ป.ป.ช. ขานรับมาตรการป้องกันโอมิครอน ให้ จนท.เดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยง WFH 7 วัน และกำหนดให้มาปฎิบัติหน้าที่ 50% เพื่อไม่ให้กระทบการบริการประชาชน
2 ม.ค.2565 – นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ลงนามในประกาศแนวปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) ภายหลังเทศกาลปีใหม่ของสำนักงานป.ป.ช.
นายนิวัติไชย กล่าวว่า เพื่อให้สอดคล้องกับ กรณีที่สำนักนายกฯได้มีหนังสือแจ้งข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีในการยกระดับมาตรการป้องกันและควบคุมโรคในสถานที่ราชการ และหน่วยงานของรัฐ ภายใต้การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยให้หัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐพิจารณาสั่งการให้ข้าราชการเจ้าหน้าที่หรือบุคคลในความรับผิดชอบ พิจารณาดำเนินการตามแนวปฏิบัติภายหลังเทศกาลปีใหม่ตามที่กำหนดระหว่างวันที่ 1-14 มกราคม 2565 และเพื่อความเหมาะสมในการปฏิบัติราชการ สำนักงานป.ป.ช. จึงกำหนดแนวปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ภายหลังเทศกาลปีใหม่ ดังนี้
นายนิวัติไชย กล่าวว่า 1.ให้ส่วนราชการในสังกัดสำนักงานป.ป.ช. พิจารณาให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดผู้เดินทางกลับภูมิลำเนาเดิมช่วงปีใหม่โดยเฉพาะจังหวัดที่ตรวจพบเชื้อโอมิครอน เมื่อกลับมาปฏิบัติงานให้ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งหน่วยงาน (เวิร์คฟอร์มโฮม) เป็นระยะเวลา 7 วันโดยกำหนดสัดส่วนให้มีผู้มาปฏิบัติงานไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนเจ้าหน้าที่ในสังกัดทั้งหมด ทั้งนี้ต้องไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการปฎิบัติงานของคณะกรรมการป.ป.ช.และสำนักงานป.ป.ช. และการให้บริการประชาชนรวมทั้งผลปฏิบัติงานตามคำรับรองการปฏิบัติงานของส่วนราชการ
นายนิวัติไชย กล่าวด้วยว่า 2. ผู้ที่เวิร์คฟอร์มโฮมเมื่อครบกำหนดระยะเวลาให้ตรวจคัดกรองเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีชุดตรวจแอนติเจน เทสต์ คิท (เอทีเค) ด้วยตัวเองและรายงานผลการตรวจให้ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดทราบ 3.ส่วนราชการที่มีกำหนดการจัดกิจกรรม ที่ส่งผลให้มีการรวมกลุ่ม หรือเคลื่อนที่ของกลุ่มคนจำนวนมากให้พิจารณายกเลิก ระงับ หรือเลื่อนการจัดกิจกรรมดังกล่าวหากมีความจำเป็นให้จัดกิจกรรมโดยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ให้มากที่สุด ยกเว้นกิจกรรมใดที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อทางราชการ หากมีความจำเป็นต้องจัดกิจกรรมให้ขออนุมัติต่อผู้บังคับบัญชาเหนือขึ้นไป ที่กำกับดูแล และให้ดำเนินการภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด อย่างเต็มขีดความสามารถ
นายนิวัติไชย กล่าวด้วยว่า 4.ให้ส่วนราชการจัดให้มีแอลกอฮอล์ล้างมือ และกำชับการใส่หน้ากากอนามัย รวมทั้งการเว้นระยะห่างของเจ้าหน้าที่ในสังกัดและผู้ที่มาติดต่อราชการอย่างเคร่งครัด 5.ให้ผู้บริหารที่กำกับดูแลส่วนราชการแต่ละแห่งเป็นผู้พิจารณาวินิจฉัยการดำเนินการอื่นใดของส่วนราชการที่รับ ผิดชอบเพื่อให้เป็นไปตามแนวปฏิบัติที่สำนักงานป.ป.ช. กำหนดและมาตรการป้องกันโควิด-19 ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และรายงานให้เลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช. ทราบ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ป.ป.ช.'ฟันจริยธรรมร้ายแรง'ศุภชัย โพธิ์สุ-สุชาติ ภิญโญ'
'ป.ป.ช.' ฟันจริยธรรมร้ายแรง 2 อดีต สส. 'ศุภชัย โพธิ์สุ' สมัยนั่ง รมช.เกษตรฯ ถือครองที่ดิน น.ส.2 โดยไม่มีคุณสมบัติ 'สุชาติ ภิญโญ' โดนด้วย มี ภ.บ.ท. 5 วังน้ำเขียว
'สมชัย' ข้องใจ 'สส.-สว.' อุบเงียบปมจดหมายบิ๊กโจ๊กรั่ว!
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
'รองธนา' ไม่กังวลปม'โจ๊ก'ร้อง ป.ป.ช.กลั่นแกล้ง!
'รองธนา' หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดี 'บิ๊กโจ๊ก' ยันทำตามหน้าที่ไม่มีเจตนากลั่นแกล้ง โดยมีอัยการ-ปปง.ร่วมสอบ
บิ๊กโจ๊กกลับลำถอนฟ้องนายกฯ
"บิ๊กโจ๊ก" ถอนคำร้องเอาผิด "เศรษฐา" อ้างไม่ติดใจแล้ว เลขาฯ
'เทพไท' ผสมโรง! เอกสาร 'บิ๊กโจ๊ก' ประจาน ระบอบทักษิณ-ยุคคสช. องค์กรอิสระที่ไม่อิสระจริง
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช กองเชียร์พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กว่า จากระบอบทักษิณ ถึงยุค คสช. องค์กรอิสร
‘โจ๊ก’ทิ้งบอมบ์ลูกใหญ่ ยื่นปปช.เอาผิดนายกฯขวาง‘สุชาติ’ลาก‘ป้อม’จุ้นองค์กรอิสระ
วงแตก! "บิ๊กโจ๊ก" ทิ้งระเบิดลูกใหญ่ เปิดศึกรอบด้าน ยื่นประธาน ป.ป.ช.สอบ “เศรษฐา”