'พรเพชร' รับไม่พอใจงานปฏิรูปประเทศ บอกไม่ต้องรีบปิดสวิตช์ส.ว.เพราะเดี๋ยวก็ปิดตัวเองแล้ว

'พรเพชร' พอใจผลงานวุฒิสภา ทำได้ดีแต่อาจถูกวิจารณ์บ้าง ยอมรับไม่พอใจงานปฏิรูปประเทศ ชี้ยังเกิดหน้าเต็มที่ก่อนครบวาระ 5 ปี บอกไม่ต้องรีบปิดสวิตช์ส.ว.เพราะเดี๋ยวก็ปิดตัวเองแล้ว

30 ธ.ค.2565 - ที่รัฐสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการทำงานของส.ว.ในปี 2566 ว่า ก่อนครบ 5 ปี การทำงานของ ส.ว.ก็เหลืออีกปีเศษๆ ซึ่งได้เรียนกับสมาชิกแล้วว่าคงจะมีการเปลี่ยนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จำนวน 500 คนใหม่ ต้องทำงานร่วมกับส.ส. ทั้ง 500 คน และพรรคการเมือง ซึ่งเรายังไม่รู้ว่าพรรคไหนจะได้คะแนนเสียงมาก และประธานรัฐสภาจะมาจากพรรคไหนก็ยังไม่ทราบแน่นอน แต่เราก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือ ประสบการณ์ที่ผ่านมา 3-4 ปี คิดว่าจากการทำงานและประสานงานกับส.ส.ให้ได้กฎหมายที่ดี และญัตติต่างๆ ที่ 2 สภา เสนอร่วมกัน และเสนอตามขั้นตอนก็มีเพราะกฎหมายส่วนใหญ่จะดำเนินไปตามขั้นตอน คือสภาฯ พิจารณาก่อน แล้วถึงจะเข้าวุฒิสภา จะเห็นได้ว่าวุฒิสภามีส่วนในการแก้ไขและตกลงกันได้แทบทุกฉบับ ซึ่งเป็นระบบคิดว่าประเทศไทยพัฒนากฎหมายมาเช่นนี้จะได้กฎหมายที่ดี ออกมาบังคับใช้แก่ประชาชน แต่ถ้ามีเรื่องที่มีปัญหามาก อาจจะไม่ผ่าน ก็ต้องยอมรับ

เมื่อถามถึง การปฏิรูปประเทศที่ทางวุฒิสภาต้องดำเนินการแต่ถูกวิจารณ์ว่ายังไปไม่ถึงไหน นายพรเพชร กล่าวว่า ส่วนนี้เราก็ต้องยอมรับว่ากฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศมีบางส่วนที่ได้ผ่านไปบ้างแล้ว เช่นเรื่อง การปฏิรูปด้านตำรวจ แต่เท่าที่ตนทราบยังไม่เป็นที่พอใจ ส่วนเรื่องพ.ร.บ.การศึกษา ที่จะเข้าที่ประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 10-11 ม.ค. 66 นั้น รู้สึกว่าขณะร่างมาก็ยังไม่พอใจ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่สั้นหน่อยก็ผ่านไปได้ เช่น กฎหมายการซ้อมทรมาน ความจริงกฎหมายฉบับนี้เริ่มต้นจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งตอนนี้พยายามที่จะทำให้เสร็จ แต่เป็นที่ทราบกันดีว่ากฎหมายนี้กระทบกับการกระทำของเจ้าหน้าที่ สมัยสนช.จึงต้องระวัง แต่เมื่อเอามาเข้าที่ประชุมร่วมรัฐสภา ก็ไปด้วยกันได้ราบรื่น แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงบ้าง เราก็ทราบดีว่าทางสภาฯต้องยึดประชาชนเป็นหลัก ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่วุฒิสภาก็ต้องพิจารณาด้วยว่าบางเรื่องต้องเข้าใจเจ้าหน้าที่ ที่ต้องมีอำนาจบางอย่างแต่ถ้าอำนาจเกินเลยเราก็ต้องดูเพื่อไม่ให้อำนาจเกินไป รวมถึงกฎหมายทำแท้งก็ผ่านไปได้ด้วยดี

