หุ้นร่วงหนัก 25.85 จุด ผวาเสถียรภาพรัฐบาล-ม็อบไล่นายกฯ ภาคเอกชนยอมรับคลิป "อิ๊งค์" คุย "ฮุน เซน" กระทบเชื่อมั่น ทำเศรษฐกิจเสี่ยง บี้ตัดจบโดยเร็ว นักเศรษฐศาสตร์แนะตั้ง "รัฐบาลแห่งชาติ" ทางออกดีสุด บริหาร 1-2 ปี รีเซตทุกอย่างให้หมด ประเทศเดินต่อไปได้
เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน บรรยากาศการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน นักลงทุนกังวลเสถียรภาพรัฐบาล และประชาชนเริ่มชุมนุมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก ทำให้มีการเทขายหุ้นลดความเสี่ยง ส่งผลให้ ณ เวลา 17.02 น. ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,068.73 จุด ลดลง 25.85 จุด หรือ 2.36% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 46,634.59 ล้านบาท ระหว่างวันปรับตัวลงทำจุดต่ำสุดที่ 1,066.07 จุด และสูงสุดที่ 1,085.71 จุด ส่วนตลาดเอ็มเอไอ ปิดที่ 226.30 จุด ลดลง 4.06 จุด หรือ 1.76% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 275.02 ล้านบาท
นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย และนักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจัยเรื่องการเมือง ตลาดหุ้นไทยตอบรับลดลงไปแล้วนับตั้งแต่กลาง พ.ค.ถึงปัจจุบันประมาณ 10% ซึ่งเทียบกับอดีตสถานการณ์คล้ายๆ กัน ร่วงลง 15% และหลังจากนี้ต้องติดตามความกังวลเรื่องชุมนุม แนะนำนักลงทุนชะลอลงทุนรอดูสถานการณ์
ทางด้านนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทั้งสถานการณ์สู้รบในตะวันออกกลางระหว่างอิหร่านกับอิสราเอลที่รุนแรงมากขึ้น และการเจรจากำแพงภาษีระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริกายังไม่รู้ว่าจะมีออกมาเป็นอย่างไร เป็นไปในทิศทางที่ดีหรือไม่ เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านหรือคู่แข่ง หากผลออกมาไทยเสียเปรียบ จะยิ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออกและเศรษฐกิจภายในประเทศในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ประกอบกับปัญหาชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ทำให้ไทยเผชิญความเสี่ยงมากกว่าที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
โดยเฉพาะกรณีคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีของไทยกับอดีตนายกรัฐมนตรีของกัมพูชานั้น ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประเทศไทย และเป็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจอีกหนึ่งปัจจัยที่เพิ่มขึ้นมาภายในประเทศของเราเอง ซึ่งการที่พรรคภูมิใจไทยประกาศลาออกทั้งที่เป็นพรรคที่มีจำนวน สส.มาก ต้องคอยติดตามดูว่ารัฐบาลจะมีพรรคร่วมหรือจำนวนเสียงเป็นอย่างไรต่อไป
“ยอมรับว่าสถานการณ์ขณะนี้น่ากังวลมากขึ้น เนื่องจากประเด็นที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องใหม่ที่เพิ่มเข้ามาจากความไม่แน่นอนทางการเมือง ซึ่งเป็นปัจจัยภายในประเทศ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นภาคเอกชนก็คงต้องคอยติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่าเสถียรภาพของรัฐบาลจะเป็นอย่างไร จะมีจำนวนพรรคร่วมเท่าไหร่ และทิศทางต่อไปจะเป็นอย่างไร" นายเกรียงไกรระบุ
นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า คลิปเสียงสนทนาระหว่างนายกฯ ไทยกับอดีตนายกฯ กัมพูชา กระทบต่อเสถียรภาพการเมืองของไทย แต่สิ่งที่ภาคเอกชนมองคือต้องรีบจบโดยเร็วและให้มีความชัดเจนว่าจะออกมาในรูปแบบใด และเป็นที่ยอมรับได้ทั้งภาคประชาชนภาคสังคมและต่างประเทศ ไม่เช่นนั้นปัญหาเรายังจะมีอยู่
ทั้งนี้ หากนายกฯ ลาออก คณะรัฐมนตรี (ครม.) จะไปทั้งชุด นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง ที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการเจรจากับสหรัฐ จะดำเนินการยังไง หากต้องรอจัดตั้งคณะเจรจาใหม่ยังไม่ทราบว่าเมื่อไหร่ ซึ่งหากจบช้ากว่าที่จะครบกำหนด 90 วัน ในวันที่ 8 ก.ค. ตามเวลาสหรัฐ หรือวันที่ 9 ก.ค. ตามเวลาในประเทศไทย จะเหนื่อย แต่ถ้าหากยุบสภา ครม.รักษาการ ยังคงทำงานได้ จนกว่าเลือกตั้งใหม่
"สิ่งที่กังวลคือรัฐจะใช้งบ 1.57 แสนล้านบาทอย่างไร รวมถึงการส่งออก ยอมรับว่าไทยอยู่ท่ามกลางพายุเศรษฐกิจ ทั้งความขัดแย้ง สงครามการค้า ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่รุนแรงมากขึ้น แต่ปัจจัยที่กังวลมากที่สุดในขณะนี้คือเสถียรภาพทางการเมืองไทย ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจมากกว่าปัจจัยภายนอกประเทศ จึงต้องการให้เกิดความชัดเจนโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจเสียหาย และหากไม่จบเร็วมีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดความวุ่นวายขึ้น" นายพจน์ระบุ
ขณะที่ รศ.ดร.มนตรี โสคติยานุรักษ์ นักเศรษฐศาสตร์ คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวว่า เมื่อการเมืองไทยแบ่งเป็น 3 ขั้ว คือ 1.พรรคเพื่อไทยและพรรคเล็ก 2.ภูมิใจไทยและ สส.พันธมิตร 3.พรรคประชาชน ซึ่งคงรวมกันลำบาก เมื่อเสียงแต่ละกลุ่มปริ่มน้ำ จะเกิดปัญหาการพิจารณางบประมาณรายจ่ายปี 69 อาจล่าช้าออกไป 5-6 เดือน เมื่อเงินลงทุนไม่ออกสู่ระบบจะกระทบเศรษฐกิจหนักมาก เหมือนช่วงรัฐบาล “เศรษฐา 1” กว่างบประมาณจะผ่านสภาต้องใช้เวลาหลายเดือน จึงไม่อยากให้มีวิกฤตปัญหาซ้ำเดิมอีก สำหรับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.1 แสนล้านบาท คงไม่ต้องหวังในช่วงนี้ต้องถูกแช่เข็งไปก่อนแน่นอน
ทางออกปัญหาการเมืองขณะนี้มีอยู่ 3 ทาง คือ 1.นายกรัฐมนตรีตัดสินใจยุบสภา หากเลือกแนวทางนี้ยุบสภา การเจรจาภาษีศุลกากรกับสหรัฐจะไม่คืบหน้า เพราะไม่คุยกับรัฐบาลรักษาการ ปัญหาชายแดนกัมพูชาจะไม่คลี่คลาย เพราะรัฐบาลรักษาการตัดสินใจไม่ได้ จึงมีความเสี่ยงมาก และเมื่อไม่มีคณะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณปี 69 จะเบิกจ่ายได้เฉพาะเงินเดือนและงบประจำ ทำให้งบลงทุนไม่ออกสู่ระบบ กระทบไปอีกหลายส่วน หากเลือกตั้งใหม่ กว่าจะได้รัฐบาลงบประมาณออกสู่ระบบกลางปีหน้า
