ลาก‘ภท.’เอี่ยวฮั้วสว. ปูด10ชื่อทั้งรมช.พณ.-อดีตสส./สีน้ำเงินชงคุ้ยตัวสำรองด้วย

สภาสูงเรียงหน้าเข้ารับทราบข้อหาจาก กกต.คดีฮั้ว ลั่นไร้กังวลพร้อมชี้แจง “สิทธิกร” ข้องใจดีเอสไอ ต่อไปการเลือกตั้งทุกแบบมีอำนาจตรวจสอบ ชงคุ้ยทั้ง 200 สว.และตัวสำรอง “กกต.” เปิดสนามรบใหม่ ปูด 10 ชื่อพันคดี ส่วนใหญ่เอี่ยว "ภูมิใจไทย" ทั้ง รมช.พณ.-อดีต สส. และนักการเมืองท้องถิ่น “นันทนา” มั่นใจสัปดาห์นี้จบล่ารายชื่อ “บิ๊กอ้วน” บอกให้ลุ้น 20 พ.ค.ใครดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษ ย้ำไม่มีสงครามแดง-น้ำเงิน

เมื่อวันจันทร์ที่ 19 พฤษภาคม 2568 ถือเป็นวันแรกที่คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนส่วนกลาง คณะที่ 26 ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้เรียกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) จำนวน 55 คน มารับทราบข้อกล่าวหาคดีฮั้ว สว. โดยวันแรกมีจำนวน 22 คน ซึ่งคนแรกคือ พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา โดย พล.อ.เกรียงไกรเข้าพบคณะกรรมการสืบสวนฯ เมื่อเวลา 08.30 น.

จากนั้นนายนิพนธ์ เอกวานิช สว. เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา ก่อนให้สัมภาษณ์สั้นๆ ว่า ไม่มีอะไรมาชี้แจง  และวันนี้เตรียมข้อมูลมาพร้อม โดยสิ่งที่เตรียมมาก็คือข้อกฎหมายต่างๆ เพราะที่มีการกล่าวหานั้นเป็นการกล่าวอ้างลอยๆ ไม่ชัดเจน ซึ่งก็จะขอตอบเป็นลายลักษณ์อักษร

ในเวลา 10.00 น. พล.อ.เกรียงไกรให้สัมภาษณ์หลังเข้ารับทราบข้อกล่าวหาว่า ไม่มีอะไร แค่มารับทราบข้อกล่าวหา การซักถามของคณะกรรมการเป็นไปตามปกติ ส่วนเรื่องอะไรนั้นไม่สามารถบอกได้ โดยเป็นการชี้แจงทั้งด้วยวาจาและเอกสาร ต่างคนต่างคุยกัน ก็คุยกันอยู่แล้วว่าต้องทำอย่างไร วันนี้ก็โล่งใจและก็โล่งใจมาตลอดที่ได้ชี้แจง

ต่อมานายสิทธิกร ธงยศ สว. เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา และให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้มารับทราบข้อกล่าวหา และดูว่า กกต.จะแจ้งข้อกล่าวหาอะไร ส่วนตัวมั่นใจว่าทำตามระเบียบและข้อกฎหมายที่กำหนด แต่ที่เป็นห่วงคือการทำงานของดีเอสไอ เพราะหากคดีนี้ได้รับการพิจารณา ก็จะเป็นบรรทัดฐานในการทำคดีเลือกตั้งอื่นๆ ทั้งการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) และการเลือกตั้งท้องถิ่น ดังนั้นจึงเหมือนเป็นเครื่องมือในการแทรกแซงการทำงานของ กกต. ดีเอสไอต้องพิสูจน์ว่าทำงานภายใต้อำนาจหน้าที่ ถ้าคดีนี้ผ่านมีคดีต่อไปก็ต้องใช้บรรทัดฐานเช่นเดิม

