'เอ็ดดี้' ชำแหละ! แผนรัฐบาลคุม 'แบงก์ชาติ' บรรลุ 6 เป้าหลัก

4 พ.ย. 2567 – นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “เอ็ดดี้ อัษฎางค์” ในหัวข้อ “อะไรคือจุดประสงค์ของการแทรกแซงแบงก์ชาติจากฝ่ายการเมือง” โดยระบุว่า

รัฐบาลที่พยายามส่งคนของตนเข้ามาบริหารหรือควบคุมแบงก์ชาติมักมีจุดประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับการบรรลุผลประโยชน์ทางการเมืองหรือเศรษฐกิจในระยะสั้น ซึ่งบางครั้งอาจไม่สอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาวของการพัฒนาเศรษฐกิจที่แบงก์ชาติมุ่งหมาย นี่คือเหตุผลหลักบางประการที่รัฐบาลอาจต้องการควบคุมแบงก์ชาติ

1.การกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น

รัฐบาลบางครั้งต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน เช่น การลดอัตราดอกเบี้ยหรือการพิมพ์เงิน เพื่อเพิ่มสภาพคล่องและสนับสนุนการบริโภคและการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการสร้างความนิยมในหมู่ประชาชน รัฐบาลอาจย่อมต้องการให้แบงก์ชาติลดดอกเบี้ยหรือทำให้ค่าเงินอ่อนลงเพื่อส่งเสริมการส่งออกและกระตุ้นเศรษฐกิจ แม้ว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจเช่นนี้อาจส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อและเสถียรภาพทางการเงินในระยะยาว

2.การจัดการหนี้สาธารณะ

ในกรณีที่รัฐบาลมีหนี้สาธารณะสูง รัฐบาลอาจต้องการควบคุมแบงก์ชาติเพื่อบรรลุเป้าหมายในการลดภาระหนี้ เช่น การพิมพ์เงินเพิ่มเติมเพื่อชำระหนี้หรือการกดดันให้แบงก์ชาติซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพื่อช่วยบรรเทาวิกฤติหนี้ การกระทำเช่นนี้อาจทำให้ภาระดอกเบี้ยลดลงในระยะสั้น แต่ส่งผลเสียต่อเสถียรภาพทางการเงินในระยะยาว เช่น กรณีวิกฤตหนี้ในยุโรปหรือซิมบับเว

3.การสนับสนุนนโยบายการคลัง

รัฐบาลที่มุ่งเน้นนโยบายการใช้จ่ายอย่างหนัก (expansionary fiscal policy) เช่น การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานหรือโครงการประชานิยม มักต้องการสภาพคล่องจากการกู้ยืมหรือการลดดอกเบี้ยจากแบงก์ชาติ การเข้ามาควบคุมแบงก์ชาติอาจทำให้รัฐบาลสามารถสนับสนุนการใช้จ่ายของตนเองโดยไม่ต้องเผชิญกับการคัดค้านทางการเงินหรือการควบคุมดอกเบี้ยที่เคร่งครัด

4.การควบคุมอัตราแลกเปลี่ยน

รัฐบาลบางครั้งพยายามเข้าไปมีอิทธิพลในแบงก์ชาติเพื่อควบคุมอัตราแลกเปลี่ยน โดยเฉพาะในกรณีที่รัฐบาลต้องการให้อัตราแลกเปลี่ยนที่ต่ำลงเพื่อกระตุ้นการส่งออก การควบคุมค่าเงินอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของเงินตราในระยะยาว โดยเฉพาะหากการกระทำเช่นนี้ไม่ได้เป็นไปตามหลักการทางเศรษฐกิจที่สมเหตุสมผล

5.ความนิยมทางการเมือง

การดำเนินนโยบายที่ประชาชนเห็นว่าช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตในระยะสั้น แม้จะเสี่ยงต่อความไม่ยั่งยืนในระยะยาว อาจช่วยเพิ่มความนิยมให้กับรัฐบาล รัฐบาลอาจพยายามกดดันแบงก์ชาติให้ดำเนินนโยบาย เช่น การพิมพ์เงิน หรือการลดดอกเบี้ยเพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจและการจ้างงานในช่วงใกล้การเลือกตั้ง

6.การควบคุมภาวะเงินเฟ้อแบบไม่ยั่งยืน

ในบางกรณีที่เศรษฐกิจของประเทศประสบภาวะเงินเฟ้อหรือเงินฝืดสูง รัฐบาลอาจต้องการแทรกแซงแบงก์ชาติเพื่อปรับลดหรือเพิ่มอัตราดอกเบี้ยตามนโยบายทางการเมือง แม้ว่าการกระทำเช่นนี้อาจไม่สอดคล้องกับแนวทางการแก้ปัญหาในระยะยาว เช่น การลดอัตราดอกเบี้ยต่ำจนเกินไปอาจทำให้เกิดเงินเฟ้อสูงเกินไป และส่งผลเสียต่อค่าเงินของประเทศ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ขึ้น 'รถไฟฟ้า-รถเมล์' ฟรี 7 วัน! รัฐบาลล้วงงบกลางแก้ฝุ่น PM2.5

