กลายเป็นประเด็นดรามาข้ามวันสำหรับภาพที่ “นายกฯ อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ไปออกงานในต่างประเทศครั้งแรกสำหรับการประชุมกรอบความร่วมมือเอเชีย ครั้งที่ 3 ณ กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ ที่เหมือนจะผ่านพ้นไปได้อย่างดี

ช่วงนี้เหล่านักการเมืองไม่ว่าจะขยับซ้ายหรือขยับขวา หรือแม้กระทั่งอยู่นิ่งๆก็จะมีคนคอยจับจ้องอยู่ตลอดเวลา บางคนต้องระวังตัวเองอย่างมาก เพราะเหล่านักร้องมักจะคอยหาช่องทางร้องยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นฝั่งรัฐบาลหรือฝ่ายค้านก็มักจะมีเรื่องให้ตื่นเต้นอยู่ตลอด

ถ้าพูดถึงเรื่องของสถาปัตยกรรมอาคารัฐสภาทั่วโลก แน่นอนว่า “สัปปายะสภาสถาน” อาคารัฐสภาไทย ติดอันดับต้นๆในโลกแน่นอน เพราะอาคารรัฐสภาไทย ที่ตั้งอยู่บริเวณแยกเกียกกาย ติดแม่น้ำเจ้าพระยาจะเห็นอาคารเป็นตระหง่าน

ช่วงนี้อะไรๆก็เริ่มที่จะเข้าที่เข้าทาง เพราะมรสุมช่วงเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ถือว่าการเมืองของไทยดุเดือดมาก เพราะเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนยาวมาถึงเดือนก.ย. เหล่าคนการเมืองก็ตัวรุมๆ เหมือนมีไข้ทุกวัน ต้องรอลุ้นว่าในแต่ละวันจะมีเรื่องอะไรบ้าง

เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หากใครได้ติดตามข่าวการเมืองจะเห็นได้ว่าประเทศไทยมีคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่อย่างเป็นทางการภายใต้การนำของ “อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งในวันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมานั้นครม.ชุดใหม่ ถ่ายภาพหมู่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ท่ามกลางแสงแดดช่วงสาย

ในหลายพื้นที่ของภาคเหนือได้รับผลกระทบจากอุทกภัย และมีหลายหน่วยงานได้เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ทั้งในนามภาคประชาชน และภาคเอกชน โดย 1 ในนั้นคือ “อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร

สถานการณ์น้ำท่วมที่ภาคเหนือตอนนี้เริ่มดีขี้น แต่สถานการณ์ทางการเมืองยังไม่นิ่ง เพราะถึงแม้ อิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะได้รับเสียงในสภาให้ดำรงตำแหน่งนายกฯ แต่เจ้าตัวก็ยังไม่สามารถสั่งการได้ เพราะขั้นตอนยังไม่เสร็จสิ้น

ถ้าติดตามการเมืองในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจะเห็นว่าเกิดเหตุการณ์ขึ้นมากมาย แต่เรื่องที่ไม่พูดคงไม่ได้ นั่นคือประเทศไทยของเราได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่ชื่อว่า “อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

เริ่มอย่างเป็นทางการสำหรับที่ประชุมวุฒิสภา ที่ถือว่าวันที่ 5 ส.ค.นั้น เป็นการประชุมครั้งแรก เหล่า สว.ต่างตบเท้าเข้ามาประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งอาคารรัฐสภาที่ทำงานของ สว.นั้นใหญ่มากจนผู้ติดตามของ สว.บางคนเดินหลงทาง

จบไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการเลือกตำแหน่งประธานวุฒิสภาและรองประธานทั้งสอง ที่ผลออกมาตามคาดในใจใครหลายๆ คน ซึ่งวันที่เลือกตรงกับวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์มากมายแต่สถานการณ์ต่างๆ ก็ผ่านไปได้ด้วยดี เพราะมีผู้ควบคุมการประชุมที่ดีนั่นเอง

นับว่าเรื่องนี้ยาวติดต่อกันมาหลายวัน สำหรับ “หมอเกศ” พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สว. ได้คะแนนสูงสุดในการเลือกสว.ระดับประเทศในลำดับที่ 1 แต่สังคมไทยก็ยังมีเรื่องแคลนใจจนถึงปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นเรื่องมหาวิทยาลัยที่เรียน หรือวุฒิการศึกษา ล่าสุดมีคนในโซเชียลได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ในหลายทาง

ประเทศไทยกำลังจะมี สว.อย่างสมบูรณ์ ซึ่งในปีนี้อย่างที่ทราบกันว่าเป็นตัวแทนจากหลากหลายอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง, กลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม

เป็นธรรมเนียมของเช้าวันจันทร์ เมื่อมีประชุมของฝั่งวุฒิสภา ผู้สื่อข่าวจะรวมตัวกันไปดักสัมภาษณ์ สว.ที่หน้าห้องประชุม แต่วันที่ 8 ก.ค.นั้น เป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะร้อนแรง เพราะ สว.จะมีการเสนอญัตติตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อศึกษาถึงการเลือกกันเองของ สว.ชุดใหม่เข้าสู่ที่ประชุม สว.

ช่วงนี้เหล่านักการเมืองหลายคนได้ออกสื่อกันตลอดไม่ขาดสาย เพราะเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา คือเดือนที่ทั้งโลกเรียกว่าเดือนไพรด์ ซึ่งจะมีกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการรณรงค์สมรสเท่าเทียมที่ตอนนี้ผ่านการพิจารณาในที่ประชุมของวุฒิสภาแล้ว เหลือแค่รอบังคับใช้เท่านั้น

ถ้าพูดถึงเรื่องแผนผังโครงสร้างอาคารรัฐสภาเกียกกาย หรือมีอีกชื่อหนึ่งว่า สัปปายะสภาสถาน ที่เป็นอาคารขนาดใหญ่ โดยภายในจะแบ่งเป็น 2 ฝั่ง คือฝั่งวุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร แต่ภายในอาคารทั้ง 2 ฝั่งจะคล้าย หรือเหมือนกันมากๆ

ใกล้เข้ามาทุกทีกับวันพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 68 วาระที่ 1 ในวันที่ 19-21 มิ.ย. ที่ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาลก็ทำงานกันอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะผู้ที่อภิปรายในวันนั้น เชื่อว่าบางคนที่ไม่เคยอภิปรายอาจจะได้เฉิดฉายในวันนั้น

เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย กับการเลือกสว.ระดับอำเภอ ด่านต่อไปก็จะเป็นระดับจังหวัด ซึ่งต้องยอมรับว่าการเลือกสว.ในครั้งนี้มีความซับซ้อน แต่สิ่งที่เป็นฮือฮากันในโลกโซเชียล และเห็นได้จากการเลือกระดับอำเภอคือ

เริ่มต้นเดือนสีรุ้งอย่างเต็มรูปแบบ สำหรับเดือนมิถุนายนของทุกปีที่มีความจัดเต็มขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่ว่าจะเป็นเหล่าเซเลบริตี้ ดารา นักแสดง หรือนักการเมือง ต่างผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียมให้เกิดขึ้นจริง และใช้ได้จริงโดยเร็ว

ประเด็นข่าวการเมืองในช่วงเวลานี้ร้อนแรงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของ 40 สว. ตีความคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีของ เศรษฐา ทวีสิน

ถ้ายังจำกันได้มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เกือบจะเป็นดราม่า เพราะจากการที่พูดบนเวทีใหญ่ทำให้ทุกฝ่ายต่างติดตาม โดยเฉพาะคำพูด “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ทุกครั้งที่มีคำพูดออกมาไม่ว่าจะเป็นตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