สภาลุกเป็นไฟ 'ชาดา' ซัด 'โรม' เลวทราม โชว์รูปรมช.มหาดไทย โยง ศปปส.

14 ก.พ.2567 - ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาฯ ที่มีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯคนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) อภิปรายญัตติด่วน เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาทบทวนมาตรการอารักขาถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จ

โดยต่อมา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า หลังจากมีข่าวการขวางขบวนเสด็จออกมาต้องยอมรับว่าบรรยากาศเป็นไปด้วยความหวาดกลัว ซึ่งตอนนี้ได้เลยจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ตนเข้าใจดีว่า ทุกคนล้วนมีความรู้สึกกับเรื่องนี้ไปต่างๆนานา แต่หากไม่พิจารณาเรื่องนี้อย่างมีวุฒิภาวะด้วยสติที่มั่นคง สิ่งที่ทุกคนกำลังสร้างคือบรรยากาศแห่งความหวาดกลัว ส่งผลให้เกิดการทำร้ายร่างกายกลุ่มนักเคลื่อนไหวต่อหน้าตำรวจ และสื่อมวลชนกลางเมืองหลวงที่มีคนผ่านไปผ่านมา ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 ก.พ. ก็มีตำรวจได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างใจเย็น ทำให้สถานการณ์ไม่ลุกลามบานปลายวิธีการควบคุมสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสมอย่างมีวุฒิภาวะ สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ดังนั้นจึงอยากขอให้ทุกคนมีสติ หากสิ่งที่นักเคลื่อนไหวทำมีความผิดจริงตามกฎหมายตนเข้าใจ สิ่งสำคัญคือต้องโปร่งใส และสอดคล้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า รู้สึกผิดหวังกับท่าทีของนายกฯ ที่ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่ดีของบ้านเมือง ได้แต่บอกว่าตนเองและคณะรัฐมนตรีไม่สนับสนุนความรุนแรง และขอให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดเพื่อปกป้องสถาบัน แต่กลับไม่มีการบอกให้บังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่ใช้ความรุนแรงเลย แบบนี้จะกลายเป็นการเขียนเช็คเปล่าให้กับผู้ที่ใช้ความรุนแรงหรือไม่

นายรังสิมันต์ ยังได้กล่าวถึงกลุ่มศปปส. มีการโพสต์ข้อความ ปลุกปั่นในโซเชียลมีเดีย ว่าจะเชือดไก่ให้ลิงดู หรือกลุ่มอาชีวะราชภักดี ที่ขู่จะจัดการ สายน้ำ ตามวิถีอาชีวะปะทะก่อนค่อยคุย

ระหว่างนี้นายรังสิมันต์ ได้โชว์ใช้ภาพของกลุ่มศปปส. ซึ่งถ่ายคู่กับนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยไม่มีการเบลอหน้า พร้อมกล่าวต่อว่า มีอีกหลายข้อความที่ถูกกล่าวขึ้นโดยบุคคลสำคัญ แม้กระทั่งนายชาดา พูดถึงการเนรคุณแผ่นดิน มีการปลุกปั่นให้สถานการณ์ร้ายแรงเกินกว่าความเป็นจริงมาก และทำให้คนทั้งสังคมรู้สึกไม่ปลอดภัย รัฐจะสร้างมาตรการรักษาความปลอดภัยได้อย่างไร ในเมื่อสุดท้ายผีที่สร้างขึ้นมามันมาจากพวกท่านเอง ถ้ายังปล่อยให้สถานการณ์บานไปเรื่อยๆ หากไม่มีการดึงสติแล้วคำขู่เกิดขึ้นจริง ใครจะรับผิดชอบ และสุดท้ายผู้ที่ใช้ความรุนแรง แล้วไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ควรจะหาว่ารัฐบาล เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังคนเหล่านี้ ขออย่าให้ไปถึงจุดนั้นเลย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายรังสิมันต์อภิปรายเรียบร้อยแล้วนั้น นายชาดา ประท้วงนายรังสิมันต์ ที่นำรูปตนแสดงในห้องประชุม มีเจตนาไม่ดี ซึ่งรูปดังกล่าวเกิดขึ้นในวันเลือกนายกรัฐมนตรีและมีประชาชนขอถ่ายรูปกับตนเป็นล้านคน และการเข้าร่วมกิจกรรมที่ดีงามไม่ถือว่าเป็นเรื่องผิด สิ่งที่นายรังสิมันต์กระทำไม่ถูกต้อง ไม่ใช่ความรู้สึกของคนที่ดี และไม่ใช่การอธิบายเชิงสร้างสรรค์ ปากบอกต้องการความสงบให้ตั้งอยู่ตรงกลาง แต่พฤติกรรมไม่ใช่ และขอตำหนิการทำงานของประธานผู้ควบคุมการประชุมที่อนุญาตให้นำรูปดังกล่าวขึ้นมา ว่าปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ไม่ถูกต้องและไม่เป็นกลาง

