เมื่อวันพุธ มีความเคลื่อนไหวการปรับ ครม.อิ๊งค์ 2 โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ไปพบกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่กระทรวงมหาดไทย เวลา 16.00 น. เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. เพื่อเจรจาขอคืนกระทรวงมหาดไทย โดยเอากระทรวงสาธารณสุข มาแลก และพ่วง รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีอีก 1 ตำแหน่ง แต่นายอนุทินตอบปฏิเสธทันทีอย่างชัดเจนว่า ไม่รับ
ขณะที่ความเคลื่อนไหวของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อเวลา 10.00 น. เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจการเชื่อมโยงและปรับปรุงฐานข้อมูลประชาชนในกลุ่มเปราะบางและกลุ่มคนพิการ และการจัดทำฐานข้อมูลผู้สูงอายุตามสิทธิ/สวัสดิการที่จะได้รับรายบุคคลเพื่อบูรณาการข้อมูลจากทุกภาคส่วนที่ขับเคลื่อนงานด้านผู้สูงอายุ ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล โดยนายกฯ มีสีหน้านิ่งและเคร่งขรึม พร้อมถอนหายใจเสียงดังระหว่างเดิน
ต่อมาเวลา 10.40 น. ผู้สื่อข่าวสอบถามนายกฯ หลังยื่นเงื่อนไข 48 ชั่วโมงไปยังนายอนุทินหรือยัง โดยนายกฯ ตอบเพียงสั้นๆ ว่า “ยังไม่ได้คุย” เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า เหมือนนายอนุทินปฏิเสธมาแล้ว เราจะตัดจบปรับเลยหรือไม่ นายกฯ ไม่ตอบคำถามดังกล่าว ก่อนเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าทันที
เวลา 13.00 น. ที่กระทรวงพลังงาน น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายอนุทินเปิดความในใจไปหมดแล้ว นายกฯ มีความในใจอะไรจะพูดหรือไม่ว่า ไม่มี
เมื่อถามว่า สรุปนายกฯ ได้แจ้งกับ ภท.ไปแล้วใช่หรือไม่เรื่องเงื่อนไขการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายกฯ กล่าวว่า ยังค่ะ เมื่อถามอีกว่านายอนุทินออกมาชัดเจนว่าจะไปเป็นฝ่ายค้าน นายกฯ ได้พยักหน้า
ช็อกมินต์จบเห่
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ระบุถึงกรณีที่นายอนุทินให้สัมภาษณ์ไม่คิดว่าจะมาถึงจุดนี้ เพราะมีข้อตกลงกันตอนร่วมรัฐบาล โดยนายภูมิธรรมถามกลับว่า เขาให้สัมภาษณ์ที่ไหน เขาพูดคำนี้หรือ ต้องถามนายอนุทินว่าถึงจุดนี้คือจุดไหน
เมื่อถามย้ำว่า ข้อตกลงมีอยู่ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ในส่วนที่ตนเกี่ยวข้อง ตัวแทนพรรค พท.วันนั้นมีประเด็นเดียวคือไม่มีเรื่อง ม.112 ร่วมรัฐบาลกันได้ และพูดถึงกรอบใหญ่ว่า ถ้าเห็นด้วยกับพรรคแกนนำหลักว่า นโยบายส่วนหนึ่งคือ ยกเว้นเรื่อง ม.112 ถ้าเป็นไปได้ก็ร่วมกันได้ ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องตำแหน่งหรือเรื่องอะไรเลย
เพราะเราไม่เอาเรื่อง ม.112 อยู่แล้วก็ชัดเจน จะเรียกว่าปฏิญญาช็อกมินต์ก็นี่แหละคือไม่เอา ม.112