 “หากย้อนกลับไปก่อนวันเลือก สว. จะพบกลุ่มจัดตั้งที่อยู่ในโรงแรมตรงทางเข้าเมืองธานี มีคนจำนวนมากกว่า 500 คน มีเอกสารที่ไม่แน่ใจว่าใช่โพยหรือไม่ ซึ่งมี สว.ที่เสียผลประโยชน์อยู่ในกลุ่มนี้ด้วย รวมถึง สว.ที่ใกล้ชิดพรรคการเมือง จึงตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดดีเอสไอจึงไม่ตรวจสอบ สว.กลุ่มดังกล่าวด้วย จึงขอให้ดีเอสไอตรวจสอบทั้งหมด ตัวจริง 200 คน และ สว.สำรองอีก 100 คน” นายสิทธิกรระบุ

ขณะที่นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี หรืออดีตผู้ว่าฯ ปู สว. เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา พร้อมกล่าวว่าไม่กังวล และไม่ได้เตรียมข้อมูลอะไรมาเป็นพิเศษ ส่วนมีการเตรียมคำชี้แจงอย่างไรนั้นยังไม่รู้ ขอให้ไปเจอเจ้าหน้าที่ กกต.ก่อน

เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดมาก่อน  แล้วมาโดนหางเลขแบบนี้ จะถูกมองว่าเสื่อมเสียชื่อเสียงหรือเกียรติภูมิหรือไม่ นายวีระศักดิ์ระบุว่า การเมืองก็เป็นแบบนี้ ขอให้คิดไว้ก็แล้วกัน

ด้านนายสากล ภูลศิริกุล สว.อีกคนที่เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ โดยบอกสั้นๆ ว่าไม่สะดวก

ในเวลา 15.00 น. นายอลงกต วรกี สว. ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้ารับทราบข้อกล่าวหา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง นายอลงกตเม้มปากพร้อมส่ายหัวไม่ยอมตอบคำถามใดๆ ต่อสื่อมวลชน และเมื่อสอบถามต่อเนื่อง นายอลงกตจึงตอบเป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่า “ผมพูดไม่ได้” และเมื่อถามย้ำว่า กกต.สอบถามอะไรบ้าง นายอลงกตก็ยังคงตอบเป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่า “มันไม่ใช่เป็นเรื่องลับ แต่มันเป็นเรื่องส่วนตัว”

ทั้งนี้ สื่อมวลชนพยายามสอบถามหลายครั้ง แต่นายอลงกตไม่ตอบ ย้ำเป็นภาษาฝรั่งเศสเหมือนเดิมว่า “ผมพูดไม่ได้” และ “ผมไม่อยากพูด”

สำหรับการมารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้นั้น มี สว.ที่แจ้งขอเลื่อน 2 ราย คือ 1.นายสรชาติ วิชย สุวรรณพรหม ขอเลื่อนเป็นวันที่ 28 พ.ค. เนื่องจากติดประชุมคณะกรรมาธิการ และ 2.นายวิวรรธน์ แสงสุริยะฉัตร ส่งทนายมาขอเลื่อนการชี้แจงก่อน เนื่องจากทุกวันจันทร์-อังคาร สว.จะมีประชุมสำคัญ ทั้งนี้ สว.ไม่จำเป็นต้องเดินทางมาชี้แจงด้วยตนเอง สามารถส่งคำชี้แจงเป็นเอกสารได้

มีรายงานข่าวจาก กกต.แจ้งว่า หลังจากอนุ กกต.ได้ทยอยออกหมายเรียกผู้ถูกแจ้งข้อหาในคดีฮั้ว สว.เพิ่มเติม ซึ่งเมื่อรวมกับ 55 สว.ล็อตแรก พบว่าเกินกว่า 140 คนแล้ว  โดยการออกหมายเรียกเพิ่มเติมรอบนี้มีความน่าสนใจ เนื่องจากมีรายชื่อบุคคลที่ไม่ได้เป็น สว. โดยผลการสอบสวนพบว่ามีส่วนร่วมด้วย ซึ่งมีทั้งอดีต สส., นักการเมืองระดับชาติ, นักการเมืองท้องถิ่นชื่อดัง รวมไปถึงรัฐมนตรี

