รองโฆษก อสส.เผยอัยการพร้อมปฏิบัติ พ.ร.บ.อุ้มหาย เผย อสส.จัดติวเข้ม อัยการทำหน้าที่ตามกฎหมายใหม่ อย่างมีประสิทธิภาพ
19 ก.พ.2566 – นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดเปิดเผยความคืบหน้า พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายว่า กฎหมายป้องกันการทรมานและอุ้มหายยังจะมีผลบังคับใช้วันที่ 22 ก.พ.นี้ ว่า ตามนโยบาย ท่านอัยการสูงสุดของ น.ส.นารี ตัณฑเสถียร ที่ให้ยกระดับปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานในการคุ้มครองสิทธิ์ประชาชน ใช้กฎหมายในการคุ้มครองสังคม อัยการต้องยกระดับปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานให้ดี ให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม สำนักงานอัยการสูงสุดได้มีการเตรียมความพร้อมในการบังคับใช้ พ.ร.บ.ป้องกันปราบปรามการทรมานการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 โดยได้มีการเตรียมการตั้งแต่ก่อนกฎหมายประกาศในราชกิจจานุเบกษา
โดยตั้งคณะทำงานเตรียมความพร้อมในการดำเนินการตามร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. …. และเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในส่วนของสำนักงานอัยการสูงสุดตามคำสั่งสำนักงานอัยการสูงสุด ที่ 1642/2565
ลงวันที่ 22 ก.ย.65 ซึ่งคณะทำงานได้ประชุมยกร่างระเบียบในการดำเนินการตามกฎหมายดังกล่าว ตลอดจนกำหนดแนวทางปฏิบัติในการดำเนินการของพนักงานอัยการ จนนำไปสู่การประกาศใช้ “ระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2566 และแนวทางปฏิบัติว่าด้วยการดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2566
นายโกศลวัฒน์ ระบุว่า สำนักงานอัยการสูงสุดได้จัด “โครงการสัมมนาการดำเนินการของพนักงานอัยการตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565” เพื่อให้พนักงานอัยการได้กำหนดแนวทางปฏิบัติ ในการนำกฎหมายใหม่นี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชน คุ้มครองสิทธิของประชาชนได้อย่างถูกต้อง ระดมสมองวางแผนในการทำให้กฎหมายเกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อการดูแลสังคม ตามนโยบายท่านอัยการสูงสุด แม้กฎหมายนี้จะต้องมีอุปกรณ์สนับสนุนการทำงานในการบันทึกภาพถ่าย และยังไม่มีการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนตามที่กฎหมายประกาศใช้แต่สำนักงานอัยการสูงสุดก็พร้อมที่จะบริหารการจัดการความ ยุติธรรมให้กฎหมายมีประสิทธิภาพได้ในทันที พร้อมปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายทุกมาตรา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายฯดังกล่าวได้มีการ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 22 ก.พ. 2566 นี้ แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเลื่อนเวลาบังคับใช้ อ้างเหตุผลเรื่องงบประมาณและความพร้อมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ล่าสุด คณะรัฐมนตรี ให้ความเห็นชอบเลื่อนบังคับใช้มาตรา 22-25 พ.ร.บ. ฉบับนี้ แล้ว และให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ต.ค. 2566 เป็นต้นไป
โดยมาตราที่ได้มีการขยายเวลาการบังคับใช้ออกไป มีสาระสำคัญ ดังนี้ มาตรา 22 การควบคุมตัว เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับผิดชอบต้องบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องในขณะจับ และควบคุมจนกระทั่งส่งตัวให้พนักงานสอบสวนหรือปล่อยตัวบุคคลดังกล่าว
มาตรา 23 การควบคุมตัว เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับผิดชอบต้องบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถูกควบคุมตัว
มาตรา 24 การเข้าถึงข้อมูลของผู้ถูกควบคุมตัว
มาตรา 25 การไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถูกควบคุมตัว กรณีอยู่ภายใต้การคุ้มครองของกฎหมาย ละเมิดต่อความเป็นส่วนตัว เกิดผลร้ายต่อบุคคล หรือเป็นอุปสรรคต่อการสืบสวนสอบสวน
สามารถดูรายละเอียดที่เกี่ยวข้องตามลิงค์สำนักงานอัยการสูงสุดจัด “โครงการสัมมนาการดำเนินการของพนักงานอัยการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565” https://www.ago.go.th/140266-54/.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดร.ณัฏฐ์-นักกม.มหาชน ชี้ 'กฎอัยการศึก' สส.ไทยไม่สามารถยกเลิกได้ แตกต่างจากเกาหลีใต้
“ดร.ณัฏฐ์” มือกฎหมายมหาชน เผย กฎอัยการศึกสถานะเป็นพระราชบัญญัติ การยกเลิกในประเทศเกาหลีใต้กระทำโดยมติสภา แตกต่างจากประเทศไทย สส.ตัวแทนประชาชน ไม่สามารถยับยั้งยกเลิกได้
แห่หนุนร่างกฎหมาย 'จัดระเบียบกลาโหม' ฉบับเพื่อไทย ตัดท่ออำนาจเหล่าทัพสกัดยึดอำนาจ
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้เผยแพร่ในส่วนของการรับฟังความเห็นร่างพ.ร.บ.ตามรัฐธรรมนูญ
'ทักษิณ' หลุดปาก 'ยิ่งลักษณ์' จะกลับบ้าน แสดงถึงอาการร้อนรนในสถานการณ์ 22 พ.ย.
'จตุพร' แทงสวน อสส.ส่งความเห็นหลังปล่อยอำนาจหลุดมือ เชื่อ 22 พ.ย. ศาลรธน. มติเอกฉันท์ รับคำร้อง โต้สีอื่นไม่เคยตกใส่เสื้อแดง มีแต่สีคนตระบัดสัตย์ไม่ซื่อตรงปชช. ชี้ 'ทักษิณ' หลุดปาก 'ยิ่งลักษณ์' จะกลับบ้าน แสดงถึงอาการร้อนรนในสถานการณ์ เตือนหลายฝ่ายทนไม่ไหว คดีทุจริตไม่ติดคุกสักวัน หวั่นเหตุการณ์ซ้ำรอย
ทักษิณ-พท.โคม่า! ธีรยุทธเมินอสส.ตัดตอน เทียบคดีก.ก.ศาลรับร้อง
อสส.ไม่รับดำเนินคดี "ทักษิณ-เพื่อไทย" ล้มล้างการปกครอง
เข้าทาง! ผู้ร้องคดี 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง ฟันธงศาลรธน. รับคำร้องแน่นอน
จากกรณีที่มีข่าวว่านายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ อัยการสูงสุด ได้ส่งหนังสือความเห็นถึงศาลรธน.ในคำร้องคดีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ร้องว่า นายทักษิณ ชินวัตร ผู้ถูกร้องที่หนึ่งและพรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้องที่สอง