เมื่อถามอีกว่า เรื่องการแบ่งกระทรวงเป็นการพูดคุยกันอีกระดับหนึ่งใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ถ้าพูดช็อกมินต์มีแค่นี้ แต่เรื่องแบ่งกระทรวงอยู่ที่การตั้งรัฐบาล ต้องมีการคุยอยู่แล้ว เป็นสเต็ปต่อไป ซึ่งมีเงื่อนไขของแต่ละพรรคต่างๆ นานาไป
ด้าน นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ระบุถึงกรณีนายอนุทินไม่รับข้อเสนอ โดย นพ.พรหมินทร์ระบุว่า ไม่มีปัญหา ทุกคนมีท่าที
ขณะที่นายอนุทินระบุว่า เมื่อวาน นพ.พรหมินทร์ได้มาหารือกัน ซึ่งตนได้ปฏิเสธไปแล้ว เพราะมันผิดข้อตกลง แต่ นพ.พรหมมินทร์บอกว่าเป็นความต้องการของพรรคเพื่อไทย โดยใช้คำว่าไพ่ใบสุดท้าย เมื่อเริ่มต้นมาเช่นนี้ไม่ต้องรอ 2-3 วันตอบได้เลย และตนเองได้ตอบไปแล้ว
เมื่อถามว่า เมื่อ นพ.พรหมินทร์ได้ยินคำตอบก็ยกหูหานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีทันทีใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เหรอ อันนี้ไม่ทราบ แต่ก็คงเป็นอย่างนั้น เพราะท่านมาหาถึงกระทรวงมหาดไทย คงได้รับการร้องขอให้มาหาตนเองที่กระทรวง
“เขาก็บอกว่าพูดกันตรงๆ เลยอยากได้กระทรวงมหาดไทยกลับคืนไป ผมก็บอกพูดกันตรงๆ ให้ไม่ได้” นายอนุทินระบุ
เมื่อถามย้ำว่า เคยคิดหรือไม่ว่าจะเดินมาถึงจุดนี้กับรัฐบาลเพื่อไทย นายอนุทินกล่าวว่า ไม่เคยคิด เพราะคิดว่าทุกคนจะรักษาข้อตกลง แต่ไม่เป็นไร ถ้าข้อตกลงรักษากันไม่ได้ เราก็ต่างคนต่างไป
เมื่อถามว่า หากเป็นฝ่ายค้านมองว่าอายุรัฐบาลจะสั้นหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า หากเป็นฝ่ายค้านก็คงทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างอย่างเต็มที่ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการเล่นเกมอะไร ต้องทำตามบทบาท
เมื่อถามถึงเอกภาพของเสียงพรรคภูมิใจไทย 77 เสียง จะไปด้วยกันใช่หรือไม่ ในขณะที่พรรคเพื่อไทยมั่นใจว่าจะมีเสียงมาเติมฝั่งรัฐบาล นายอนุทินกล่าวว่า เชื่อมั่นในตัวนายกรัฐมนตรี ทราบดีว่าอะไรเป็นอะไรในการจัดตั้งในการจัดตั้งรัฐบาล ที่มีองค์ประกอบที่มาจากพรรคการเมือง มาจากการเลือกตั้งของประชาชนจริงๆ ไม่ใช่เอา สส.ของพรรคอื่นมาประกอบ
“ผมเชื่อมั่นว่าไม่มีนายกรัฐมนตรีคนไหนที่อยากมีโครงสร้างรัฐบาลที่อยู่ได้เพราะเอางูเห่ามาค้ำยัน ซึ่งผมได้ข่าวมาว่ามีคนพูดว่าไปก่อนแล้วค่อยเอางูเห่ามา แต่ผมเชื่อว่าไม่ใช่สิ่งที่เหมาะสม เพราะรัฐบาลควรมีองค์ประกอบที่เป็นนักการเมืองที่เริ่มต้นด้วยกันมาตั้งแต่แรก ซึ่งที่ผ่านมาเราสนับสนุนมาโดยตลอด” นายอนุทินระบุ
เวลา 13.35 น. นายอนุทินกล่าวถึงกรณีหากทำหน้าที่ฝ่ายค้าน พรรคภูมิใจไทยมีจุดยืนในร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถานบันเทิงแบบครบวงจรหรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์อย่างไรว่า ก็ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน
เก็บของเรียบ
