ย้อนเกล็ด‘วันนอร์’ เคยเสนอญัตติมีชื่อเอกชน พท.ลอยตัวให้ตกลงกันเอง

“วันนอร์” ยกยุค “ชวน หลีกภัย” ก็เคยแก้ญัตติมาแล้วแม้ไม่เห็นด้วย ย้ำรักษากติกาเป็นกลาง "เท้ง" ส่งหนังสือยืนยันไม่ตัดชื่อ “ทักษิณ” ออก กางกฎหมายชัดประธานสภาไร้อำนาจ ซ้ำเลยกำหนดเวลา เตือนความจำ “วันนอร์” เคยเสนอญัตติมีชื่อ บ.เอกชนหรา “เพื่อไทย” พาเหรดลอยตัว ประสานเสียงบอก ปธ.สภาไปตกลงกับฝ่ายค้านให้ได้ “จตุพร” ชี้หากปิดปากท้องถนนเดือดแน่ ชี้จับตาข้อมูลเด็ด “ลุงป้อม”

เมื่อวันจันทร์ที่ 10 มีนาคม 2568 ยังคงมีความต่อเนื่องในกรณีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ทำหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้นำฝ่ายค้านในสภา ให้ตัดชื่อบุคคลภายนอกออกจากญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยนายวันมูหะมัดนอร์ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับรัฐบาล ไม่ได้มีอคติกับใครหรือรับงานใครมา ทำไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาก็รู้อยู่แล้วว่า บางครั้งฝ่ายค้านก็หาว่าตนเข้ากับฝ่ายรัฐบาล และบ่อยครั้งที่ฝ่ายรัฐบาลบอกว่าตนเข้ากับฝ่ายค้าน ยืนยันว่าแค่รักษากติกาข้อบังคับการอภิปรายถึงบุคคลภายนอกที่ไม่สามารถเข้ามาชี้แจงในสภาได้ เขาห้ามไว้

นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวต่อว่า การเขียนในญัตติเลยนั้นถือว่าหนักกว่าการพูด เป็น สส.มา 40 กว่าปีไม่เคยมีญัตติที่เขียนชื่อคนนอกไว้ ไม่เช่นนั้นสภาจะไม่เป็นสภา หากเอ่ยชื่อใครก็ได้ จะอภิปรายนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีก็ว่าไป ทั้งนี้หากชื่อคนนอกไม่อยู่ในญัตติจะอภิปรายอะไรก็อภิปรายไป ถ้าเขาเสียหายก็ฟ้องคนพูด แต่ถ้าบรรจุในญัตติ หากมีการฟ้อง เขาจะฟ้องประธานสภาที่ให้บรรจุระเบียบวาระ ซึ่งประเด็นเรื่องอำนาจการบรรจุระเบียบวาระ ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยในประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้แล้วว่า ประธานรัฐสภามีหน้าที่บรรจุระเบียบวาระและควบคุมการบริหารงานสภา

 “ในสมัยปี 2545 ที่นายอุทัย พิมพ์ใจชน เป็นประธานสภา ก็เคยให้นายชวน หลีกภัย ผู้นำฝ่ายค้านในสภาในขณะนั้นไปแก้ญัตติ ซึ่งนายชวนก็รับไปแก้ไขทั้งที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งตอนนั้นไม่ใช่เรื่องการบรรจุชื่อคนนอกมาไว้ในญัตติ โดยคำชี้แจงบอกว่าไม่เห็นด้วยกับการแก้ แต่เพื่อความร่วมมือที่ดีก็ยอมแก้ เราอยากเห็นการอภิปรายไม่ใช่การประท้วง ผมก็ดำเนินการตามนั้น เพราะประธานมีหน้าที่ดูแลการประชุม อันไหนที่จะเกิดปัญหา ประธานต้องไม่ให้เกิดขึ้น” นายวันมูหะมัดนอร์กล่าว

ขณะเดียวกัน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภา ทำหนังสือด่วนที่สุดถึงนายวันมูหะมัดนอร์ เรื่องข้อโต้แย้งหนังสือให้แก้ไขข้อบกพร่องญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาล กรณีใส่ชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ลงในญัตติ โดยยืนยันว่าญัตติไม่มีข้อบกพร่องตามที่ประธานสภาอ้างแต่ประการใด ดังนี้