เปิด 10 ชื่อหน้าใหม่คดีฮั้ว

รายงานแจ้งอีกว่า มีบางคนใน 10 รายชื่อนี้ได้รับหมาย  หรือหนังสือแจ้งให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาจากคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนของ กกต.แล้ว โดยรายชื่อที่น่าสนใจ  ประกอบด้วย 1.น.ส.วาริน ชิณวงศ์ หรือนายกน้ำ นายก อบจ.นครศรีธรรมราช 2.นายสุบิน ศักดา นักการเมืองท้องถิ่นและผู้รับเหมาใน อ.วิภาวดี จ.นครศรีธรรมราช 3.นายสมเกียรติ เลียงประสิทธิ์ นายกสมาคมประมง จ.สตูล บิดาของนายวรศิษฏ์ เลียงประสิทธิ์ สส.สตูล พรรคภูมิใจไทย (ภท.) 4.นายสมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ อดีต สส.สุโขทัยหลายสมัย ปัจจุบันคือที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย 5.นายวงศกร ชนะกิจ  อดีตผู้สมัคร สส.ภูเก็ต เขต 2 พรรค ภท. และเลขานุการประจำคณะกรรมาธิการการป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย 

6.นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2, อดีต สส.นครพนม พรรค ภท. 7.นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์  8.นายเตชสิทธิ์ ชูแก้ว สว.นครศรีธรรมราช 9.นายสมศักดิ์ จันทร์แก้ว สว.นครศรีธรรมราช และ 10.นายณัฐกิตติ์ หนูรอด สว., อดีตปลัด อบจ.พัทลุง และอดีตผู้สมัคร สส.นครศรีธรรมราช เขต 4 พรรค ภท.

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท. กล่าวถึงกรณีมีรายชื่อนายนภินทรและนายศุภชัยในคดีฮั้ว สว.ว่า "ยังไม่ทราบเลย  เดี๋ยวเค้าก็คงต้องไปชี้แจง"

ส่วนนายนภินทรกล่าวว่า ยังไม่ได้เห็นหนังสือ ทราบแต่เพียงจากข่าว ซึ่งพร้อมชี้แจงไม่มีปัญหาอะไร และพร้อมปฏิบัติตามข้อกฎหมายของทุกหน่วยงานทุกอย่าง เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองว่าไม่เกี่ยวข้อง

นายศุภชัยกล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่อง และยังไม่ได้รับหมายเรียกคดีฮั้ว สว. แต่หากมีหมายเรียกมาอย่างเป็นทางการ ก็พร้อมชี้แจงความบริสุทธิ์ว่าไม่ได้เป็นอย่างที่กล่าวหา  เพราะเป็นประชาชนธรรมดา ไม่มีบารมีอะไร และที่ผ่านมาก็ทำงานอยู่กับชาวบ้านตลอด

ขณะที่ น.ส.วารินกล่าวว่า ทราบข่าวแล้ว แต่ยังไม่ได้รับหมายเรียก ส่วนจะไปรายงานตัวเมื่อไหร่ขอดูรายละเอียดของหนังสือก่อน แต่ยืนยันว่ายินดีไป และขณะนี้ไม่มีความกังวลเชื่อว่าจะชี้แจงได้

นายวงศกรกล่าวเช่นกันว่า เพิ่งทราบเรื่อง แต่ไม่รู้สึกกังวลอะไร หาก กกต.เรียกก็พร้อมเข้าไปให้ข้อมูล เพราะในข้อเท็จจริงไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอยู่แล้ว เพราะในการสมัคร สว.อายุไม่ถึง ถ้าพูดกันตรงๆ หากอายุถึงก็คงสมัครด้วยแล้ว แต่พออายุไม่ถึง ไม่มีคุณสมบัติ ก็ไม่มีความเกี่ยวข้องในเรื่องนี้

นันทนายันจบสัปดาห์นี้

ยังคงมีความเคลื่อนไหวในการล่ารายชื่อให้ สว.หยุดปฏิบัติหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระทั้งกระบวนการ โดย น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว.ที่เป็นแกนหลักในเรื่องนี้กล่าวว่า จะพยายามเต็มที่ให้เสร็จภายในสัปดาห์นี้ และจะเร่งให้เร็วที่สุด  ซึ่งสาเหตุที่ยังร่างคำร้องไม่เรียบร้อย เพราะต้องพิจารณาเรื่องข้อกฎหมายที่มีความซับซ้อน เพราะไม่เคยมีใครโดนแจ้งข้อกล่าวหาเยอะขนาดนี้ อีกทั้งต้องรอการลงชื่อของ สว. ซึ่งมีบางส่วนเดินทางไปดูงานต่างประเทศ