เมื่อถามว่า จะทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างไรบ้าง นายอนุทินกล่าวว่า มีคนปรามาสเยอะว่าพรรค ภท.ไม่เคยเป็นฝ่ายค้าน พรรค ภท.เคยเป็นแล้วเมื่อปี 2554 ทำไมจะไม่เคยเป็น แต่ตอนนั้นหัวหน้าชื่อนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล แต่ตอนนี้หัวหน้าชื่อนายอนุทิน แล้วนี่มีคนมาปรามาสว่าพรรค ภท.ไม่เคยเป็นฝ่ายค้าน เดี๋ยวจะทำให้ดู เดี๋ยวตนจะไปฝึกกับ น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน
เมื่อถามว่า จะต้องมีการหารือกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในการทำหน้าที่ฝ่ายค้านหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ตอนนี้ พล.อ.ประวิตรอยู่ต่างประเทศ แต่ได้มีการหารือกับนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค พปชร.และทีมงานของท่านอยู่ ซึ่งท่านก็บอกว่ามาอยู่ด้วยกัน
เมื่อถามว่า ยืนยันว่าจะสามารถทำงานกับพรรคประชาชนเป็นฝ่ายค้านได้ใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ได้สิ เรื่องต่างๆ ข้อมูลต่างๆ ก็สอดรับกันดี เวลาอะไรไม่ถูกต้องเราก็ทำอย่างชัดเจน ยิ่งพอไปเป็นฝ่ายค้านเราก็ค้านได้สบายใจหน่อย
รายงานข่าวแจ้งว่า ตั้งแต่ช่วงเช้า ทีมงานของนายอนุทินได้เริ่มทยอยเก็บของที่ห้องทำงาน รมว.มหาดไทย รวมถึงทีมงานของนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย และ น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย
เวลา 15.10 น. นายอนุทินระบุว่า ขณะนี้ตนเองได้เริ่มเก็บของในห้องทำงานที่กระทรวงมหาดไทย และห้องรองนายกรัฐมนตรีที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาลแล้ว ซึ่งโดยส่วนตัวย้ายเข้าๆ ออกๆ มาหลายรอบแล้ว ประมาณ 4-5 รอบ ซึ่งตอนปี 2549 ยิ่งกว่านี้อีก เพราะตอนเช้ายังเป็นรัฐมนตรี ช่วงบ่ายโดนปฏิวัติ
เมื่อถามว่า คนสัดส่วนพรรคภูมิใจไทยจะลาออกทุกตำแหน่งหรือไม่ ทั้งนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 และนายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอนุทินกล่าวว่า นายภราดรแจ้งตนมาแล้วว่าเป็นเช่นนั้น ซึ่งเราไปบังคับเขาไม่ได้ อยู่ที่เขา
เวลา 15.37 น. นายอนุทินเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า ถ้านายกรัฐมนตรีแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก และแคนดิเดตนายกฯ คนต่อไปคือนายอนุทิน พร้อมหรือไม่ โดยนายอนุทินหัวเราะก่อนกล่าวว่า “แค่นี้ยังเอาตัวเองไม่รอดเลยอีหนูเอ๊ย” เดี๋ยวจะเข้ากระทรวงก่อน และหันไปพูดเสียงเบาว่า “ไปเก็บของ” พร้อมหัวเราะ
เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับคำถามที่ว่าพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว นายอนุทินกล่าวว่า ตอนนี้ยังเป็นรัฐมนตรีอยู่
