ป.ป.ช.ไปตามนํ้า! เตรียมสอบ‘ดร.เอ้’ ข้อหารวยผิดปกติ

เลขาฯ ป.ป.ช.เผย ฟังข่าวอยู่ตลอด เมื่อตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นแล้วหากพบว่ากรณี "ดร.เอ้" ร่ำรวยผิดปกติมีมูล จะดำเนินการขยายผลต่อไป ด้าน “จุรินทร์” โวยอย่าดิสเครดิตทางการเมือง เชื่อ "สุชัชวีร์" ดูแลตัวเองได้ไม่น่าจะมีปัญหา ก้าวไกลรุกหนัก สอบการเสียภาษีด้วย

เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2565 นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ป.ป.ช.) ตรวจสอบความร่ำรวยผิดปกติของนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ทาง ป.ป.ช.จะตรวจสอบกรณีความร่ำรวยผิดปกติคู่ขนานไปกับ กมธ.ป.ป.ช.หรือไม่ ว่าประเด็นดังกล่าว ป.ป.ช.เข้าไปตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้นอยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติเวลามีประเด็นใดที่อยู่ในความสนใจของประชาชน หรือมีหน่วยงานใดเจาะข้อมูลเรื่องใด ป.ป.ช.ต้องเข้าไปดูข้อมูล

"เรื่องการร่ำรวยผิดปกติ เป็นหน้าที่โดยตรงของ ป.ป.ช.อยู่แล้ว เรื่องนี้ ป.ป.ช.ฟังข่าวอยู่ตลอด เมื่อตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นแล้วหากพบว่ามีมูลจะดำเนินการขยายผลต่อไป"

เลขาฯ ป.ป.ช.กล่าวว่า การตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของนายสุชัชวีร์ระหว่างปฏิบัติหน้าที่เป็นอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ที่มีการร้องเรียนต่อกมธ.ป.ป.ช. ประเด็นเอื้อประโยชน์ให้บริษัทที่มีความใกล้ชิดกับนายสุชัชวีร์ได้รับงานนั้น ป.ป.ช.กำลังรับฟังข้อมูลเรื่องนี้อยู่ กำลังรอดูข้อมูลความชัดเจน ถ้ามีความชัดเจนก็พร้อมเข้าไปตรวจสอบ

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายสุชัชวีร์ได้ให้สัมภาษณ์สื่อไปแล้วว่าพร้อมให้มีการตรวจสอบ และมั่นใจมาก เชื่อว่าผู้ที่ติดตามสถานการณ์การเมืองคงจะคาดเดาได้ว่าการยื่นเรื่องหรือการดำเนินการของ กมธ.ป.ป.ช. หากนายสุชัชวีร์ไม่ได้ประกาศตัวเป็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เหตุนี้ก็ไม่น่าจะเกิดขึ้น ฉะนั้นคนที่ติดตามทางการเมืองก็พอจะคาดเดาได้ว่าเป็นเรื่องทางการเมืองหรือไม่ อย่างไรก็ตาม กมธ.ป.ป.ช.ต้องระมัดระวังในการนำรายละเอียดหรือกระบวนการตรวจสอบที่ยังไม่มีข้อสรุปออกมาเปิดเผย ซึ่งไม่ว่าจะเป็น กมธ.ชุดไหนก็ต้องระมัดระวัง เพราะอาจจะเป็นเรื่องทางการเมือง และเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายได้

เมื่อถามว่า การตรวจสอบของ กมธ.ในสภาผู้แทนราษฎร เท่ากับเป็นการใช้ตำแหน่ง ส.ส.ให้คุณหรือให้โทษแก่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคการเมืองอื่นหรือไม่ นายจุรินทร์บอกว่า ไม่ขอตอบในส่วนนี้ แต่นี่คือสิ่งที่เตือนว่าต้องระมัดระวัง อย่าให้กลายเป็นการดิสเครดิตทางการเมือง เพราะใน กมธ.ก็มีสมาชิกพรรคการเมืองหลายพรรคอยู่ รวมถึงพรรคที่ส่งผู้สมัครลงแข่งกับนายสุชัชวีร์ด้วย

