"นายกฯ อิ๊งค์" รับตื่นเต้นศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งแรก 24-26 มี.ค. ชี้ฝ่ายค้านซักฟอกนายกฯ คนเดียว 30 ชม.ไม่สมเหตุสมผล โยนวิปรัฐบาลไปเจรจา 19 มี.ค. บอกแก้ญัตติจาก "ทักษิณ" เป็น "บุคคลในครอบครัว" ไร้ปัญหาถ้าทำถูกขั้นตอน ไม่แปลกใจโหมโรง “ดีลแลกประเทศ” เรียกความสนใจ ขอ "ครม." เตรียมข้อมูลช่วยตอบ "มติ พท." ยันให้ฝ่ายค้านซักฟอกได้แค่ 23 ชม. รัฐบาล 7 ชม. “วิสุทธิ์” สั่ง "สส." ห้ามป่วย-ห้ามตาย-ห้ามขาด "พรรคร่วม รบ." ดาหน้าปัดไม่ใช่พ่อมหาจำเริญที่ "แม้ว" เอ่ยถึง "ลุมป้อม" ลั่นรอฟังอภิปราย "ไพบูลย์" ตีปี๊บจัดหนัก "อิ๊งค์-คนในครอบครัว" เน้นๆ เดือด! "พิชัย-นฤมล” โต้กลาง ครม.ปมส่งออกทุเรียนจีน ก่อนนายกฯ สั่งหย่าศึก
เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีรู้สึกพอใจหรือไม่ที่พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดยพรรคประชาชน (ปชน.) แก้ไขญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ตัดชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีออก แล้วใช้คำว่า “บุคคลในครอบครัว” แทนว่า ก็ได้หมด มันเป็นไปตามกระบวนการของเอกสารอยู่แล้ว ก็เป็นตามขั้นตอนที่ทำไป ทำขั้นตอนถูกก็โอเคแล้ว
ถามว่า กรอบเวลาทางฝ่ายค้านมองนายกฯ ไฟเขียว 30 ชั่วโมง น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เป็นสิ่งที่ต้องแบ่งกัน แต่ทางวิป 3 ฝ่ายจะไปคุย และในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็ได้มีการพูดคุยถึงวาระสภาอยู่แล้ว และบอกว่าน่าจะมีการคุยกันในวันที่ 19 มี.ค. เพื่อตกลงในเรื่องของจำนวนชั่วโมง
ซักว่า ถ้าให้ 30 ชั่วโมงของฝ่ายค้านเพียงอย่างเดียวมากไปหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า "ความจริงอภิปรายคนเดียวมันก็อาจจะไม่ค่อยเมกเซนส์เท่าไหร่ แต่ว่าลองไปตกลงกันแล้วกัน ในกระบวนการสภาก็ให้วิปรัฐบาลไปพูดคุยกัน ตัวดิฉันไม่ได้ไปตกลงด้วย"
นายกฯ กล่าวถึงการนัดพรรคร่วมรัฐบาลรับประทานอาหารค่ำในวันที่ 21 มี.ค.ว่า จะมีการกำชับเรื่องให้มีความเป็นเอกภาพภายในรัฐบาลอยู่แล้ว และจะช่วยเหลือกันอย่างไร แบ่งเบากันอย่างไรบ้าง เพราะในการอภิปรายคนเดียวหรือวงเล็กสองคน ต้องมีเกี่ยวกับกระทรวงอื่นๆ อยู่แล้ว ฉะนั้นก็เต็มที่ ทุกกระทรวงต้องช่วยกัน
ถามถึงกรณีที่ฝ่ายค้านโหมโรงถึงดีลแลกประเทศ ถือเป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรงหรือไม่ นายกฯ ย้อนถามว่า ดีลแลกประเทศเหรอคะ ไม่ได้แปลกใจ ก็ต้องทำอย่างนั้นเพื่อให้ได้รับความสนใจ เป็นเรื่องธรรมดาเรื่องปกติ ฝ่ายรัฐบาลก็มีเช่นกัน พรรคต่างๆ ก็มีถือเป็นเรื่องปกติไม่ได้อะไร