ที่รัฐสภา นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ยอมรับว่าหากพรรคภูมิใจไทยถอนตัวออกจากรัฐบาล การทำงานของรัฐบาลก็จะลำบาก รัฐบาลเคยมีเสียงปริ่มน้ำมาแล้ว ทำงานลำบาก และเชื่อว่าไม่น่าจะมีการข้ามขั้ว โดยพรรคประชาชนมาเป็นรัฐบาล เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก การยุบสภาจะง่ายกว่า แต่เรื่องสำคัญที่สุดคือร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 ถ้าไม่ผ่านก็จบเห่กันหมด ตรงนี้จะเป็นทั้งตัวปัญหา และตัวประคอง เป็นทั้งไฟและน้ำ ดังนั้นเดือน ต.ค.ก็คงจะรู้กัน
น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ระบุว่า เดี๋ยวคงจะได้คำตอบว่าเราจะต้องต้อนรับพรรคไหนมาเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือไม่”
เมื่อถามว่า เสียงของฝ่ายค้านจะเยอะขึ้น เป็นผลดีหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า ใช่ และคงใกล้กันมากขึ้นระหว่างฝ่ายค้านและรัฐบาล อำนาจต่อรองของฝ่ายค้านเพิ่มขึ้นมาก
นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการ พปชร. ระบุว่า “โหย เป็นพรรคพวกเก่ากันกับภูมิใจไทย สนิทกันอยู่แล้ว คิดว่าถ้าภูมิใจไทยออกมา รัฐบาลของเพื่อไทยอายุสั้นลงกว่าเดิม ไม่พ้นปีนี้หรอก"
ขณะที่นายชัชวาล แพทยาไทย สส.ร้อยเอ็ด พรรคไทยสร้างไทย กล่าวปฏิเสธกระแสข่าวที่รัฐบาลอ้างถึง สส.จำนวน 6 คนจากพรรคไทยสร้างไทย เตรียมให้การสนับสนุนรัฐบาลว่า "ขอยืนยันว่าผมและพรรคไทยสร้างไทยยังคงรักษาจุดยืนในการเป็นพรรคฝ่ายค้าน ไม่ทรยศอุดมการณ์ และคำมั่นที่ได้ให้ไว้กับพี่น้องประชาชน"
พท.ดิ้นพล่าน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า พรรคร่วมรัฐบาลเดิมที่มี 332 เสียง เหลือ สส.ทั้งหมด 261 เสียง ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย 142 เสียง, พรรครวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง, พรรคกล้าธรรม 26 เสียง บวกกับอีก 5 เสียง สส.งูเห่า ประกอบด้วย น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี พรรคประชาชน, นางกาญจนา จังหวะ สส.ชัยภูมิ พรรคพลังประชารัฐ, นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ นางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ สส.อุบลราชธานี และนางสุภาพร สลับศรี สส.ยโสธร พรรคไทยสร้างไทย, พรรคประชาธิปัตย์ 25 เสียง, พรรคชาติไทยพัฒนา 10 เสียง, พรรคประชาชาติ 9 เสียง, พรรคชาติพัฒนา 3 เสียง, พรรคไทรวมพลัง 2 เสียง, พรรคเสรีรวมไทย 1 เสียง, พรรคประชาธิปไตยใหม่ 1 เสียง และพรรคไทยก้าวหน้า 1 เสียง
ขณะที่พรรคร่วมฝ่ายค้านจะมี 234 เสียง ประกอบด้วย 1.พรรคประชาชน เหลือ 142 เสียง 2.พรรคภูมิใจไทย 69 เสียง กับอีก 2 สส.อุดรธานี พรรคไทยสร้างไทย 3.พรรคพลังประชารัฐ เหลือ 19 เสียง 4.พรรคไทยสร้างไทย เหลือ 1 เสียง และพรรคเป็นธรรม 1 เสียง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ สส.ในสภามีทั้งสิ้น 495 คน องค์ประชุมกึ่งหนึ่งคือ 248 คน เสียงพรรคร่วมรัฐบาลที่มีอยู่ 261 เกินเสียงกึ่งหนึ่งเพียง 13 เสียง ขณะนี้ทางแกนนำพรรคเพื่อไทยและแกนนำพรรคร่วมอื่นๆ ต่างพยายามหาเสียงจาก สส.