เมื่อถามว่า ใกล้ครบวาระ 5 ปี ของส.ว.แล้ว การติดตามเรื่องการปฏิรูปจะไปทางไหน เพราะมีการมองว่าส.ว.ไม่มีบทบาทเต็มที่ นายพรเพชร กล่าวว่า เรื่องนี้พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง เคร่งครัดมากในการที่จะให้เป็นไปตามแผนปฏิรูปประเทศที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ และในกฎหมาย ซึ่งในส่วนของกฎหมาย ยังไม่เป็นที่พอใจแต่ในส่วนที่ต้องดำเนินการโดยไม่ต้องใช้กฎหมายก็มีเยอะ ส่วนนี้เป็นส่วนที่ยาก แต่ก็ได้มีการเชิญสมาชิกมาซักถามว่าทำไปถึงไหน เป็นอย่างไร ทำไมไม่ทำ ซึ่งเรายังมีเวลาในการดูสิ่งเหล่านี้เพื่อให้ประสบผลสำเร็จ อาจจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ต้องได้ผลประโยชน์ตามที่รัฐธรรมนูญเขียนไว้ ซึ่งในรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ตั้งใจที่จะให้มีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น จึงได้เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ ตนเข้าใจว่าองค์กรหรือหน่วยราชการต่างๆ อาจจะไม่คุ้นเคยกับสิ่งเหล่านี้ คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา ตามที่มีการชี้แจงทุกปีตลอดมา

“เรื่องนี้วุฒิสภาให้ความสำคัญมาก และเท่าที่ผมดู ส.ว.บางส่วนมาจากสภาปฏิรูปประเทศ เขาก็เข้มแข็งและพยายามที่จะดูสิ่งเหล่านี้ และคิดว่าก็คงต้องดำเนินการต่อไป ถึงแม้จะเป็นช่วงปิดสมัยประชุม และรอรัฐบาลชุดใหม่มา ผมก็บอกกับสมาชิกว่าเราต้องทำงานต่อ แม้ว่างานด้านนิติบัญญัติจะยังทำไม่ได้ เพราะสภายังไม่มี แต่หากมีเรื่องที่สำคัญจริงๆ ก็สามารถให้มีการเปิดสภาได้ในบางขั้นตอน แต่ก็ยาก จึงต้องไปเน้นในเรื่องของการปฏิบัติ เช่น ปฏิบัติต่อหน่วยราชการต่างๆ รับฟังความคิดเห็นของประชาชนซึ่งต้องอยู่ในขอบเขตจำกัด และต้องหยุดไปก่อนเพราะพรรคการเมืองต่างๆเขาหาเสียงกัน เมื่อได้สภาใหม่เราค่อยดำเนินการไปหาประชาชนต่อ“ นายพรเพชร กล่าว

เมื่อถามต่อว่า พอใจกับผลงานของวุฒิสภาตลอดปี 65 รวมถึงการทำงานของตัวเองประธานวุฒิสภาเองหรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า ตนประเมินว่าทำได้ดี อาจจะมีที่ถูกวิจารณ์ว่าไม่ผ่าน มีเฉพาะกฎหมายรัฐธรรมนูญ ผ่านไปเพียงเรื่องระบบเลือกตั้ง จึงเป็นเรื่องที่ต้องพัฒนากันต่อไป ซึ่งตนก็ยอมรับว่าประชาชนหรือผู้ที่เห็นว่ากฎหมายที่ไม่ผ่านเป็นต้นเหตุมาจากรัฐธรรมนูญที่ให้อำนาจส.ว. 1 ใน 3 จริงๆ แล้วบางครั้งที่กฎหมายไม่ผ่าน ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเสียงส.ว. 1 ใน 3 เพราะบางครั้งเสียงส.ว.ก็ไม่ให้ผ่านเลย