ข้อ 1 ประธานสภาจะพิจารณาวินิจฉัยว่าเนื้อหาของญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลหรือทั้งคณะตามมาตรา 151 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ว่าสมควรมีเนื้อหาอย่างใดมิได้ เนื่องจากบทบัญญัติมิได้ให้อำนาจแก่ประธานสภาในการใช้ดุลพินิจวินิจฉัยว่าเนื้อหาของญัตติสมควรเป็นประการใด หากแต่บทบัญญัติดังกล่าวกำหนดอำนาจผูกพันในการใช้อำนาจของประธานสภาให้ต้องเปิดให้มีการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลหรือทั้งคณะเท่านั้น อีกทั้งข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562 ข้อ 176 มิได้ให้อำนาจแก่ประธานสภาในการใช้ดุลพินิจว่าเนื้อหาของญัตติควรจะเป็นอย่างไร หรือมีความเหมาะสมหรือไม่ ข้อ 176 กำหนดให้ประธานสภาตรวจสอบว่าญัตติมีข้อบกพร่องหรือไม่ ซึ่งข้อบกพร่องมีเจตนารมณ์หมายถึงข้อผิดพลาดในเชิงข้อเท็จจริงหรือรูปแบบ เช่น มีรายชื่อผู้เสนอที่ไม่ครบตามเกณฑ์ ลายมือชื่อของผู้เสนอไม่ถูกต้องตรงกันกับลายมือชื่อจริง ระบุชื่อรัฐมนตรีที่ระบุในญัตติผิดพลาด ไม่ถูกต้อง หรือมีการอ้างถึงมาตราหรือข้อกฎหมายที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อน

ยกอดีตเคยมีมาแล้ว

ข้อ 2 ข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562 มิได้มีข้อห้ามมิให้ระบุชื่อบุคคลภายนอกในเนื้อหาญัตติ การระบุชื่อบุคคลภายนอกในเนื้อหาของญัตติจึงไม่ได้มีลักษณะเป็นการกระทำผิดหรือฝ่าฝืนข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรแต่อย่างใด และในอดีตที่ผ่านมาญัตติที่เสนอต่อประธานสภาหลายญัตติก็มีการระบุชื่อของบุคคลภายนอก เช่น ญัตติด่วนของนายวันมูหะมัดนอร์ ฉบับลงวันที่ 26 มิถุนายน 2562 เรื่องขอให้สภาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาตรวจสอบการดำเนินการโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน และการกำหนดพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก โดยเนื้อหาญัตติได้ระบุชื่อบุคคลอื่นซึ่งมิใช่นายกฯ หรือรัฐมนตรี หรือ สส.ใด ได้แก่ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร (CPH) อีกทั้งข้อบังคับการประชุมสภา ข้อ 178 กำหนดให้การอภิปรายของ สส.ผู้ใดที่อาจเป็นเหตุให้บุคคลอื่น ซึ่งมิใช่นายกฯ หรือ สส.ได้รับความเสียหาย สส.ผู้นั้นต้องรับผิดชอบผลแห่งการกระทำนั้นเอง เห็นได้ว่า ข้อบังคับการประชุมสภา 2562 ไม่ได้มีบทบัญญัติห้ามมิให้ระบุชื่อบุคคลภายนอกในเนื้อหาญัตติแต่อย่างใด

ข้อ 3 ข้อบังคับการประชุมสภา ข้อ 176 กำหนดให้เมื่อประธานสภาได้รับญัตติตามข้อ 175 แล้ว ให้ทำการตรวจสอบ หากมีข้อบกพร่องให้ประธานสภาแจ้งผู้เสนอทราบภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ได้รับญัตติ ซึ่งสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ สผ 0014/2559 ลงวันที่ 7 มี.ค. 2568 แจ้งถึงผลการพิจารณาญัตติของประธานสภา เห็นได้ว่าการแจ้งข้อบกพร่องตามข้อ 176 ในหนังสือฉบับดังกล่าวนั้นไม่เป็นไป ตามกรอบเวลาที่ข้อ 176 กำหนด จึงเป็นการแจ้งข้อบกพร่องที่ไม่ชอบด้วยข้อบังคับการประชุมสภา 2562

 “ประธานสภาได้รับญัตติของข้าพเจ้าและคณะเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 แต่กลับมีหนังสือแจ้งข้อบกพร่องเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2568 อันเป็นวันที่พ้นระยะเวลาเจ็ดวันตามที่ข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562 กำหนด จากที่กล่าวมาข้างต้น ข้าพเจ้าและคณะขอยืนยันว่าญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลของข้าพเจ้าและคณะนั้น ชอบด้วยข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562 และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ จึงขอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณา บรรจุญัตติดังกล่าวเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรโดยเร็วที่สุดต่อไป จึงกราบเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการต่อไป”

