เบรกแจกหมื่นเฟส3ใช้กระตุ้นศก.

นายกฯ ถกบอร์ดกระตุ้น ศก. ยอมรับภาษีสหรัฐฯ กระทบทั่วโลก "รมว.คลัง" ยอมรับต้องทบทวนงบดิจิทัลวอลเล็ต 1.57 แสนล้านบาทนำไปใช้กระตุ้น ศก.ภาพรวม ยันยังไม่ยกเลิกแค่ชะลอ หากสถานการณ์ดีพร้อมดันต่อ “สรวงศ์” มั่นใจไม่กระทบฐานเสียง พท.เพราะไม่ได้ยกเลิก "สภาพัฒน์” เผย ศก.ไทยไตรมาส 1/68 ขยายตัว 3.1% หั่นเป้าจีดีพีทั้งปีโต 1.8% จากเดิม 2.8% แนะผู้ประกอบการเตรียมรองรับความผันผวนทางการค้า จับตาไตรมาส 3 อาจเห็นเศรษฐกิจไทยชะลอตัวชัดขึ้น

ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล เวลา 15.10 น. วันที่ 19 พฤษภาคม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 2/2568 โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม, นายพิชัย ชุณหวชิร  รองนายกฯ และ รมว.การคลัง, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง  รองนายกฯ และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง, นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.การคลัง, นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

โดยนายกฯ กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปัจจุบันมีภาวะผันผวน เนื่องจากมีการประกาศนโยบายจัดเก็บภาษีของประเทศมหาอำนาจ ซึ่งส่งผลกระทบต่อหลายประเทศทั่วโลก ตนไปทุกที่ผู้นำจากหลายประเทศมีฟีดแบ็กมา ซึ่งทุกประเทศจะต้องปรับตัว ต้องหาทางออกของแต่ละประเทศ อย่างประเทศไทยเองก็จับกลุ่มอาเซียน ช่วยให้เรามองเห็นปัญหาร่วมกัน วันนี้มีการหารืออย่างเป็นทางการกับประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ก็ได้พูดคุยกันถึงเรื่องนี้ และเห็นว่าส่งผลต่อทุกประเทศจริงๆ ทำให้ประชาชนมีรายได้ในภาพรวมลดลง โดยเฉพาะภาคการส่งออกของไทย โดยภาคที่ต้องพึ่งพาตลาดต่างประเทศต้องมีการทบทวน ประกอบกับการจัดเก็บภาษีรายได้ของรัฐบาลคาดว่าจะต่ำกว่าเป้าหมาย จึงจำเป็นต้องทบทวนแผนงานและโครงการของรัฐบาล

นายกฯ กล่าวต่อว่า รวมถึงเร่งปรับปรุงโครงสร้างทางเศรษฐกิจ โดยจะต้องให้ความสำคัญกับการสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะยาวให้มากขึ้น รวมถึงสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจฐานราก โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอีด้วย และด้วยเหตุผลที่กล่าวมาจึงเป็นที่มาของการประชุมในวันเดียวกันนี้ เพื่อร่วมกันคิดและเสนอแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน

ต่อมานายพิชัย ชุณหวชิร แถลงภายหลังการประชุม ว่า เราต้องทบทวนงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาท โดยจะพิจารณาแก้ปัญหาเรื่องที่เราเห็นแบบชัดเจนก่อน โดยสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทย อยากเห็นการทบทวนโครงการดิจิทัล วันนี้จึงมีการประชุมเพื่อดูว่าจะทบทวนอย่างไร ซึ่งเรานำงบดังกล่าวไปแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างเกี่ยวกับเรื่องน้ำอุปโภคบริโภคและการเกษตร

"นอกจากนี้ยังมีเรื่องระบบคมนาคม รถไฟความเร็วสูง  รถไฟรางคู่ ถนนต่างๆ รวมถึงการท่องเที่ยวว่าอะไรที่เป็นปัญหา ซึ่งสิ่งต่างๆ อยู่ในแผน แต่อะไรเร่งด่วนจะหยิบขึ้นมาดูเลย รวมถึงปัญหาเฉพาะหน้าของเอสเอ็มอี ทบทวนโครงการที่จะสามารถสร้างงานได้ทั้งหมด โดยจะเน้นการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน การจ้างงาน โดยวันนี้ที่ประชุมบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจอนุมัติเป็นกรอบไว้ โดยมีคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการแผนงาน รวมถึงมีคณะกรรมการติดตามการใช้จ่ายงบประมาณด้วย"