ถามต่อว่า เสียงส.ว.ที่ไม่ให้กฎหมายผ่าน เป็นเพราะส.ว. มาจากการแต่งตั้งของคสช.หรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า เมื่อตนมาเป็นประธานวุฒิสภา หลายคนเข้าใจว่าตนสามารถสั่งการได้ แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ สมาชิกเลือกตนมาในแง่ที่ตนมีประสบการณ์ในเรื่องนิติบัญญัติ ตั้งแต่สมัยอายุยังน้อย เขาก็ไว้วางใจให้ตนทำงานด้านนี้ ส่วนวิปวุฒิสภา ตนไม่ทราบว่าวิปวุฒิสภามีแค่ไหนเพียงใด คงวิปได้เป็นกลุ่มๆเพราะถ้าเห็นด้วยกันก็คงจะไปในแนวทางเดียวกัน แต่ตนมั่นใจว่าส.ว.ไม่ไปทางเดียวกันตลอด

ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่การพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ของพรรคเพื่อไทย ที่เสนอแก้ไขมาตรา 272 ตัดอำนาจส.ว. เลือกนายกฯ ว่า การพิจารณาเรื่องดังกล่าวแล้วแต่สมาชิกของสองสภา เพราะตนไม่รู้สึกเดือดร้อนอะไร ตอนนี้ใกล้จะจบวาระของส.ว.แล้ว ก็คงไม่มีปัญหาอะไร ไม่ต้องรีบปิดสวิตซ์ส.ว. เพราะเดี๋ยวก็ปิดอยู่ในตัว อีก 1 ปีเศษ

เมื่อถามต่อว่าในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องปิดสวิตซ์ส.ว.มีโอกาสที่ส.ว.จะเห็นด้วยหรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า ตนพูดแทนคนอื่นไม่ได้ พูดไปก็จะเป็นประเด็นเปล่าๆ แต่ตนเชื่อมั่นว่าส.ว.ส่วนใหญ่มีวิจารณญาณว่าจะทำอย่างไรให้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งตนพูดเสมอว่าเราต้องทำงานเพื่อประเทศชาติ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อดีตแม่ยกปชป.ย้อนถามรัฐประหารเพื่ออะไร ที่ผ่านมาก็เสียของ เตือนเข้าทาง 'ก้าวไกล'

นางกาญจนี วัลยะเสวี หรือ ติ๊งต่าง เจ้าของฉายาไฮโซสปอร์ตคลับและแกนนำกลุ่ม​ชาวไทยหัวใจรักสงบ อดีตแม่ยกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า

'พรเพชร' ยิ้มหน้าชื่นขอบคุณฉายาสภาสูงที่ตั้งตรงไปตรงมา!

'พรเพชร' ขอบคุณตั้งฉายา 'วุฒิสภา – ประธานวุฒิฯ' ตรงไปตรงมา บอกสื่ออย่าตีความเป็น 'แจ๋ว' ชี้ ทุกคนมีภาระหน้าที่ ยืนยันทำงานทุกวันไม่ได้รอรีไทร์ แต่ผลงานอาจถูกมองว่าเรียบๆ

‘ประธานวุฒิฯ’ ปัดตอบ ไฟเขียวนิรโทษกรรม ม.112 ห่วงจะกลายเป็นมติ

นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เผยกรณีพรรคก้าวไกลเสนอร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม อยู่ที่สภาผู้แทนราษฎรจะได้ข้อยุติอย่างไร

แฟนคลับพท.ย้อนก.ก. คุกคาม ย่ำยีปชช. ชูปฏิรูป รื้อโครงสร้าง จะเป็นเรื่องจริงใจได้ยังไง

เฟซบุ๊ก ปีใหม่ ปีใหม่ ของ ปีใหม่ ศิริกุล แฟนคลับพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความถึงกรณีสมาชิกพรรคก้าวไกล มีพฤติกรรมคุมคามทางเพศ ว่า