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค ปชน. ได้โพสต์เฟซบุ๊กเป็นภาพเอกสารญัตติด่วน เรื่องขอให้สภาตั้ง กมธ.วิสามัญ เพื่อพิจารณาผลกระทบจากการสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โดยทำไฮไลต์ชื่อบริษัท เจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง จำกัด พร้อมระบุว่า "เพิ่งได้ฟังอาจารย์วันนอร์ให้สัมภาษณ์ว่าอยู่ในสภามา 44 ปี ยังไม่เห็นมีญัตติไหนมีชื่อคนนอกแล้วอยู่ได้ การพูดแบบนี้ไม่แน่ใจว่าอาจารย์วันนอร์ลืม หรือตั้งใจโกหก เพราะความจริงสภามีการเอ่ยถึงบุคคลภายนอกมาแล้วหลายครั้ง และญัตติของอาจารย์วันนอร์เองนี่แหละที่เสนอตั้ง กมธ.เรื่องรถไฟสามสนามบิน มีการพาดพิงบุคคลภายนอกชัดเจน ญัตตินี้ก็ได้รับการบรรจุโดยท่านประธานสภาในเวลานั้นคือ ท่านชวน หลีกภัย ถ้าใช้มาตรฐานเดียวกันญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคฝ่ายค้านในวันนี้ที่ใส่ชื่อคุณทักษิณ ในฐานะการให้ข้อเท็จจริงว่าคุณทักษิณอยู่เบื้องหลังคุณอุ๊งอิ๊งย่อมสามารถทำได้อยู่แล้ว"

เตือนความจำ 'วันนอร์'

 “อาจารย์วันนอร์ไม่ต้องอ้างว่าตลอด 44 ปีไม่เคยเห็นญัตติที่มีชื่อบุคคลภายนอก เอาแค่จำการกระทำของตัวเองในปี 2562 ให้ได้ก่อน ผมขอยืนยันตรงนี้ว่า การใส่ชื่อคุณทักษิณในญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน สามารถทำได้ไม่มีกฎหมายห้าม การอ้างเรื่องบกพร่องไม่ได้ให้อำนาจประธานมาดูว่าควรมีชื่อบุคคลภายนอกได้หรือไม่” นายรังสิมันต์กล่าว

พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวเช่นกันว่า การที่นายวันมูหะมัดนอร์อ้างว่าผิดข้อบังคับการประชุมสภา ข้อ 176 และอาจมีสิทธิ์ที่จะถูกฟ้องได้นั้น อาจเข้าใจคลาดเคลื่อนและเอาเรื่องหลายเรื่องมาปนกัน ท่านต้องเข้าใจอำนาจและหน้าที่ของประธานสภา ซึ่งระบุไว้ชัดเจนในข้อ 9 ตามข้อบังคับการประชุมสภา ซึ่งบอกหน้าที่ 6 ข้อของประธานสภาไว้ชัดเจน ไม่มั่นใจว่าประธานสภากังวลเกินไป หรือตั้งใจถ่วงเวลาให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีต้องเลื่อนออกไปจนหมดสมัยการประชุม หรือมีข้อตกลงอะไรลับๆ หรือไม่อย่างไร  

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวตอบถึงกรณีฝ่ายค้านไม่ตัดชื่อของนายทักษิณออก และประธานสภาระบุว่าจะไม่บรรจุระเบียบวาระเรื่องนี้จะจบอย่างไรว่า ก็ต้องจบเพราะอำนาจอยู่ที่ประธานสภา ซึ่งวิป 3 ฝ่ายต้องคุยกัน เรื่องนี้ต้องมีข้อยุติ เราพยายามเอาเรื่องกฎกติกามาวัด  ไม่ใช่อารมณ์ความรู้สึก ซึ่งหากนายวันมูหะมัดนอร์ได้พูดถึงกฎกติกาที่ท่านตัดสินใจก็ต้องฟัง แต่หากฝ่ายค้านยังยืนยันก็ต้องเอาข้อกฎหมายมายืนยัน อย่าเอาความตั้งใจตัวเองมาเป็นตัววัด ไม่งั้นปัญหาไม่จบ กติกาให้ทำแค่ไหนก็ทำแค่นั้น ทั้งนี้หากฝ่ายค้านอยากอภิปรายก็ต้องรับผิดชอบด้วยตัวเอง   แต่หากประธานสภาไม่ให้ คุณก็สามารถอภิปรายได้หากเชื่อมโยง มันก็จะเป็นประเด็นไปเอง ถ้าอภิปรายมีเหตุผลใครจะมาขวางคุณได้ และถ้ากติกาไม่ดีก็ให้พรรคประชาชน (ปชน.) เสนอแก้กติกา