“ญัตตินี้เป็นเรื่องของการอารักษ์ขาขบวนเสด็จที่ทำร้ายจิตใจประชาชน แต่กำลังเอาเรื่องนอกประเด็นผลของการกระทำเด็กหรือใครก็ตามกี่ครั้งแล้วที่ทำผิดกฎหมาย การแสดงออกด้วยหัวใจคนไทยไม่มีปัญหา แต่มันมีขบวนการในประเทศนี้ที่จะล้มล้าง ที่จะบั่นทอน อย่าพูดว่าไม่มี ถ้าทำกับผมแบบนี้ พูดกับผมแบบนี้ เดี๋ยวผมจะพูดให้หมด ยืนยันว่าวันนี้ไม่ได้อยากจะพูด แต่หัวใจความรักชาติมันเต็มเปี่ยม สิ่งที่ท่านทำไม่ใช่ความคิดสร้างสรรค์ ปากบอกว่าพัฒนา แต่สิ่งที่ทำเมื่อสักครู่นี้เลวทรามมากในความรู้สึกผม ซึ่งประธานปล่อยภาพนี้ออกมาได้อย่างไร ใครอนุญาต ผมไม่ว่าสมาชิกแต่ขอถามประธาน การอภิปรายอยู่ดีๆ สร้างปัญหาเอง อย่าพูดว่าไม่มีขบวนการล้มเจ้า ยืนยันว่ามี ซึ่งผมพร้อมจะถ่ายรูปกับคนทุกคนที่ปกป้องสถาบัน แต่เขาจะเอาไปทำอะไร ผมไม่รู้ ผมไม่เกี่ยว มันคนละเรื่อง ต้องมีสามัญสำนึกในการกระทำ อย่ามาพูดดูดีแต่ปฏิบัติไม่ดี” นายชาดา ระบุ


นายรังสิมันต์ ชี้แจงว่าภาพที่นำเสนอนั้น ได้มีการยื่นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างถูกต้องและเข้าใจว่าจะมีการพิจารณาตามระบบ ซึ่งเป็นอำนาจของประธานเป็นผู้พิจารณาคนสุดท้าย โดยทั่วไปการขึ้นรูปรัฐมนตรีสามารถทำได้อยู่แล้ว รออยู่ในที่ประชุม และตนขอให้นายชาดา ใจเย็นๆ เพราะการขึ้นรูปไม่ได้ปรักปรำว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง

ด้านนายชาดา โต้กลับว่า ไม่ได้ปรักปรำเพิ่มเติมหมายความว่าปรักปรำมาก่อนแล้วใช่หรือไม่ โดยนายรังสิมันต์ชี้แจงว่า ข้อความที่ขึ้นในรูปไม่ได้เป็นประโยคของนายชาดา แต่เป็นข้อความของผู้ที่ก่อความรุนแรง แล้วเขาอาจจะคิดด้วยซ้ำว่ามีผู้อยู่เบื้องหลัง แต่ความเป็นจริงอาจจะไม่มีใครอยู่เบื้องหลังก็ได้ ซึ่งกรณีแบบนี้ถือเป็นตัวอย่างที่ดี ว่านักการเมืองอย่างเราๆ ถูกโยงไปยังกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ตลอดเวลา ทั้งที่การกระทำอาจไม่ถึงขนาดนั้น จึงอยากให้มีสติ เพราะหลายคนเข้ามาเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว มีสติกันเป็นหลัก เป็นฐานให้กับบ้านเมือง

นายชาดา อภิปรายต่อว่า การกระทำบ่งบอกถึงเจตนาชัดเจน มีเจตนาบอกว่าตนอยู่เบื้องหลัง ถ้าอยู่เบื้องหลังจริง สนุกกว่านี้เยอะ และตนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ท่านไม่ใช้สติในการพิจารณา คนไทยทุกคนยอมรับได้ แม้ว่าจะรอนานเท่าไร ถ้ายอมรับไม่ได้ ไปอยู่ประเทศอื่น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชงไทยบี้เมียนมา งดขายน้ำมันให้ เจรจาสันติภาพ

"โรม" เสนอให้ไทยงดขายน้ำมันให้ "เมียนมา" ปูดใช้ไทยฟอกเงินเครือข่ายซื้ออาวุธที่ใช้ปฏิบัติการ เตือนถูกดึงไปเอี่ยวร่วมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

สส.ระยอง ก้าวไกล ตั้งข้อสงสัยวางเพลิงโรงงานเก็บสารเคมี 'วิน โพรเสส' จี้รัฐบาลตรวจสอบ

นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคก้าวไกล แถลงข่าวกรณีไฟไหม้โรงงานเก็บสารเคมีของบริษัท วินโพรเสส จำกัด ว่า ในฐานะเจ้าของพื้นที่ ตนได้ลงพื้นที่จุดหลังเกิดเหตุตั้งแต่ช่วงเช้าถึงเวลา 22.00 น.