที่มีรายได้หลักจากกาสิโน 65-90%

พรรคส้มตบปากแม้ว สส.เหนือเดือด!พูดดูถูก‘เท้ง’สึ่งตึงไล่ทำหน้าที่รัฐบาลให้ดีก่อน

"สส.เหนือ ปชน." เดือด! รวมตัวดีดปาก "แม้ว" หลังปราศรัยโจมตี “หัวหน้าเท้ง” สึ่งตึง "พุธิตา" ซัดเป็นถึงผู้หลักผู้ใหญ่ไม่สมควรพูดหยาบคายดูถูกกัน