'สว.อังคณา’ ผวา! นโยบายแก้ปัญหายาเสพติดรัฐบาลอิ๊งค์ ซ้ำรอยยุคทักษิณ

‘อังคณา’ มอง งบ 68 ยังไม่ครอบคลุม ถาม เรื่องมนุษยชน-เพศ อยู่ส่วนไหนของกระทรวง หวั่น นโยบายแก้ปัญหายาเสพติด ซ้ำรอยยุครัฐบาลทักษิณ

9 ก.ย.2567-นางอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมในการถกงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ว่า สมาชิกวุฒิสภาไม่มีอำนาจในการขอเพิ่ม หรือตัดงบลดงบประมาณได้ แต่ว่ามีข้อสังเกตได้ ซึ่งส่วนตัวก็คงมีข้อสังเกตว่า ประเทศไทยมีแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ รวมถึงรัฐธรรมนูญมาตรา 71 วรรค 4 ที่ระบุถึงเรื่องของการจัดงบประมาณ ให้เหมาะกับเพศสภาพหรือวัย ซึ่งพอมาดูงบ 68 ก็ตั้งข้อสงสัยว่า แผนมนุษยชนแห่งชาติอยู่ตรงส่วนไหนของงบฯ และทุกกระทรวงได้นำเข้าไปอยู่ในแผนงบประมาณหรือไม่ รวมถึงเรื่องเพศสภาพหรือวัย ทุกกระทรวงได้นำไปใส่หรือไม่ และคงจะมีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ เพราะถือว่า เป็นมติคณะรัฐมนตรีที่รับรองตามแผนมนุษยชนแห่งชาติแล้ว แต่ทำไมกระทรวง ทบวง กรม ถึงไม่นำเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในงบประมาณ 68 ยกตัวอย่างเช่น งบ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่งบส่วนมากเป็นเรื่องของความมั่นคง แต่ไม่ได้เป็นเรื่องของการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน เป็นเรื่องของการบูรณาการจัดการอบรมเฉย ๆ

นางอังคณา มองว่า งบประมาณปี 68 ยังไม่ครอบคลุม หากเรามีแผนมนุษยชนแห่งชาติแบบนี้ แต่แผนมนุษยชนแห่งชาติจากทุกกระทรวง ทบวง กรม จะต้องมีการดำเนินการเพื่อให้มีงบประมาณในการขับเคลื่อนสิทธิมนุษยชน อย่างในเรื่องของรัฐธรรมนูญ การจัดสรรงบประมาณ ที่เกี่ยวข้องกับเพศสภาพ ปรากฏว่า ในทุกกระทรวงยังไม่มีห้องน้ำ สำหรับทุกเพศ หรือความเป็นไปได้ในการที่จะจัดห้องสำหรับผู้หญิงที่ต้องให้นมลูก ทั้งในเรื่องของการปั๊มน้ำนม ก็เป็นเรื่องของสิทธิมนุษยชนที่ยังขาดอยู่

ถามถึงการเตรียมการอภิปรายในวันแถลงนโยบายของรัฐบาล นางอังคณากล่าวว่า ตนเองได้อ่านนโยบายทั้งหมดอย่างเร็ว ๆ พบว่า มีเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจคือ เรื่องของการปราบปราบยาเสพติด เพราะกังวลว่าจะกลับไปเป็นเหมือน พ.ศ. 2546 หรือไม่ ที่เป็นช่วงสงครามยาเสพติด มีคนตาย 3,000 กว่าคน แต่ไม่มีใครเคยต้องโทษ ทำให้คนตายฟรี จึงกังวลว่าสงครามยาเสพติดจะเกิดขึ้นอีก และจะปราบปรามอย่างไร

“ขณะนี้ก็มีข้อกฎหมายที่ผู้เสพยาเสพติดเป็นผู้ป่วย จึงตั้งคำถามว่า เราจะดูแลอย่างไร มีศักยภาพพอหรือไม่ ชุมชนสามารถดูแลกันได้หรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างแรก เพราะเราคิดว่าจะปราบปราม แต่จะทำอย่างไร เพราะที่ผ่านมารัฐบาลของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ใช้กำลังปราบปราม มีการฆ่าตัดตอนจำนวนมาก และคดีก็หมดอายุความ และอีกเรื่องคือปัญหาชายแดนภาคใต้ถูกจัดอันดับความสำคัญน้อย ทั้งที่ปัญหาเกิดขึ้นต่อเนื่องมากกว่า 20 ปีแล้ว จึงอยากรู้ว่ารัฐบาลของนางสาวแพทองธาร จะจัดการอย่างไรเพื่อให้หยุดการสู้รบ“

นางอังคณา มองว่า การแถลงนโยบายนี้ ก็ไม่ได้ต่างจากรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี รวมถึงไปเปรียบเทียบกับรัฐบาลของนายทักษิณ ก็ไม่ต่างกัน ซึ่งดูแล้วก็ไม่ได้มีอะไรใหม่เกิดขึ้น แต่ของเดิมที่ทำแล้วมีปัญหาในเรื่องของยาเสพติด ก็ยังกังวลว่า จะเกิดเหตุการณ์แบบเดิมหรือไม่

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มติเอกฉันท์! ศาลรธน. ตีตก 7 คำร้อง ขอให้วินิจฉัยเลือก สว. ไม่ชอบ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับ 7 คำร้องที่มีการร้องขอให้วินิจฉัยเกี่ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ประกอบด้วยคำร้องของนายสมบูรณ์ ทองบุราณ,นายวัฒนา ชมเชย ,ว่าที่ร.ต.วิชชุกร คำจันทร์ นายจิรัฎฐ์ แจ่มสว่าง,นายปรีชา เดชาเลิศ,นางฤติมา กันใจมา,

ศาลรธน.สั่ง 'สมชาย เล่งหลัก' หยุดปฏิบัติหน้าที่สว.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต ) ผู้ร้อง ขอให้พิจารณาวินิจฉัยกร

เห็นทีจะลำบาก! อดีตบิ๊กเพื่อไทย ซัดนโยบายรัฐบาล ยังไม่เห็นมีอะไรทำบ้านเมืองเจริญก้าวหน้า

นโยบายรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ผ่านเฟซบุ๊กว่าติดตามนโยบายการบริหารประเทศของรัฐบาลชุดนี้ ยังไม่เห็นมีอะไรที่จะทำให้บ้าน

กกต. ยื้อ 'หมอเกศ' เลื่อนถกคุณสมบัติจบดอกเตอร์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ประชุมคณะกรรมการ​การ​เลือกตั้ง​ (กกต.) ยังไม่ได้มีการพิจารณารายงานผลการตรวจสอบกรณีพ.ญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย  สมาชิกวุฒิสภา (สว.)​ ถูกร้องว่ากระทำการหลอกลวงให้ผู้อื่นเข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถหรือชื่อเสียงเกียรติคุณ

กระจ่าง! ดร.ณัฏฐ์ นักกฎหมายมหาชน ชี้กรณีคุณสมบัติ 'สว.หมอเกศ'

“ดร.ณัฏฐ์” นักกฎหมายมหาชน ชี้ กรณี สว.หมอเกศ ปริญญาเอกและตำแหน่งศาสตราจารย์ หากไม่จริง เป็นการโชว์เหนือ หลอกลวงเพื่อจูงใจให้ผู้สมัคร สว.ด้วยกัน เข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ ความสามารถของตนเอง