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเช่นกันว่า ให้เขาว่ากันก็แล้วกัน แต่เมื่อประธานสภาระบุมาว่าอย่างนี้ก็ลองดู เพราะเป็นดุลยพินิจของประธานสภาว่าจะบรรจุหรือไม่ ขณะนี้ประธานสภาใช้ดุลพินิจว่าให้ฝ่ายค้านไปแก้ มันก็ควรต้องไปแก้ เมื่อแก้เสร็จต้องมาดูในเรื่องการบรรจุวาระ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการรับญัตติ แต่ยังไม่บรรจุเป็นวาระ ฉะนั้นให้เขาไปพูดคุยกันว่าควรจะแก้หรือปรับอะไร

เมื่อถามย้ำว่า เรื่องนี้จะสามารถจบและคุยกันได้ใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์หัวเราะพร้อมพยักหน้า และกล่าวว่า “แนวโน้มก็น่าจะพอคุยกันได้มั้ง”

อ้างไม่เกี่ยวรัฐบาล

ส่วนนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดคุยถึงการกำหนดวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะปัญหาอยู่ที่ฝ่ายค้านต้องแก้ไขญัตติตามที่นายวันมูหะมัดนอร์วินิจฉัยไว้ เพราะหากไม่แก้ก็ไม่สามารถบรรจุญัตติได้ จึงไม่จำเป็นที่จะต้องมาหารือกับตน รอให้บรรจุระเบียบวาระก่อนถึงจะหารือกับฝ่ายค้าน

 “ยืนยันว่าวันนี้ปัญหาเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับรัฐบาลหรือ สส.รัฐบาล แต่เป็นเพราะฝ่ายค้านกับประธานสภาที่ต้องไปเจรจากันเอง เพราะฝ่ายค้านก็ยืนยันว่าไม่แก้ เมื่อไม่แก้ก็ไม่สามารถบรรจุได้ ผมก็ไม่ได้ไปเดือดร้อนอะไรกับเขา และไม่ได้ไปกลั่นแกล้งอะไร” นายวิสุทธิ์กล่าว

เมื่อถามว่า จะเป็นเรื่องที่เคลียร์กันไม่ได้จนทำให้การอภิปรายล่มเลยหรือไม่ ประธานวิปรัฐบาลกล่าวว่า ในข้อกฎหมายมันเคลียร์กันไม่ได้ ครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย แต่เป็นประวัติศาสตร์ที่ฝ่ายค้านอยากอภิปรายคนภายนอก ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่ไม่เคยอภิปรายมาก่อน เป็นการสร้างประวัติศาสตร์ที่ผิดๆ อย่าไปทำเลย และสิ่งที่ประธานสภาแนะนำก็เห็นว่า ครั้งหนึ่งในสมัยที่นายชวนเคยเป็นผู้นำฝ่ายค้านปี 2545 นายอุทัย (พิมพ์ใจชน) ประธานสภาในขณะนั้น ได้ทำหนังสือถึงนายชวนเพื่อให้แก้ไขญัตติเกี่ยวกับการอภิปราย ซึ่งท่านก็ไม่เห็นด้วย แต่ก็ปฏิบัติตามเพื่อให้การอภิปรายเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีที่แนะนำให้ฝ่ายค้านไปดู

 “เป็นเรื่องที่ฝ่ายค้านต้องไปทำกันเอง แต่เห็นดาหน้าออกมาพูดกันเยอะว่าจะไม่แก้ เมื่อไม่แก้ประธานท่านก็ไม่บรรจุ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องของผมหรือ สส.รัฐบาล” นายวิสุทธิ์ย้ำ

เมื่อถามถึงกรณีนายรังสิมันต์นำเอกสารที่นายวันมูหะมัดนอร์เคยเสนอให้สภาตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษารถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน โดยระบุชื่อบริษัทเอกชนรายหนึ่งไว้ในญัตติมาเทียบ ว่าสามารถพาดพิงบุคคลภายนอกได้เช่นกัน นายวิสุทธิ์กล่าวว่า เป็นคนละเรื่อง อย่าเอาไปปนกัน ซึ่งการที่ประธานสภาวินิจฉัยเช่นนี้ท่านได้พิจารณาดีแล้ว จึงได้ส่งญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจกลับไปที่ฝ่ายค้าน ฉะนั้นถ้าจะไม่แก้ก็แล้วแต่ แต่รัฐบาลพร้อมแล้ว และเตรียมตัวอย่างดีที่จะมาตอบคำถามฝ่ายค้าน