เมื่อถามว่า ดิจิทัลวอลเล็ตเร่งด่วนหรือไม่ นายพิชัย กล่าวย้ำว่า ดิจิทัลวอลเล็ตเราขอชะลอไปก่อนจนกว่าสถานการณ์จะเหมาะสม เมื่อถามว่า ปัจจัยที่ต้องชะลอเพราะเงินไม่พอด้วยใช่หรือไม่ นายพิชัยกล่าวว่า ไม่ใช่  เพราะงบมีอยู่แล้ว แต่วันนี้สถานการณ์เปลี่ยนมีข้อจำกัดมากขึ้น จึงต้องปรับแผนการใช้เงิน ซึ่งไม่เกี่ยวกับไม่มีเงิน

"ไม่เรียกว่าซื้อเวลาดีกว่า ถ้าสถานการณ์ดีเราก็หยิบขึ้นมาพิจารณาใหม่ได้ เพราะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยตรง แต่วันนี้เราอยากให้เกิดการจ้างงานก่อน เราจึงดูตามเหตุการณ์ที่เหมาะสม" นายพิชัยกล่าว

นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจชะลอดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 จะกระทบฐานเสียงพรรค พท.หรือไม่ และจะตอบประชาชนอย่างไร ว่าจริงๆ แล้วนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งนายกฯบอกแล้วว่ามีหลายปัจจัยเปลี่ยนแปลง ต้องรับฟังทุกหน่วยงาน จึงมองว่าเป็นการชะลอมากกว่า ไม่น่าจะเป็นประเด็นได้ แต่ทั้งหมดคือการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกมิติหนึ่ง

เมื่อถามว่า ดิจิทัลวอลเล็ตเป็นนโยบายเรือธง จะกระทบฐานเสียง พท.หรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวย้ำว่า ยังไม่ได้ถูกยกเลิก แต่เป็นการเลื่อนออกไป ส่วนจะกระทบกับความน่าเชื่อถือนโยบายอื่นๆ ที่จะใช้ในการหาเสียงของพรรคเพื่อไทยในอนาคตหรือไม่ต้องดู และต้องทำความเข้าใจกับประชาชน แต่ทั้งหมดตอนนี้เป็นแค่การปรับเปลี่ยนแผน เพราะมีเรื่องเศรษฐกิจโลก ประชาชนต้องเข้าใจว่าทุกอย่างไม่ได้เข้ามาแบบที่เราคิดไว้หรือแบบที่ต้องการ

นายชูศักดิ์ ศิรินิล กล่าวถึงโครงการแจกเงินดิจิทัล  10,000 บาท เฟส 3 หากถูกยกเลิกจะมีปัญหาด้านกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากแถลงนโยบายต่อรัฐสภาไปแล้ว ว่า ที่ผ่านมาเขาก็ทำกัน แต่สถานการณ์มันเป็นอย่างนี้ จากที่ตนฟังดูไม่ได้หมายความว่าจะไม่ทำ แต่อาจจะต้องชะลอไว้ก่อน ไม่ใช่ไม่ทำ และใช้กลไกกระตุ้นเศรษฐกิจอื่น เพราะเมื่อสถานการณ์เป็นอย่างนี้ก็ต้องชะลอ ส่วนที่ดำเนินโครงการเฟส 1-2 ถือว่าก็ทำ ไม่ใช่ไม่ทำเลย

วันเดียวกัน นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดแถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสที่ 1 ปี 2568 และแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2568 ว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกของปี 2568 ขยายตัวได้ 3.1% ต่อเนื่องจากการขยายตัว 3.3% ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 และเมื่อปรับผลของฤดูกาลออกแล้ว เศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกของปี 2568 ขยายตัวจากไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 0.7% โดยเศรษฐกิจในไตรมาสนี้มาจากการใช้จ่าย การส่งออกสินค้าและการลงทุนภาครัฐขยายตัวในเกณฑ์สูง การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน และการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคของรัฐบาลชะลอตัว

ส่วนปัจจัยเสี่ยงของเศรษฐกิจไทยปี 2568 ข้อจำกัดจากภาระหนี้สินครัวเรือนและภาคธุรกิจที่อยู่ในระดับสูง เศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ตามแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจและปริมาณการค้าโลก และผลกระทบจากการดำเนินมาตรการทางการค้าของสหรัฐฯ รวมทั้งความเสี่ยงจากความผันผวนในภาคเกษตร