ซักว่า ที่มีการปล่อยของออกมาถือว่าตรงกับที่นายกฯ ทำการบ้านไว้หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า "เราเตรียมข้อมูลมากกว่า การบ้านที่ทำของทุกๆ กระทรวง ทุกนโยบายที่ปล่อยไปว่ามีคำถามอะไรหรือไม่ที่ฝ่ายค้านสนใจ เราก็เตรียมข้อมูลคำตอบเท่านั้นแหละค่ะ ไม่ได้มีอะไรที่มันมากมายไปกว่านั้น ก็หวังว่าสองวันจะจบ"
เมื่อถามถึงกรณีแนวคิดของนายทักษิณเรื่องการซื้อหนี้ของประชาชนออกจากระบบ นายกฯ ไม่ซีเรียสใช่หรือไม่ว่าไฮไลต์ต่างๆ ออกมาจากนายทักษิณ แทนที่จะออกมาจากนายกฯ น.ส.แพทองธารย้อนถามว่า เราดูซีเรียสไหมคะ ก่อนหัวเราะ
“ไม่ค่ะ ตัวตนก็เรื่องหนึ่ง เราคิดว่าเราก็มีตัวตนของเรา แต่ว่าอะไรที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติเราคงไม่เอาตัวตนเราไปขวาง เช่น ถ้าฉันไม่ได้หน้าฉันไม่ทำ อันนี้มันก็ไม่ใช่ มันต้องเป็นสิ่งที่ทำแล้วเกิดประโยชน์กับประชาชนจริงๆ ถ้าคนที่ขึ้นอยู่ในตำแหน่งแล้วทุกคนมัวแต่พูดว่า ถ้าฉันไม่ได้หน้าฉันไม่ทำ มันไม่ต้องมีอะไรทำกันแล้ว อย่างนี้มันก็จะแย่ ทุกคนมีความคิดที่ดีก็ทำ" น.ส.แพทองธารกล่าว
พอถามว่า มีการมองว่าใกล้ถึงวันอภิปราย แต่มีไอเดียแบบนี้ออกมา อาจจะถูกมองเป็นการพูดลอยๆ น.ส.แพทองธารย้อนถามว่า พูดลอยๆ อะไรนะคะ ผู้สื่อข่าวจึงตอบกลับว่า เป็นการกลบประเด็นอภิปราย นายกฯ กล่าวว่า “กลบประเด็นอภิปรายเหรอ กลบไม่ได้หรอกมั้งคะ เดี๋ยวรอดู อยู่ที่คะแนนโหวต"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากนายกฯ เดินทางไปปฏิบัติภารกิจและกลับเข้ามาทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลในเวลา 15.35 น. ก่อนที่จะไปร่วมประชุมพรรคเพื่อไทย (พท.) นายกฯ ได้พา ด.ญ.ธิธาร สุขสวัสดิ์ ลูกสาวคนโต และ ด.ช.พฤจ์ธาษิณ สุขสวัสดิ์ ลูกชายคนเล็ก มาเดินเล่นที่สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้าอย่างอารมณ์ดีและผ่อนคลาย ก่อนขึ้นรถออกจากทำเนียบฯ
นายกฯ รับตื่นเต้นศึกซักฟอก
ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุมพรรคประจำสัปดาห์ โดยมีนายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรค, นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ และประธาน สส.พรรค ทำหน้าที่ประธานการประชุม ทั้งนี้ น.ส.แพทองธารได้มาเข้าร่วมประชุมกับ สส.พรรคในครั้งนี้ด้วย
เวลา 16.00 น. เข้าสู่การประชุมพรรค นายวิสุทธิ์กล่าวในที่ประชุมตอนหนึ่งว่า ในวันที่ 24-26 มี.ค. ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาของการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของฝ่ายค้าน ดังนั้น สส.ห้ามไปไหนเป็นอันขาด เพราะจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ซึ่งมีการบรรจุระเบียบวาระแล้ว โดยจะเริ่มในวันที่ 24 มี.ค. ขอให้พวกเราทุกคนไปถึงสภาก่อนเวลา 08.00 น. เพื่อลงชื่อเข้าประชุมให้เรียบร้อยพร้อมทำหน้าที่ เพราะที่ผ่านมาต้องเรียนว่า พรรค พท.องค์ประชุมครบเป็นปึกแผ่น ดังนั้นในวันที่ 24-26 มี.ค. ขอความเป็นปึกแผ่นจากทุกคนโดยอยู่ทำหน้าที่ตลอดเวลา ถ้าต้องนอนดึกหน่อยก็ไม่เป็นไร นานๆ ครั้ง ดังนั้นขอกำลังใจจากพวกเราในการอภิปรายครั้งนี้ ซึ่งฝ่ายค้านจะอภิปรายนายกฯ ทราบว่า 95% จะอภิปรายนายกฯ คนเดียว
