น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ “มหาวิปโยคหาดใหญ่” ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.

มหาอุทกภัยในพื้นที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ยังคงเป็นประเด็นร้อนแรงต่อเนื่อง เล่นเอา “อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ต้องบินลงพื้นที่น้ำท่วมรอบที่ 3 เพื่อไปช่วยวิกฤตหาดใหญ่อีกครั้ง เพราะดูเหมือนงานนี้ “นายกฯ หนู” แทนที่จะได้ดอกไม้แต่กลับได้กระถางแถมมาด้วย จำนวนมาก โดยเฉพาะเรื่องความล่าช้าในการแก้ไข รวมถึงความซ้ำซ้อนในการแก้ไขปัญหา

เหตุการณ์น้ำท่วมในตัวเมือง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา วิกฤตอย่างหนัก สาเหตุเพราะฝนตกหนักมากในช่วงเวลาอันสั้น หรือ Rain Bomb และเรียกว่า ฝน 300 ปี หมายถึงปริมาณฝนที่มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก

ขอส่งกำลังใจให้พี่น้องภาคใต้ที่ประสบภัยน้ำท่วม ฝนนี้หนักหนาสาหัสกว่าทุกปี อย่างที่ จ.สงขลา ล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติทั้งจังหวัดแล้ว หลังหลายพื้นที่อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม

สำรวจตลาดขาย “ปี๊บ” ยามนี้ น่าจะขาดตลาด!! ผลิตไม่ทันให้ข้าราชการแวดวงสีกากี ไปจนถึงข้าราชการกรมราชทัณฑ์ใช้ “คลุมกบาล”

www.thaipost.net ยุบหนอพองหนอ! เวลานี้คาถาอะไรก็คงเอาไม่อยู่ สถานการณ์ใกล้นับหนึ่งเลือกตั้งเต็มแก่ บรรดา สส. นักการเมืองทั้งหลายทุกวันจิตใจจดจ่อ ยุบไม่ยุบ ยิ่ง “นายกฯ หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล

ต้องบอกว่าเป็นเรื่องระดับโลกทันทีเมื่อ “Cloudflare-คลาวด์แฟลร์” บริษัทสัญชาติอเมริกันที่ให้บริการเครือข่ายการจัดส่งเนื้อหา, การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ และระบบการตั้งชื่อโดเมน ฯลฯ ซึ่งใครต่อใครเคยบอกว่าไม่มีโอกาสล่ม

การแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่กัมพูชาโจมตีไทยก่อน คนไทยยังแบ่งแยกความคิดเป็น 2 ฝ่ายเหมือนเดิม เมื่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ประกาศระงับปฏิญญาสันติภาพ

เวทีการเมืองรอบนี้สายตาทุกคู่หันไปที่ “ชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว” สส.สงขลา พรรคกล้าธรรม หลังถูกลากโยงกับธุรกิจสีเทา และถูก ปปง.อายัดทรัพย์กว่า 159 ล้านบาท ท่ามกลางกระแสสังคมที่กดดันให้รับผิดชอบ

พลิกไปพลิกมาจนวิจารณ์แทบไม่ทัน หลัง “นิกรเดช พลางกูร” อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวว่า รองผู้แทนการค้าของสหรัฐแจ้งเข้ามาว่าขอระงับการเจรจากรอบข้อตกลงการค้าต่างตอบแทนระหว่างไทยกับสหรัฐเป็นการชั่วคราว

‘อนุทิน ชาญวีรกูล’ นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ไม่อยู่ประเทศไทยหลายวัน เพราะไปปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีเกียรติยศ ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือน สาธารณรัฐประชาชนจีน อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 13-17

“ปฏิญญาร่วมเพื่อสันติภาพและความมั่นคง” หรือ Joint Declaration ที่ลงนามโดย “อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรไทย และ “ฮุน มาเนต” นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา ในที่ประชุมอาเซียนซัมมิต เมื่อวันที่ 26 ต.ค.2568

เหตุการณ์ทหารกองกำลังสุรนารีเหยียบกับระเบิดบริเวณพื้นที่ห้วยตามาเรีย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้รับบาดเจ็บ 4 นาย รวมทหารไทยขาขาดแล้ว 7 นาย ทำให้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาเดือดระอุขึ้นอีกครั้ง

“รัฐธรรมนูญต้องแก้ไข” คำพูดที่ทุกพรรคต่างพูดตรงกันเหมือนนัด แต่พอถึงเวลาลงมือจริง ภาพที่เห็นกลับต่างออกไป โดยเฉพาะในชั้นกรรมาธิการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เจอเหตุ “องค์ประชุมล่ม” จนฝ่ายค้านเริ่มตั้งคำถามถึงความจริงใจของรัฐบาลและวุฒิสภา ว่าคิดจะแก้จริงหรือแค่แสดงละครให้ประชาชนดูเล่น

สำนักพระราชวังได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง

ความเคลื่อนไหวตลาดการเมืองเรื่องการย้ายพรรค-หาพรรคสังกัด ในช่วงนับถอยหลังเตรียมเข้าสู่การเลือกตั้ง เป็นไปอย่างคึกคักมากขึ้นเรื่อยๆ ในส่วนของ พรรคประชาธิปัตย์ ที่อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป.

สถานการณ์เลือดไหลออกจาก “พรรคประชาธิปัตย์” ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง อย่างสัปดาห์นี้ มติคณะรัฐมนตรี ที่ตั้ง นางสาวรัชดา ธนาดิเรก อดีตรองโฆษกรัฐบาลสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะ “สแกมเมอร์” กำลังเป็นเผือกร้อนของรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เป็นประธานเปิดการประชุมหัวหน้าตำรวจอาเซียน

แม้รัฐบาลอนุทินจะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยที่ฝ่ายค้านมีเสียงเกือบ 300 เสียง สามารถล้มได้ง่ายดาย แต่การทำหน้าที่ตรวจสอบดูเหมือนจะกลายเป็นเกมชิงไหวชิงพริบระหว่างพรรคเพื่อไทย (พท.) และพรรคประชาชน (ปชน.)

บันทึกในห้วงเวลาปิดสมัยประชุมสภา แต่การเมืองยังคงร้อนแรงเดือดฝุดๆ ว่าด้วย “ขบวนการสีเทา” ที่ผสมปนเจืออย่างแทบเป็นเนื้อเดียวกันกับคนในแวดวงการเมือง