น.ส.นันทนากล่าวยอมรับว่า ขั้นตอนการยื่นต่อประธานวุฒิสภาไปยังศาลรัฐธรรมนูญนั้นอาจยากกว่าการล่าชื่อ สว. 20 รายชื่อ จึงต้องถามประธานวุฒิสภาว่าจะยื่นหรือไม่ เพราะกรณี สว. 92 คนเข้าชื่อเสนอคำร้องต่อประธานวุฒิสภา เพื่อถอดถอนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ  และ รมว.กลาโหม กับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม  กรณีใช้อำนาจบอร์ดคดีพิเศษสั่งดีเอสไอสอบฮั้วเลือก สว. เข้าข่ายแทรกแซงอำนาจหน้าที่ ซึ่งประธานวุฒิสภาส่งเรื่องไปอย่างรวดเร็วภายในวันเดียวกัน

 “ไม่ใช่กระบวนการสีน้ำเงินเซแล้วเราซ้ำ แต่เกรงจะส่งผลเสียรุนแรงและเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ เมื่อ สว.เองกำลังถูกตรวจสอบ แต่จะไปเห็นชอบผู้เข้าไปดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อาจจะเป็นในลักษณะต่างตอบแทน เหมือนเลือกผู้พิพากษามาตัดสินคดีของตัวเอง จึงมิควร ดังนั้นขอร้องให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในเรื่องนี้เพื่อความสง่างาม” น.ส.นันทนากล่าว

ด้าน พล.อ.เกรียงไกรปฏิเสธให้ความเห็นเรื่องนี้ พร้อมถามกลับด้วยว่า ทำได้หรือเปล่า 

นายสิทธิกรกล่าวว่า เป็นการรับลูกกันระหว่างดีเอสไอ  สว.สำรอง และผู้ที่เสียผลประโยชน์ และ สว.อีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่ขอเอ่ยนาม เป็นหน้าที่ของเขาที่สามารถรวมรายชื่อเพื่อส่งถึงประธานวุฒิสภาได้ คงไม่ใช่กระบวนการกลั่นแกล้ง

ส่วนนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวเรื่องนี้ว่า ไม่ทราบว่าหน้าที่ส่วนนี้เป็นหน้าที่ของประธานสภาหรือไม่ ต้องดูในข้อกฎหมายก่อน และต้องเห็นข้อมูลก่อนว่าร้องเรียนประเด็นไหน เป็นอำนาจหน้าที่ขององค์กรใด หากยื่นมาทางประธานสภาต้องส่งให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบก่อน แต่การสั่งให้ สว.หยุดปฏิบัติหน้าที่ น่าจะไม่ใช่อำนาจของทั้ง 2 สภา เป็นเรื่องขององค์กรอิสระ

วันเดียวกัน ยังคงมีความคิดเห็นกรณีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 20 พ.ค. จะมีการเสนอชื่อบุคคลเข้าไปกำกับดูแลดีเอสไอแทน พ.ต.อ.ทวี ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ในการกำกับดูแลดีเอสไอ โดยนายภูมิธรรมกล่าวว่า เป็นประธานคณะกรรมการคดีพิเศษอยู่แล้ว ซึ่งเมื่อ พ.ต.อ.ทวีถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เฉพาะส่วนนี้ นายกฯ ก็ต้องหาคนดูแลแทน ฉะนั้นในวันที่ 20 พ.ค.จะปรึกษาหารือกัน หากจะเป็นรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งที่มีความรู้ที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแล ซึ่งยังไม่ได้บอกว่าจะเข้าไปดู เพียงแต่มีคนถามว่าถ้าได้รับมอบหมายจากนายกฯ ก็บอกว่าเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ถ้านายกฯ สั่งก็ต้องปฏิบัติ แต่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะเป็นใคร 20 พ.ค.ถึงจะทราบ แต่ก็ต้องเป็นคนที่มีบทบาทหน้าที่ที่เหมาะสม