“การให้เวลาอภิปรายนายกฯ 2 วัน ถือว่าใจกว้างมากแล้ว โดยฝ่ายค้านได้ 23 ชั่วโมง รัฐบาล 7 ชั่วโมง เวลาในส่วนของประธานสภาฯ นั้น มอบหมายนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ไปขอเวลาในส่วนของวิป 3 ฝ่าย หากเริ่มอภิปรายได้ในเวลา 08.00 น. ก็จะเหลือเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงให้กับประธาน จะได้ไม่ต้องตัดเวลาของรัฐบาล ขอให้พวกเรามีความพร้อม ทุกคนห้ามป่วย ห้ามตาย ห้ามขาด ต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ครั้งนี้ต้องขอกำลังใจจากทุกคน” นายวิสุทธิ์กล่าว
ส่วน น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ได้คุยกับทางรัฐมนตรี และได้ถามว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง เพราะเป็นการอภิปรายครั้งแรก ซึ่งรัฐมนตรีหลายท่านได้เล่าบรรยากาศให้ฟังแล้ว เมื่อก่อนดูผ่านทีวีเท่านั้น แต่ครั้งนี้มีโอกาสเข้าไปตอบจริง คงไม่มีอะไรมาก ก็จะตอบตามที่ได้ทำงานไป และถ้าเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงต่างๆ จะพูดหัวข้อ แต่รายละเอียดอยากให้รัฐมนตรีซึ่งดูหน้างานได้ชี้แจงเพื่อแสดงผลงานของตัวเอง ส่วนตัวได้กำลังใจจาก สส.พรรคเพื่อไทยอยู่แล้วแน่นอน ดังนั้นขอให้เฝ้าไลน์กลุ่มกันหน่อย เผื่อขอความช่วยเหลือ ก็จะส่งเข้าไปในกลุ่มไลน์เพื่อขอความช่วยเหลือ ขอให้เช็กไลน์ ขู่ไว้ก่อน ในช่วงพักก็จะดูข้อความว่ามีข้อมูลอะไรสำคัญ ขอให้ช่วยกัน
“จริงๆ แล้วรู้สึกตื่นเต้นเหมือนกัน เป้าหมายคืออยากให้ประชาชนเข้าใจผลงานและนโยบายต่างๆ เพราะไม่ได้รู้สึกว่าต้องโดนซักฟอกอะไร ไม่มีอะไรจริงๆ แค่อยากอธิบายนโยบายต่างๆ อะไรที่ไม่เข้าใจก็อยากอธิบาย ก็ดีเป็นเวทีที่เราจะได้พูดคุยกับพี่น้องประชาชน ในหลายๆ นโยบาย หลายๆ เรื่องก็มาจาก สส.ของเรา และเราก็แก้ปัญหาได้ ถือผลงานของทุกคนร่วมกันอยู่แล้ว ส่วนที่นัดกันเวลา 08.00 น. อิ๊งค์ก็จะถึงเหมือนกัน เพราะตัวเองเป็นคนลูกเล็ก ตื่นเช้าอยู่แล้ว เจอกันสามวันนะคะ ได้เจอกันบ่อยๆ อยู่แล้ว" น.ส.แพทองธารกล่าว
นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรค พท. แถลงผลการประชุมว่า น.ส.แพทองธารได้มีโอกาสไปพบปะและพูดคุยเพื่อรับฟังปัญหาของประชาชนจาก สส. โดยยืนยันว่า น.ส.แพทองธารกำลังใจดี ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร แต่ก็มีการกำหนดว่าจะให้ สส.ของพรรคไปเป็นองค์ประชุมตั้งแต่เวลา 08.00 น. เพื่อเตรียมตัว