นายกฯ สั่งคมนาคม ให้ประชาชนขึ้น 'รถไฟฟ้า - รถขสมก.' ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค. แก้ปัญหา PM 2.5 เตรียมชงครม.ใช้งบกลางชดเชย 140 ล้านบาท พร้อมตั้ง 8 จุตรวจจับควันดำ

'แก้วสรร' แพร่บทความ 'อำนาจนอกระบบของทักษิณ'

นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ อดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ออกบทความเรื่อง “อำนาจนอกระบบของทักษิณ" มีเนื้อหา ดังนี้

บี้ 'อิ๊งค์' ปกป้อง 'เอกนัฏ' ล่าไอ้โม่งลงขันเปลี่ยนตัว รมว.อุตสาหกรรม

24 ม.ค. 2568 - นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "ปกป้อง เอกนัฏ" โดยระบุว่า ติดตามข่าวการตอบกระทู้ถามสด ของนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องการปิดโรงงานน้ำตาลไทยอุดรธานี จ.อุดรธานี ถึงการเลือกปฏิบัติในการรับซื้ออ้อยเผาของ นายธีระชัย แสนแก้ว สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย รู้สึกตกใจกับคำตอบของนายเอกนัฏ ตอนหนึ่งในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่ามีการลงขันจำนวนเงิน 200- 300 ล้านบาท เพื่อย้ายนายเอกนัฎ ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่สำหรับการเมืองไทย ที่มีกลุ่มทุนอิทธิพลเหนือการเมือง ใช้เงินลงขันด้วยเงินหลักร้อยล้านบาท เพื่อเปลี่ยนตัวผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ถ้าหากเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ขอให้กำลังใจนายเอกนัฎ ในการต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง และควรจะเปิดเผยชื่อตัวการลงทุนย้ายนายเอกนัฎออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี หากไม่สามารถเปิดเผยชื่อต่อสังคมได้ ก็ควรนำเรื่องนี้ไปเรียนให้กับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้มีอำนาจในการปรับคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ทราบว่ามีกลุ่มบุคคลหนึ่ง ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลเหนือการเมือง สามารถใช้เงินทุนโยกย้ายเปลี่ยนแปลงผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีได้ หากนางสาวแพทองธาร ยังเอาไม่อยู่ เพราะไม่มีอำนาจที่แท้จริง ก็ต้องนำเรื่องนี้ให้ถึงมือของนายทักษิณ ชินวัตร ผู้มีอำนาจทางการเมืองสูงสุด เป็นเจ้าของรัฐบาลตัวจริง และสามารถสั่งการเปลี่ยนแปลงคณะรัฐมนตรีได้แต่เพียงผู้เดียว ถ้าหากเรื่องนี้เป็นความจริง นางสาวแพทองธาร จะต้องปกป้องนายเอกนัฎ เพราะการดำเนินนโยบายห้ามไม่ให้โรงงานน้ำตาลรับซื้ออ้อยเผา เป็นมาตรการป้องกันมลพิษ PM 2.5 ตามนโยบายของนางสาวแพทองธาร แต่ถ้าเมื่อนายเอกนัฎได้ปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบายของนางสาวแพทองธารแล้ว แต่ไปสะดุดต่อ นางสาวแพทองธารในฐานะหัวหน้ารัฐบาล จะต้องรับผิดชอบ และสืบหาตัวไอ้โม่งผู้อยู่เบื้องหลังการลงขัน เพื่อเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีอุตสาหกรรมให้ได้ ขอให้สังคมเรียกร้อง กดดันให้รัฐบาล เปิดโปงขบวนการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีออกมาให้สังคมรับรู้ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้อยู่ภายใต้อิทธิพลกลุ่มทุนใดๆ ทั้งสิ้น.

รับคำสั่งเสือกทุกเรื่อง! 'คลัง' เผยกำลังศึกษาแนวทางใช้บิตคอยน์-เงินดิจิทัลในแซนด์บ็อกซ์

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุ ถึงการทำแซ

ตัดออกเป็นล้าน ‘คลัง’ เผยผู้สูงอายุรับเงินหมื่นเฟส 2 เหลือ 3 ล้านคน

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดอัปเดตการตรวจสอบสิทธิโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ 10,000 บาทจากรัฐบาลว่า เบื้องต้นคาดว่า จะมีจำนวนผู้มีสิทธิรับเงิน 10,000 บาท 3.02 ล้านค