เมื่อถามว่า สมมุติว่าเข้าไปดูแลเองจะมีการเร่งรัดเพื่อให้เกิดความกระจ่างหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ยังไม่มีคำสั่งให้ไปดูแล การไปสมมุติเหมือนเราอยากเข้าไปทำ ก็ทำตามหน้าที่ อย่างไรก็ตามคิดว่าตอนนี้ไม่ได้เป็นปัญหาเรื่องแดงหรือน้ำเงิน เป็นเรื่องที่คิดกันไป เราประชุม ครม.ก็คุยกัน แต่ไม่ว่าจะอยู่ใน ครม.ร่วมกันหรือคนในพรรคเดียวกัน  ถ้าทำผิดก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ผิดหรือไม่ผิดก็ต้องให้ศาลพิจารณา

 “ผมไม่ได้คิดว่ามีปัญหาเรื่องแดงน้ำเงินหรอก ก็คิดกันไป เพราะอยู่ ครม.เราก็คุยกัน หรือไม่ว่าจะเป็นคนพวกเดียวกันหรือพรรคเดียวกัน ถ้าทำผิดกฎหมายก็ว่าไปตามกฎหมาย ส่วนจะผิดหรือไม่ผิดก็ให้ศาลพิจารณา” นายภูมิธรรมกล่าว

อ้วนแจงศาล รธน.รอบ 2

เมื่อถามถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีการเรียกข้อมูลเพิ่มเติมในคดีใช้อำนาจแทรกแซงคดีฮั้ว สว. นายภูมิธรรมกล่าวว่า ขณะนี้กำลังทำเรื่องชี้แจงใหม่ โดย สว.ได้ยื่นร้องเพิ่มเติม ประมาณว่าละเลยปล่อยให้ พ.ต.อ.ทวีและดีเอสไอไปทำผิดกฎหมาย ซึ่งทนายกำลังดูคำร้องเพิ่มเติมอยู่ ถือเป็นการชี้แจงเพิ่มเติมครั้งที่ 2 ส่วนคดีที่ สว.ฟ้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตามความผิดมาตรา 157 ขณะนี้ ป.ป.ช.ยังไม่ได้เรียกไปชี้แจง แต่ถ้ามีคำร้องหรือมีข้อสงสัยก็สอบถามมาได้ ก็มีหน้าที่ชี้แจง

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงการแต่งตั้งรัฐมนตรีคนใดมากำกับดีเอสไอว่า การตั้งจะมี 2 แบบ แบบแรกคือตั้งรัฐมนตรีมาทำหน้าที่ ในกรณีรัฐมนตรีไม่อยู่ หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ซึ่งในส่วนของกระทรวงยุติธรรมยังไม่เคยมีการตั้ง ถ้าจะทำแนวทางนี้ก็เป็นหลักการทั่วไป หรืออีกกรณีแต่งตั้งตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ โดยให้รัฐมนตรีท่านใดมากำกับดีเอสไอไปเลยก็แล้วแต่จะเลือก ส่วนจะเป็นแนวทางไหนจะมีการหารือในวันพรุ่งนี้ ซึ่งคาดว่าที่ประชุมจะเลือกแนวทางที่สะดวกและสมควรกว่า

นายอนุทินกล่าวตอบข้อซักถามที่ว่า นายกฯ ได้หารือถึงการแต่งตั้งคนที่จะมาคุมดีเอสไอแทน พ.ต.อ.ทวีหรือไม่  ว่าไม่มี ตนอยู่กระทรวงมหาดไทย ไม่ได้หารือเรื่องนี้ และไม่เกี่ยวข้องกับงานที่กำกับดูแลอยู่

นายอนุทินยังกล่าวถึงกรณีนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ยื่นยุบพรรค ภท.ว่า ไม่รู้จักนายณฐพร มายื่นยุบพรรค ภท.ได้อย่างไร เป็นใครก็ไม่รู้  ไม่ได้มองอะไร ไร้สาระ เราไม่เคยทำอะไรผิด สมาชิกพรรคทุกคนทำหน้าที่ฝ่ายบริหาร และในฝ่ายนิติบัญญัติก็ทำหน้าที่สส. เขาก็ทำงานในส่วนของเขา ขอย้ำว่าไม่ได้ทำอะไรผิด