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า นายกฯ มีข้อสั่งการ แม้เป็นการอภิปรายนายกฯ เพียงคนเดียว แต่เป็นการบริหารราชการแผ่นดินทุกกระทรวง จึงขอให้เตรียมข้อมูลต่างๆ ให้พร้อม หากมีการพาดพิงถึงกระทรวงใด ต้องเตรียมข้อมูลให้นายกฯ หรือรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ชี้แจง ทั้งนี้ การประชุม ครม.จะเลื่อนออกไปเป็นวันพฤหัสบดีที่ 27 มี.ค.แทน
ขณะที่ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะฝ่ายกฎหมาย และรองหัวหน้าพรรค พท. กล่าวถึงการยอมให้แก้ไขคิดว่ามีผลบวกหรือผลลบต่อตัวนายกฯ ว่า ส่วนตัวคิดว่ามีผลเท่าเดิม เพียงแค่ลบชื่อออก แต่ปัญหาใหญ่คือจะอภิปรายเนื้อหาสาระอะไร เป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ และทำให้บุคคลภายนอกเสียหายหรือไม่ หากได้รับความเสียหายก็จะมีการประท้วง และถูกดำเนินคดีฟ้องร้อง แค่นั้นเอง
จัดหนักอิ๊งค์-คนในครอบครัว
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีนายทักษิณระบุอยากให้รัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลพ่อมหาจำเริญช่วยเร่งการทำงานว่า นายทักษิณพูดในฐานะผู้ใหญ่ คงตักเตือนให้ทุกคนมีความกระตือรือร้นในการทำงาน ส่วนเป็นการโฟกัสหรือหมายถึงใครนั้น ไม่ทราบเหมือนกัน แต่คงไม่ใช่ตน เพราะตอนนี้มหาดไทยทำงานเยอะ
ถามว่า เวลาที่นายทักษิณพูดอะไรเช่นนี้ คนมักจะโฟกัสที่นายอนุทิน และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ คงเป็นการคุยทั่วไป ผู้ใหญ่ตักเตือน
ซักถึงเรื่องที่นายทักษิณระบุขณะนี้พรรค ภท.ต้องอยู่กับพรรค พท.แบบตบจูบ นายอนุทินหัวเราะก่อนกล่าวเปรียบเปรยว่า “สามีภรรยาตบจูบลูกเยอะจะตาย”
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรค รทสช. กล่าวเช่นกันว่า พ่อมหาจำเริญให้ช่วยทำงานกันไม่ทราบว่าหมายถึงพรรคใด แต่พรรค รทสช. นายพีระพันธุ์และตนทำงานอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว
ถามถึงการซัพพอร์ตนายกฯ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เลขาฯ พรรค รทสช.กล่าวว่า พร้อมอยู่แล้ว เราทำงานกับรายละเอียดข้อมูลทุกอย่าง ที่รัฐสภาตนและนายพีระพันธุ์ก็เข้าไปตอบกระทู้หลายครั้ง เราทำด้วยตัวเอง ข้อมูลการทำงานทุกอย่างเรามั่นใจในผลงานและในรายละเอียด ทั้งหมดของการทำงานกับการปฏิบัติการทุกเรื่อง มีความพร้อมยิ่งกว่า 100%
ขณะที่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ก็ยืนยันว่าไม่ใช่พรรคพ่อมหาจำเริญตามที่นายทักษิณระบุ
ส่วน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงการเตรียมข้อมูลชั้น 14 รองรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า หากพาดพิงถึงกระทรวงยุติธรรมก็ทำได้ โดยกรณีชั้น 14 เรื่องที่เกี่ยวกับกระทรวงยุติธรรมโดยตรงต้องตอบ
ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวถึงการเตรียมพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า “คอยฟังสิ ให้คอยฟัง”
ถามว่า ขณะนี้ประชาชนรอฟังว่า พล.อ.ประวิตรจะอภิปรายเรื่องอะไร ใช่เอ็มโอยู 44 หรือไม่ พล.อ.ประวิตรย้ำคำเดิมว่า “คอยฟังสิ คอยฟัง” เมื่อถามอีกว่า แสดงว่าประชาชนจะไม่ผิดหวัง เพราะขณะนี้ประชาชนรอฟัง พล.อ.ประวิตรอภิปรายคนเดียวว่าจะมีหมัดเด็ดอะไร โดย พล.อ.ประวิตรไม่ตอบ แต่เดินขึ้นรถทันที ก่อนที่จะลดกระจกลงพร้อมยิ้มทักทายกับสมาชิกพรรค พปชร.ที่เดินลงมาส่ง
ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค พปชร. กล่าวว่า พล.อ.ประวิตรจะเป็นผู้นำการอภิปรายภาพรวม โดยจะมีการกล่าวถึงประเด็นหลักๆ ที่พรรคตรวจสอบ ทั้งเรื่องที่ดินอัลไพน์ ซึ่งเป็นที่ดินธรณีสงฆ์ กาสิโน การพนันออนไลน์ และเอ็มโอยู 2544 รวมไปถึงเรื่องชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเป็นเรื่องของครอบครัวนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่นายทักษิณ นอกจากนี้ยังมี 2 ประเด็นสำคัญที่อุบไว้ก่อน
ถามว่า ถ้าเปิดออกมาแล้วจะทำให้ตะลึงหรือไม่ นายไพบูลย์เลี่ยงที่จะตอบ โดยบอกเพียงว่า เป็นประเด็นของฝ่ายเตรียมข้อมูล ซึ่งน่าจะเป็นประเด็นใหม่ โดยเป็นเรื่องของนายกฯ เอง เมื่อถามย้ำว่า เป็นเรื่องทุจริตหรือเรื่องการบริหารงาน นายไพบูลย์กล่าวว่า ขอตอบแค่นี้ก็แล้วกัน เดี๋ยวไปพูดหมด
ซักว่า ที่ผ่านมาจะไม่ค่อยเห็นบทบาท พล.อ.ประวิตรในการอภิปรายในสภา หลายคนมีการจับตาถึงขั้นปรามาสว่าจะไม่มีข้อมูลเด็ด นายไพบูลย์กล่าวว่า มั่นใจ เพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ เวลาที่ท่านอภิปรายจะเลือกใช้ถ้อยคำแบบผู้ใหญ่และมีน้ำหนัก และพุ่งเป้าไปสู่การอภิปรายนายกฯ ว่าทำไมเราถึงไม่ไว้วางใจนายกฯ และต้องทำความเข้าใจว่า การอภิปรายของ พล.อ.ประวิตร เป็นการอภิปรายภาพรวม ส่วนการลงรายละเอียดแต่ละประเด็นนั้น เป็นเรื่องของ สส.ที่จะอภิปรายไปขยายผล
ถามถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม บอกการอภิปรายจะมีงูเห่าโหวตให้รัฐบาล 10 เสียง เป็นเสียงจากพรรค พปชร.หรือไม่ นายไพบูลย์กล่าวว่า ขอให้คอยดู ใครพูดอะไรก็พูดไป เมื่อถามย้ำว่าถ้ามีจะทำอย่างไร นายไพบูลย์กล่าวว่า ขอให้รอดู แต่ล่าสุดพรรคได้มีคำสั่งให้ปลด น.ส.กาญจนา จังหวะ สส.ชัยภูมิ ออกจากรองเลขาธิการพรรค เพราะไปร่วมกิจกรรมในการเปิดที่ทำการพรรคกล้าธรรมเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา แต่จะไม่มีการขับออกจากพรรค แต่รอให้ลาออกเอง
'พิชัย-นฤมล' โต้เดือดกลาง ครม.