ซีกฝ่ายค้าน อาทิ กลุ่มของนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่มี สส.ในกลุ่มอย่างน้อย 6 เสียง ซึ่งมีความเป็นไปได้สูง และอาจจะรวมไปถึง สส.บางกลุ่มในพรรคพลังประชารัฐด้วย ขณะที่พรรคไทยสร้างไทย จากเดิมอยู่กับพรรคกล้าธรรม 2 เสียง และไปเปิดตัวกับพรรคภูมิใจไทย 2 เสียง และอีก 1 เสียงที่ยังอยู่ที่เดิม ก็จะกลับมารวมตัวกันเป็น 5 เสียงอีกครั้งเพื่อรวมตัวมาเข้าร่วมรัฐบาลในนามพรรคไทยสร้างไทย นอกจากนี้ยังประสานไปยัง สส.ของพรรคภูมิใจไทยหลายคน เพื่อให้เข้ามาเติมเสียงให้กับรัฐบาล โดยใช้เก้าอี้รัฐมนตรีสัดส่วนของพรรคภูมิใจไทยที่ว่างลง 8 ตำแหน่งเป็นแรงจูงใจ ทำให้ขณะนี้ทางพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้วางตัวคนมานั่งตำแหน่งที่ว่างลง ต้องให้เสียงที่เพิ่มเข้ามานิ่งและลงตัวก่อนแล้วค่อยจัดสรร
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พรรคแกนนำยังไม่ได้เกลี่ยโควตารัฐมนตรี เพราะต้องการให้เสียง สส.ที่จะเติมเข้ามานิ่งก่อน จากนั้นค่อยเกลี่ยเก้าอี้ให้ส่วนที่เพิ่มเข้า แล้วจึงจัดสรรโควตาที่ยังว่างอยู่ให้กับพรรคร่วมรัฐบาลเดิม เพื่อต้องการทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพมากที่สุด โดยเบื้องต้นจะพยายามทำให้ทุกอย่างลงตัวภายในสิ้นเดือน มิ.ย.นี้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘แม้ว’ เสี่ยงคุก10ปี ‘อดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา’ยันเอาผิดครอบงำชี้นำ เพื่อไทยได้
ส่อล้มทั้งกระดาน! อดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกาชี้ "ทักษิณ" น่าจะครอบงำและชี้นำกิจกรรมพรรคเพื่อไทยจนอาจถูกยุบพรรคได้
พท.โต้แจกกล้วย8หลัก
เพื่อไทยดาหน้าปฏิเสธแจกกล้วยงูเห่าภูมิใจไทย ประธานวิปรัฐบาลยัวะ! ย้อนในอดีตภูมิใจไทยเป็นงูเห่าหรือเปล่า ลั่นผู้แทนไม่ใช่ทาส ยันคุมเสียงปริ่มน้ำได้
'ทักษิณ' ต้นเหตุประเทศตีบตัน ดิ้นขอ 'ดีลใหม่' หวังหาทางรอด
บนความขัดแย้งทางการเมืองของประเทศไทยในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ปฏิเสธไม่ได้ว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คือ ใจกลางปัญหา และมีบทบาทสำคัญที่จะทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงหรือเกิดวิกฤตจนถึงทางตัน
ได้กลิ่นเลือกตั้งโชย ธรรมนัสขอ70ที่นั่ง
ส่อใกล้เลือกตั้ง “ธรรมนัส” สัมมนาพรรค ปลื้มโตไว จาก 4 เป็น 20 ประกาศผมคือคนบ้า กล้าทำ กล้าคิด ลั่นสมัยหน้าต้องมี สส. 70 ที่นั่ง ส่งสัญญาณรบ
มาจากแอฟริกา โรคฝีดาษวานร ป่วยสะสม40คน
เตือนสถานการณ์ "ฝีดาษวานร" 2568 พบผู้ป่วยสะสมแล้ว 40 คน แนะสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ หากมีประวัติเดินทาง
ยกคำร้องคดีฮั้วขอนแก่น ‘กกต.’เผยไร้หลักฐานมัด!
“กกต.” ยกคำร้อง 22 ผู้สมัคร สว.ขอนแก่นปมฮั้ว ชี้ไต่สวนพยานและเส้นทางการเงินไม่พบข้อสงสัย ระบุผู้ร้องกล่าวอ้างลอยๆ