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า นายณฐพรยื่นกล่าวหาว่าพรรคภูมิใจไทยล้มล้างการปกครอง นายอนุทินหัวเราะพร้อมกล่าวว่า "ฝันกลางวัน" เมื่อถามอีกว่า นายณัฐพรเคยยื่นยุบพรรคก้าวไกลในกรณีเดียวกันนี้ นายอนุทินกล่าวว่า เป็นใครยังไม่รู้จักเลย ปัดโธ่ ยุบพรรคใครจะไปยุบได้ ใครทำผิดมาทุกคนก็ยื่นได้ ไม่ใช่ฝีมือหรือผลงานอะไรทั้งสิ้น

นางธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเหตุการณ์แห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า  กรณีฮั้ว สว.เป็นเรื่องที่คนในสังคมรับไม่ได้ ขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าเพื่อเอาคนผิดมารับโทษให้ได้  และขอส่งคำเตือนไปยัง กกต.ว่าที่แล้วมามีความผิดพลาดเยอะ แต่ครั้งนี้เป็นเรื่องที่รุนแรงมาก จึงขอให้ดำเนินการคดีฮั้ว สว.อย่างถึงที่สุด ไม่เช่นนั้นประเทศจะไม่มีความหวัง  หากพรรคเพื่อไทยต้องการพิทักษ์นายทักษิณจนมากเกินไป

“ในนามประชาชนไม่ว่าใครจะดำเนินการฮั้ว สว. ไม่ว่าจะเป็นสีแดงและสีน้ำเงิน ยอมรับไม่ได้ ไม่ได้เกี่ยวกับพรรคการเมือง แต่เกี่ยวกับหลักการ สะท้อนว่าหากทำเช่นนี้ได้หมายถึงการซื้อประเทศไทยไปแล้ว ถือเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก และหากเกิดรัฐประหารอีกครั้งหนึ่ง ประเทศไทยอาจอยู่ในภาวะ Failed State หรือรัฐล้มเหลว และเตือนไปยังกองทัพว่าหากมีการทำรัฐประหารอีกครั้ง ก็จะถือเป็นการทำลายชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์” นางธิดากล่าวและว่า พรรคการเมืองที่กำลังห้ำหั่นด้วยผลประโยชน์ที่ไม่ลงตัวต้องถอยคนละก้าว ยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘โจรใต้’ก้าวอีกขั้น ใช้โดรนขนระเบิด บึ้มเขตเศรษฐกิจ

โจรใต้ขยับไปอีกขั้น! แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ตรวจสอบโดรนต้องสงสัยถูกฝังดินในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา เผยบินได้ไกล 10 กม. บรรทุกน้ำหนัก 15 กิโลกรัม คาดเตรียมก่อเหตุเมืองเศรษฐกิจ-ขนสิ่งผิดกฎหมาย

‘เพื่อไทย’ดาหน้าไล่‘หนู’

เพื่อไทยดาหน้าประกาศแยกทางภูมิใจไทย “สุทิน” ชี้ “อนุทิน” แค่อยากรักษาสถานะตัวเอง ใช้วิธีต่อรอง ขู่ จี้ปรับ ครม.เร็วๆ อ้างทำให้นโยบายรัฐบาลเป็นรูปธรรม “วรชัย”

พท.เพ้อเจ้อหนัก ชั้น14ไม่โยงศาล

เพื่อไทยเพ้อหนัก! "อนุสรณ์" อ้างมติแพทยสภากับคดีชั้น 14 ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นคนละประเด็นกัน ไม่เชื่อมโยงกัน “เด็จพี่”

เขมรไปศาลโลกแล้ว ‘ฮุนเซน’ ชูนิติธรรมควํ่าโต๊ะJBCซัดไทยเหมือนรัสเซียรุกรานยูเครน

เขมรป่วนก่อนประชุม JBC “ฮุน มาเนต” ยันไปเจอกันที่ศาลโลก ยื่นข้อพิพาท 4 พื้นที่ตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาควาย และบริเวณช่องบก-มุมไบ จะไม่คุยใน JBC