“การลดหย่อนภาษีคืออะไร และกองทุนแนะนำ SSF, RMF, Thai ESG แต่ละอัน ต่างกันอย่างไรบ้าง ?”
ในยุคที่ค่าครองชีพสูงขึ้นและภาษีก็เก็บเพิ่มขึ้นทุกปี การวางแผนภาษีจึงกลายเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนควรให้ความสนใจ หนึ่งในวิธีการวางแผนภาษีที่ได้รับความนิยมอย่างมาก คือ การลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษี เช่น SSF, RMF และ Thai ESG ซึ่งนอกจากจะช่วยลดหย่อนภาษีได้แล้ว ยังเป็นการสร้างฐานะทางการเงินในระยะยาวอีกด้วย
บทความนี้จึงอยากพาพาคุณไปทำความรู้จักว่าการกองทุนการลดหย่อนภาษีคืออะไร และกองทุนแนะนำ (SSF, RMF, Thai ESG) ต่างกันอย่างไรบ้าง เพื่อที่คุณจะได้ตัดสินใจลงทุนได้อย่างถูกต้อง
กองทุนลดหย่อนภาษีคืออะไร ?
กองทุนลดหย่อนภาษี คือ กองทุนรวมที่ได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐ โดยผู้ลงทุนสามารถนำเงินที่ลงทุนไปหักลดหย่อนภาษีได้ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งจะช่วยลดภาระทางภาษีและเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนมีวินัยออมเงินไปพร้อม ๆ กัน
กองทุนแนะนำ SSF, RMF และ Thai ESG ต่างกันอย่างไร ?
- SSF (กองทุนรวมเพื่อการออม) : เป็นกองทุนที่เน้นการออมระยะยาว โดยผู้ลงทุนสามารถนำเงินที่ลงทุนไปหักลดหย่อนภาษีได้ตามที่กำหนด
- RMF (กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ) : เป็นกองทุนที่เน้นการออมเพื่อใช้ในยามเกษียณ โดยมีเงื่อนไขการถอนเงินที่เข้มงวดกว่า SSF
- Thai ESG (กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน) : เป็นกองทุนที่เน้นการลงทุนในธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) นอกจากจะได้ลดหย่อนภาษีแล้ว ยังได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างโลกที่ดีขึ้น
ข้อดีของการลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษี
- ลดหย่อนภาษี : ช่วยลดภาระทางภาษีได้อย่างมาก
- สร้างวินัยในการออม : การลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษีจะช่วยให้คุณมีวินัยออมเงินในระยะยาว
- ได้รับผลตอบแทน : กองทุนเหล่านี้มีโอกาสให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
- หลากหลายทางเลือกการลงทุน : มีกองทุนให้เลือกหลากหลายตามความเสี่ยงที่คุณรับได้
- สนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน : การลงทุนในกองทุน Thai ESG ช่วยสนับสนุนธุรกิจที่ดำเนินงานอย่างยั่งยืน
วิธีเลือกกองทุนลดหย่อนภาษีที่เหมาะสม
- กำหนดเป้าหมายการลงทุน : กำหนดว่าคุณต้องการเงินก้อนนี้เพื่ออะไร เช่น ใช้ในยามเกษียณ หรือเพื่อการศึกษาบุตร
- ระยะเวลาลงทุน : กำหนดระยะเวลาที่คุณจะลงทุน เพราะแต่ละกองทุนจะมีระยะเวลาการลงทุนที่แตกต่างกัน
- ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ : เลือกกองทุนที่มีความเสี่ยงที่คุณรับได้
- ค่าธรรมเนียม : เปรียบเทียบค่าธรรมเนียมของแต่ละกองทุน
- ผลการดำเนินงานในอดีต : ศึกษาผลการดำเนินงานของกองทุนในอดีต
ขั้นตอนการลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษี
- ศึกษาข้อมูล : ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนที่สนใจให้ละเอียด
- เลือกบริษัทหลักทรัพย์ : เลือกบริษัทหลักทรัพย์ที่น่าเชื่อถือ
- เปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ : เปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับบริษัทหลักทรัพย์ที่เลือก
- ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ : นำใบสำคัญรับเงินค่าซื้อหน่วยลงทุนไปยื่นประกอบการคำนวณภาษีเงินได้
ได้รู้จักการลดหย่อนภาษีและกองทุนแนะนำ SSF, RMF, Thai ESG กันไปแล้ว จะเห็นได้เลยว่า การลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษีเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการวางแผนภาษีและสร้างฐานะทางการเงินในระยะยาว การเลือกกองทุนที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจลงทุน ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียด หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินเพื่อขอคำแนะนำ เพื่อให้การลงทุนตอบโจทย์ความต้องการและคุ้มค่าที่สุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ขานรับโครงการ Easy E-Receipt ลดหย่อนภาษี สูงสุด 50,000 บาท อัดแคมเปญเสริม ช้อปทุกแผนก รับเพิ่มส่วนลด รวมสูงสุดถึง 6,000 บาท
บิ๊กซี ขานรับโครงการภาครัฐ Easy E-Receipt ลดหย่อนภาษีปี 2568 สูงสุด 50,000 บาท พร้อมตอกย้ำความคุ้มค่า จัดหนักจัดเต็มผ่านแคมเปญพิเศษ ช้อปทุกแผนก ฯ รับเพิ่มส่วนลดรวมสูงสุด มากถึง 6,000 บาท
นายกฯชวนช็อปสินค้าโอทอปใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี
นายกฯชวนคนไทยช็อป "โอทอป" สินค้าชุมชน ออก Easy E-Receipt ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 5 หมื่น