วันเดียวกัน มีรายงานว่า ในการประชุม ครม. ได้มีการหยิบยกประเด็นเกี่ยวกับการส่งออกทุเรียนของไทย ที่จะต้องปฏิบัติตามมาตรการของประเทศจีน เกี่ยวกับการตรวจจับสารย้อมสี หรือ Basic yellow 2 โดย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ระบุประเทศไทยควรมีเครื่องมือในการตรวจจับปริมาณสารย้อมสีเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ทำให้รัฐมนตรีทั้งกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รีบแสดงความเห็นเรื่องดังกล่าวอย่างดุเดือด และใช้เวลาพอสมควร
โดยนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ระบุว่าเมื่ออายัดทุเรียนมาได้แล้ว ทำไมไม่ทำลาย ทำให้นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ รีบโต้แย้งขึ้นมาด้วยเสียงเข้มและมั่นใจว่า ตามขั้นตอนเมื่ออายัดของได้แล้วไม่สามารถทำลายได้ในทันที ซึ่งในระหว่างนั้นก็มีรัฐมนตรีหลายคนใน ครม.มีสีหน้าแปลกใจกับการโต้เถียงกันระหว่างสองกระทรวงใหญ่ทางด้านเศรษฐกิจ ท่ามกลางข้อสังเกตว่า สองกระทรวงนี้ทำงานไม่กินเส้นกันมาก่อนหรือไม่ในเรื่องการส่งระบายสินค้าการเกษตรที่มีปัญหาและมีการวิพากษ์วิจารณ์ในขณะนี้
จนในที่สุด น.ส.แพทองธารต้องหย่าศึก ด้วยการสั่งให้สองรัฐมนตรีดังกล่าวไปคุยนอกรอบให้ยุติ ก่อนนำมารายงาน ครม.อีกครั้ง
ช่วงเย็น น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์ถึงการหย่าศึกเรื่องปัญหาการส่งออกทุเรียนไทยของสองกระทรวง โดยย้อนถามว่า “หย่าศึกอะไรนะ” ผู้สื่อข่าวจึงได้ถามย้ำว่า ศึกระหว่างสองกระทรวง น.ส.แพทองธารจึงตอบว่า “เธอก็พูดไป ไม่มีศึกอะไรเลย”
ขณะที่นายพิชัยให้สัมภาษณ์เรื่องปัญหาการส่งออกทุเรียนไปยังจีนจนเกิดวิวาทะกันระหว่างสองกระทรวงว่า ไม่มีอะไร เพียงแค่กังวลเรื่องการส่งออกเท่านั้น
ถามว่า เคลียร์กันเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ นายพิชัยกล่าวว่า เคลียร์กันเรียบร้อย ได้คุยกันแล้ว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ซูเปอร์โพลชี้ผลสำรวจคนไทยมีความทุกข์มากขึ้น แต่ยังมั่นใจฝีมือ 'อิ๊งค์'
นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัย ซูเปอร์โพล ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง สังคม เศรษฐกิจ และการเมือง ในสายตาของประชาชน กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) รวมจำนวนตัวอย่างในการวิเคราะห์ทางสถิติทั้งสิ้น 1,215 ราย ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 15 - 19 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา
เตือนครูทั่วปท. ขอ‘ใบอนุญาต’ ก่อน‘สอนเด็ก’
รัฐบาลแนะครูรีบต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพให้ถูกต้องตามกฎหมาย
หนุนกาสิโนเพิ่มเงินคนแก่
“สุทิน” คาด 28-30 พ.ค. เปิดสภาวิสามัญถกงบปี 69 เชื่อความเห็นต่างพรรคร่วมฯ
‘อันวาร์’หลุด‘อมพระ’ โซเชียลเดือดตั้งใจหรือพลาด!ลบคลิปหารือ‘แม้ว-อุ๊งอิ๊ง’แทบไม่ทัน
สื่อโซเชียลลุกเป็นไฟ เพจ Anwar Ibrahim ของนายกฯ มาเลเซีย
‘บิ๊กต่าย’ซัด‘ขยะสังคม’ ทางหลวงแจ้งข้อหาพีช
ไม่สนิทแล้ว! คดีขับรถปาดหน้าเขย่าการเมือง "ภูมิธรรม" วอนอย่าจับแพะชนแกะ ปัด "ทักษิณ" ไม่มีความสัมพันธ์พิเศษกับนายกเบี้ยว
กต.ซูฮกผลงาน‘อันวาร์’
“อันวาร์” ชี้ อาเซียนมีโอกาสเข้าไปช่วยเหลือเมียนมา หวังทุกฝ่ายหยุดยิง