 นายดนุชากล่าวว่า การที่ประมาณการเศรษฐกิจทั้งปี 2568 ขยายตัว 1.8% อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าหลายสำนักเศรษฐกิจนั้น สศช.ได้พิจารณาจากตัวเลขอื่นประกอบ และสถานการณ์เจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ซึ่งในรายละเอียดมีหลายเรื่องที่ต้องปรับปรุงเพิ่มเติม ในการประมาณการเป็นเครื่องชี้ช่วยให้ธุรกิจและประชาชนตระหนักเรื่องเศรษฐกิจในระยะต่อไป โดยไม่ได้มองแง่ร้ายมาก เพราะการคาดการณ์ของสำนักอื่นในต่างประเทศมองไทยอยู่ในช่วงนี้เช่นเดียวกัน โดยเรื่องนี้อาจปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ยืนยันไม่ได้มองในแง่ร้าย เป็นไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและมองอนาคต และคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะมีปัญหามากตั้งแต่ไตรมาส 3 เป็นต้นไป

"เศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกยังไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ แต่ช่วงต่อไปจะผันผวนมากขึ้น ทั้งการค้า อัตราแลกเปลี่ยน เศรษฐกิจชะลอตัว ขอให้ผู้ประกอบการ ภาคธุรกิจ เตรียมตัวรองรับความผันผวนทางการค้า ส่วนประชาชนขอให้เตรียมพร้อมเรื่องการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันให้มีความรอบคอบมากขึ้น เพื่อให้สามารถผ่านสภาวะนี้ไปได้ ขณะที่รัฐบาลเองก็จะเตรียมมาตรการออกมาช่วยเหลือ” นายดนุชากล่าว

สำหรับการแจกเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท เฟส 3 สำหรับกลุ่มอายุ 16-20 ปี คาดจะแจก 2.7 ล้านคน วงเงิน 27,000 ล้านบาท ถามว่าจะออกมาช่วยเศรษฐกิจได้มากน้อยแค่ไหนนั้น นายดนุชามองว่าช่วยได้เป็นส่วนน้อยมาก ทำให้รอดูมาตรการที่ออกมาว่ามีอะไรบ้าง เรื่องการเพิ่มช่องว่างทางการคลังนั้น ต้องดูในเรื่องการจัดเก็บรายได้ที่เพิ่มขึ้น ดูวินัยการเงินการคลังเพิ่มขึ้น เพื่อรักษาช่องว่างทางการคลังที่มีอยู่ ในช่วงต่อไปการใช้จ่ายเป็นไปด้วยความระมัดระวัง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘อิ๊งค์’ แจงไม่มีนโยบายไล่แรงงานต่างด้าวออกนอกประเทศ

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีประเทศไทย เขียนข้อความผ่านโซเชียล มีเดีย ระบุว่า ประเทศไทยเปิดรับความหลากหลาย ต้อนรับแรงงานต่างชาติ

‘โจรใต้’ก้าวอีกขั้น ใช้โดรนขนระเบิด บึ้มเขตเศรษฐกิจ

โจรใต้ขยับไปอีกขั้น! แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ตรวจสอบโดรนต้องสงสัยถูกฝังดินในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา เผยบินได้ไกล 10 กม. บรรทุกน้ำหนัก 15 กิโลกรัม คาดเตรียมก่อเหตุเมืองเศรษฐกิจ-ขนสิ่งผิดกฎหมาย

‘เพื่อไทย’ดาหน้าไล่‘หนู’

เพื่อไทยดาหน้าประกาศแยกทางภูมิใจไทย “สุทิน” ชี้ “อนุทิน” แค่อยากรักษาสถานะตัวเอง ใช้วิธีต่อรอง ขู่ จี้ปรับ ครม.เร็วๆ อ้างทำให้นโยบายรัฐบาลเป็นรูปธรรม “วรชัย”

พท.เพ้อเจ้อหนัก ชั้น14ไม่โยงศาล

เพื่อไทยเพ้อหนัก! "อนุสรณ์" อ้างมติแพทยสภากับคดีชั้น 14 ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นคนละประเด็นกัน ไม่เชื่อมโยงกัน “เด็จพี่”

เขมรไปศาลโลกแล้ว ‘ฮุนเซน’ ชูนิติธรรมควํ่าโต๊ะJBCซัดไทยเหมือนรัสเซียรุกรานยูเครน

เขมรป่วนก่อนประชุม JBC “ฮุน มาเนต” ยันไปเจอกันที่ศาลโลก ยื่นข้อพิพาท 4 พื้นที่ตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาควาย และบริเวณช่องบก-มุมไบ จะไม่คุยใน JBC

นายกฯ ติดตามประชุม JBC ให้กำลังใจทีมไทย เจรจายึดหลักผลประโยชน์ประเทศ

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ติดตามความคืบหน้าในการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) ตลอดวันนี้ และได้รับรายงานความคืบหน้าประชุม ซึ่