ถามต่อว่า พรรคประชาธิปัตย์จะให้ฝ่ายกฎหมายช่วยดูเรื่องการชี้แจงรายละเอียดทรัพย์สินหรือไม่ เพราะนายสุชัชวีร์ยังถือว่าเป็นหน้าใหม่ทางการเมือง หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่า นายสุชัชวีร์ดูแลตัวเองได้ คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา

ด้านนายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช และรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ก็มีข่าวว่าทาง ป.ป.ช.ได้เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินกรณีที่นายสุชัชวีร์ดำรงตำแหน่งอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ครบ 3 ปี ก่อนจะลาออกเพื่อลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.กับทางพรรค พร้อมกับภรรยาคือนางสวิตตา ซึ่งทาง กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ ของสภาก็สามารถขอข้อมูลหรือดาวน์โหลดในเว็บของทาง ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาในเบื้องต้นได้

“หากทาง กมธ.ป.ป.ช.จะดำเนินการเรื่องนี้ต่อไปโดยการเชิญคุณสุชัชวีร์ไปชี้แจงนั้น ก็ไม่ใช่ปัญหาของทางคุณสุชัชวีร์อยู่แล้ว แต่เกรงว่าทาง กมธ.ป.ป.ช.เอง อาจจะถูกครหาว่าดำเนินการโดยมีเรื่องการเมืองแอบแฝง ซึ่งท้ายที่สุดเรื่องที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชนที่เป็นอำนาจของทาง กมธ.ป.ป.ช.ที่รอให้พิจารณานั้น ช้ากว่าเรื่องที่เป็นประเด็นทางการเมืองดังที่ปรากฏผ่านสื่อที่ผ่านมาในการทำงานของ กมธ.ชุดนี้ด้วย” นายชัยชนะกล่าว

นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษก กมธ.ป.ป.ช. กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ส่งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นนายสุชัชวีร์มาให้กมธ.เป็นจำนวนมาก ในวันที่ 10 ก.พ.จะมีผู้ร้องเรียนนำประเด็นเพิ่มเติมมาส่งให้กมธ.อีก เป็นคนละคนกับที่ร้องเรียน กมธ.ก่อนหน้านี้ จะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของนายสุชัชวีร์ระหว่างเป็นอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) และเบื้องหน้าเบื้องหลังทรัพย์สินของนายสุชัชวีร์ จะทำให้ข้อมูลมีน้ำหนักชัดเจนมากขึ้น

นายธีรัจชัยกล่าวว่า ส่วนประเด็นเรื่องการมีรายได้จากเบี้ยประชุมและโบนัสปีละ 5.5 ล้านบาท มากกว่ารายได้จากเงินเดือนจำนวนกว่า 1 ล้านบาทต่อปี จากการสอบถามรักษาการอธิการบดี สจล. ทราบว่าไม่ใช่เบี้ยประชุมหรือโบนัสที่มาจาก สจล. น่าจะเป็นเบี้ยประชุมจากหน่วยงานอื่น ซึ่งมีประเด็นต้องตรวจสอบต่อไปว่าเป็นหน่วยงานใดบ้าง และนายสุชัชวีร์เอาเวลาราชการไปทำงานในหน่วยงานอื่นหรือไม่ แต่ถ้าเป็นการไปรับงานนอกเวลาราชการก็น่าจะทำได้

รวมถึงประเด็นการเสียภาษีของนายสุชัชวีร์ ขณะนี้กำลังรอกรมสรรพากรส่งข้อมูลเสียภาษีย้อนหลัง 6 ปีของนายสุชัชวีร์มาให้ กมธ. เพราะมีข้อสงสัยว่าการที่นายสุชัชวีร์เสียภาษี 900,000-1,000,000 บาท ในช่วง 3 ปีหลัง สอดคล้องกับรายได้ปีละ 12 ล้านบาทหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับโครงการก่อสร้าง 5-6 โครงการของ สจล. ช่วงที่นายสุชัชวีร์เป็นอธิการบดี ให้บริษัทที่มีความใกล้ชิดกับนายสุชัชวีร์เป็นผู้ได้งาน จะต้องเรียกมาสอบว่าเป็นจริงหรือไม่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง