30 ต.ค2567- ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์เฟซบุ๊กว่า
UNCLOS ไม่เสียเกาะกูดแน่แถมได้พื้นที่ส่วนใหญ่
หลายคนอาจสงสัยว่า UNCLOS ที่อ่านออกเสียงว่า "อันโคลซ" คืออะไร? และมีความสำคัญต่อทางออกของผลประโยชน์ชาติในท้องทะเลอย่างไร? โดย UNCLOS คือ อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1982 หรือ United Nations Convention on the Law Of the Sea (UNCLOS) มีประโยชน์ประการสำคัญในการช่วยแบ่งพื้นที่ในท้องทะเลตามหลักสากล มีความเป็นธรรม และไม่ทำให้ไทยเสียประโยชน์ ประชาชนคนไทยทั้งประเทศจึงต้องช่วยกันสร้างการรับรู้
สาเหตุสำคัญที่กัมพูชาเป็นชาติเดียวในภูมิภาคแทบนี้ที่ไม่ยอมเข้าร่วม UNCLOS เพราะกัมพูชารู้ดีว่าเข้าร่วม UNCLOS แล้วจะเสียเปรียบ สมมติฐานของการประกาศเขตแดนทางทะเลของกัมพูชาตาม MOU 2544 ค่อนข้างเกินจริงมาก หากกัมพูชาเข้าร่วม UNCLOS พื้นที่ทับซ้อนในท้องทะเล Overlapping Claims Area (OCA) ขนาดประมาณ 26,000 ตารางกิโลเมตร และทรัพยากรธรรมชาติมูลค่าหลายล้านล้านบาทตามที่ถกเถียงกันมานาน ส่วนใหญ่จะตกเป็นของไทย
เนื่องจากหลักการสำคัญของ UNCLOS ถือว่าภายใน 200 ไมล์ทะเลจากเส้นฐานของรัฐชายฝั่งจะเรียกว่า เขตเศรษฐกิจจำเพาะ หรือ Exclusive Economic Zone (EEZ) ทรัพยากรธรรมชาติมูลค่ามหาศาลในท้องทะเลจะตกเป็นสิทธิ์ขาดของรัฐชายฝั่งเพียงผู้เดียว ซึ่งการกำหนด EEZ เป็นวิทยาศาสตร์ มีหลักการและกฎหมายระหว่างประเทศที่มีมาตรฐานรองรับ ไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถขีดเส้นแบ่งกันมั่วๆ เห็นได้ชัดว่ากรอบและกติกาของ UNCLOS เป็นประโยชน์ต่อการเจรจาของไทยอย่างมาก
UNCLOS จึงเป็นทางออกที่เป็นสากล โปร่งใส และมีความเป็นธรรม สามารถยุติปัญหาพื้นที่ทับซ้อนได้ในทันที เพราะแผนที่ทางทะเลตามหลักการของ UNCLOS มีออกมานานแล้วและแพร่หลายอยู่ทั่วไป สิ่งที่เหลือให้ทางไทยและกัมพูชายังต้องเจรจากันอีก คือ หลุมน้ำมันดิบและหลุมก๊าชธรรมชาติที่วางตัวก้ำกึ่งอยู่ในแนวเส้นแบ่งเขตแดนทางทะเลของทั้งสองประเทศ ต้องตกลงกันว่ามีกี่หลุม หลุมไหนบ้าง ซึ่งวิทยาการสมัยใหม่น่าจะช่วยแบ่งผลประโยชน์ตามปริมาตรจริงได้อย่างเป็นธรรม
ดังนั้น ถ้ายึดตามแผนที่เขตเศรษฐกิจจำเพาะของ UNCLOS ไทยจะไม่สูญเสียเกาะกูดแน่ อีกทั้งพื้นที่ทับซ้อนส่วนใหญ่ที่มีมาแต่เดิมจะตกเป็นของไทย นับได้ว่าเป็นแนวทางที่ไทยได้ประโยชน์อย่างชัดเจนที่สุด การเจรจาผลประโยชน์ชาติในท้องทะเลจึงไม่ควรเกิดขึ้นโดยเด็ดขาดหากกัมพูชายังไม่ยอมเข้าร่วม UNCLOS และหากรัฐบาลไทยยอมเจรจากับกัมพูชาภายใต้ MOU 2544 ไม่ใช่ UNCLOS ตามที่ควรจะเป็น ก็เท่ากับว่ารัฐบาลไทยกระทำให้ไทยเป็นฝ่ายเสียเปรียบเสียเอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘สุริยะใส’ ซัดรัฐบาล ‘เลี่ยงบาลี-หนีความจริง-ทิ้งปัญหา’ ตั้งแต่ MOU44 ยัน กาสิโน
การชี้แจงข้อพิพาทในประเด็นต่างๆ ของรัฐบาล เช่น กรณีเกาะกูดและ MOU 44 รวมถึงประเด็นกาสิโน หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ รัฐบาลใช้วิธีแบบ 'เลี่ยงบาลี หนีความจริง ทิ้งปัญหา'
'เกาะช้าง-เกาะกูด' โกยรายได้พุ่งกว่า 300 ล้าน
นักท่องเที่ยวทะลักลงเกาะช้าง เกาะกูดปลายปี 67 เผยวันที่ 30 ธค.67 มากสุด ผอ.ททท.ตราดระบุเกิน 3.5 หมื่นคน รายได้กว่า 323 ล้านบาท
'นพดล' ฟังทางนี้! 'หมอวรงค์' จับโป๊ะ คำชี้แจง 'MOU 44'
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "ถึงนพดล ปัทมะ" โดยระบุว่า คำพูดของนายนพดล ปัทมะ ที่ชี้แจงพันธมิตรฯ เรื่อง MOU 44
จี้รัฐบาลประท้วงกัมพูชา
"สนธิรัตน์" นำทีมพลังประชารัฐลงพื้นที่ตราด "ดร.ม.ล.กรกสิวัฒน์" ชี้อันตรายมาก แนวสันเขื่อนดินที่กัมพูชาสร้างต่อเติมออกไป หากไม่มีการประท้วงหรือไม่มีข้อคัดค้านใดๆ ก
พปชร. ลงตราด ชวนชาวบ้านในพื้นที่ร่วมคัดค้าน MOU 44
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานร่วมศูนย์นโยบาย และวิชาการ และ ดร.ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี กรรมการบริหาร พรรคพลังประชารัฐ ได้เดินทางมาเยี่ยมพี่น้องประชาชนในจังหวัดตราด โดยได้รับการประสานงานจากประชาชนในพื้นที่
‘เกาะกูด’ สงครามที่ ‘ทักษิณ’ ไม่มีทางชนะ จับตาจะถอยอย่างไร ไม่ให้ตัวเองเสียหน้า และ ‘ฮุนเซน’ เสียใจ
ประเด็นเรื่องเกาะกูดเป็นของไทยหรือไม่ นั้น ได้ข้อยุติจากคุณทักษิณเมื่อวานนั้น ว่ารัฐบาลไทยก็เห็นด้วย ว่าเป็นของคนไทย แต่จะเห็น