 “เห็นดาหน้ากันออกมาว่าจะไม่แก้ มองว่าออกมาแรงๆกันแบบนี้เดี๋ยวจะไม่มีทางลง ถ้าลงไม่ได้ก็บอก เดี๋ยวจะเอาบันไดมาให้ ก็เหมือนกับการอภิปรายแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่หากอภิปรายไปสองวันก็แก้ไม่ได้ แต่ยังจะฝืนไปต่อ นี่ก็เหมือนกัน รู้อยู่แล้วว่าอภิปรายไม่ได้แล้วจะยังไง ถ้าประธานสภาไม่บรรจุก็อภิปรายไม่ได้ ซึ่งรัฐบาลจะไม่ไปแทรกแซง" นายวิสุทธิ์กล่าว

เมื่อถามว่า เหลืออีก 1 เดือนจะปิดสมัยประชุม หากในสัปดาห์นี้ฝ่ายค้านไม่แก้ไขญัตติดังกล่าว คิดว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเกิดขึ้นในสมัยประชุมนี้หรือไม่ ประธานวิปรัฐบาลกล่าวว่า อาจจะหวุดหวิดหรืออาจไม่ทันก็ได้ แต่จะทันหรือได้อภิปรายหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องของพวกตน เป็นหน้าที่ของฝ่ายที่ต้องไปแก้ไขญัตติ

'ลุงป้อม' มีข้อมูลเด็ด

ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านยืนยันจะไม่ถอนชื่อนายทักษิณว่า ทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับ แต่สังเกตว่าการอภิปรายทุกครั้งที่พูดคุยถึงบุคคลที่สาม จะมีสมาชิกขอให้อภิปรายหลีกเลี่ยง เพราะบุคคลที่สามไม่สามารถชี้แจงได้ หากจะพูดถึงบุคคลที่สามคงจะเป็นเวทีอื่นๆ เพื่อบุคคลที่ถูกกล่าวอ้างถึงจะได้ชี้แจง

 “อย่าคิดว่ารัฐบาลจะเลี่ยงไม่ให้เกิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจทุกครั้ง นอกจากรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายแล้ว หลายเรื่องไม่มีโอกาสได้ชี้แจงพี่น้องประชาชน ก็ถือโอกาสจะชี้แจงต่อประชาชน” นายอนุทินระบุ

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ว่า ถ้าประธานสภาดึงญัตติอภิปรายจนฝ่ายค้านถูกปิดปากไม่ได้อภิปรายแล้ว อาจทำให้การเมืองบนถนนยิ่งแรงขึ้นโดยปริยาย ส่วนที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ  หัวหน้าพรรค พปชร.จะอภิปรายนั้น เพราะ พล.อ.ประวิตรมีข้อมูลลึกกรณีสนามกอล์ฟอัลไพน์ และนายทักษิณโทรศัพท์พูดคุยก่อนกลับไทยด้วย สิ่งสำคัญถ้าเปิดข้อมูลก่อนยึดอำนาจและหลังยึดอำนาจแล้ว คนไทยจะได้หูตาสว่างกับข้อเท็จจริง ดังนั้นการพูดของ พล.อ.ประวิตรย่อมมีทีเด็ด ปล่อยของทางการเมืองให้หน้าหงายกัน จึงเป็นจุดที่น่าสนใจ

นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า  เตรียมการเคลื่อนไหวกันอีกครั้ง เพื่อไม่ให้เกิดหายนะของประเทศครั้งใหญ่ เฉพาะหน้าคือการแสดงพลังคัดค้านกาสิโน และพนันออนไลน์ที่จะเข้า ครม. นัดเจอกันอังคารที่ 11 มีนาคม 2568 เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป พร้อมทั้งเตรียมเปิดสภาประชาชนอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลทั้งคณะทุกนโยบาย โดยจะมีนักวิชาการในแต่ละประเด็นเป็นผู้อภิปราย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โต้บ่อนกาสิโนคือรายได้หลัก

"นักวิชาการ" สวนกลับ "พ่อนายกฯ" ชี้หัวใจเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์คือ "บ่อนกาสิโน" ทุกพื้นที่มีรายได้หลักจากกาสิโน 65-90%

พรรคส้มตบปากแม้ว สส.เหนือเดือด!พูดดูถูก‘เท้ง’สึ่งตึงไล่ทำหน้าที่รัฐบาลให้ดีก่อน

"สส.เหนือ ปชน." เดือด! รวมตัวดีดปาก "แม้ว" หลังปราศรัยโจมตี “หัวหน้าเท้ง” สึ่งตึง "พุธิตา" ซัดเป็นถึงผู้หลักผู้ใหญ่ไม่สมควรพูดหยาบคายดูถูกกัน