2.นายกฯ ลาออก ยังมีสภาพิจารณากฎหมาย แต่เมื่อคะแนนเสียงปริ่มน้ำของทั้ง 3 กลุ่ม การผ่านร่างกฎหมายต่างๆ จะทำได้ยาก การปรับคณะรัฐมนตรี หรือเลือกตั้งนายกฯ จะใช้เวลาอีกนาน ในการใช้คะแนนเสียง ยังมีปัญหาต่อเศรษฐกิจ 3.การจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ด้วยการให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน ยอมดึงคนเก่ง คนดี มีชื่อเสียง เข้ามาบริหารในช่วง 1-2 ปี เพื่อรีเซตทุกอย่างให้หมด ประเทศจะเดินหน้าต่อไปได้ การเจรจาภาษีศุลกากรกับสหรัฐ ปัญหาชายแดนกัมพูชา เมื่อมีรัฐบาลตัวจริงบริหารประเทศจะเดินหน้าต่อไปได้
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี อดีตประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การตั้ง "รัฐบาลแห่งชาติ" เป็นทางออกของประเทศ เพื่อให้ทุกฝ่ายหันมาร่วมกันทำเพื่อประเทศ 1-2 ปี เพราะทุกกลุ่มทุกก๊วนล้วนสะสมกำลัง เตรียมการเอาไว้พร้อมแล้ว เพราะการแบ่งออกเป็น 3 ขั้วทางการเมือง จะเดินหน้าไปลำบาก หากทุกกลุ่มไม่ยอมหาทางออกร่วมกัน ประเทศจะย่ำแย่ เศรษฐกิจทรุดต่ำลง ธนาคารโลกหรือหน่วยงานอื่นๆ คาดการณ์จีดีพีไทยในปี 68 โตร้อยละ 1.6-1.7 โดยยังไม่รวมปัญหาการเมืองในปัจจุบัน อาจแย่ลงไปอีก จึงเห็นใจเอสเอ็มอีและคนตัวเล็ก และทำให้คนเก่งคนดีเข้ามาเล่นการเมืองลำบากขึ้น
นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานยุทธศาสตร์ สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย แสดงความเห็นเช่นเดียวกันว่า ทางออกที่ดีคือการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ด้วยการให้ทุกฝ่ายมองเห็นประโยชน์ประเทศเป็นหลัก ร่วมกันขับเคลื่อนทั้งด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง ให้เป็มทีมเวิร์กเดียวกัน เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหา.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘แม้ว’ เสี่ยงคุก10ปี ‘อดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา’ยันเอาผิดครอบงำชี้นำ เพื่อไทยได้
ส่อล้มทั้งกระดาน! อดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกาชี้ "ทักษิณ" น่าจะครอบงำและชี้นำกิจกรรมพรรคเพื่อไทยจนอาจถูกยุบพรรคได้
พท.โต้แจกกล้วย8หลัก
เพื่อไทยดาหน้าปฏิเสธแจกกล้วยงูเห่าภูมิใจไทย ประธานวิปรัฐบาลยัวะ! ย้อนในอดีตภูมิใจไทยเป็นงูเห่าหรือเปล่า ลั่นผู้แทนไม่ใช่ทาส ยันคุมเสียงปริ่มน้ำได้
ได้กลิ่นเลือกตั้งโชย ธรรมนัสขอ70ที่นั่ง
ส่อใกล้เลือกตั้ง “ธรรมนัส” สัมมนาพรรค ปลื้มโตไว จาก 4 เป็น 20 ประกาศผมคือคนบ้า กล้าทำ กล้าคิด ลั่นสมัยหน้าต้องมี สส. 70 ที่นั่ง ส่งสัญญาณรบ
มาจากแอฟริกา โรคฝีดาษวานร ป่วยสะสม40คน
เตือนสถานการณ์ "ฝีดาษวานร" 2568 พบผู้ป่วยสะสมแล้ว 40 คน แนะสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ หากมีประวัติเดินทาง
ยกคำร้องคดีฮั้วขอนแก่น ‘กกต.’เผยไร้หลักฐานมัด!
“กกต.” ยกคำร้อง 22 ผู้สมัคร สว.ขอนแก่นปมฮั้ว ชี้ไต่สวนพยานและเส้นทางการเงินไม่พบข้อสงสัย ระบุผู้ร้องกล่าวอ้างลอยๆ
กธ.-รทสช.ย้ำไม่นิรโทษ112
“กธ.-รทสช.” ประสานเสียง ไม่นิรโทษฯ คดี ม.112-ทุจริต “ไผ่” การันตีไม่มีเอาใครกลับบ้าน