กสม.เร่งประสานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนกรณีอุทยานแห่งชาติเขาแหลมสั่งขับไล่ชาวบ้านออกจากพื้นที่แบบเหมารวม หลังสมาชิกในครอบครัวถูกดำเนินคดีข้อหาล่าเสือโคร่ง
03 ก.พ.2565 - คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) โดยนายวสันต์ ภัยหลีกลี้ และ น.ส.ศยามล ไกยูรวงศ์ กสม.แถลงข่าวว่า ตามที่ กสม.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านหมู่บ้านปิล๊อกคี่ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 5 ราย แจ้งว่าถูกดำเนินคดีในข้อหาล่าสัตว์ป่าคุ้มครองเสือโคร่งที่ใกล้สูญพันธุ์ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี โดยผู้ร้องกล่าวอ้างว่า การกระทำดังกล่าวเป็นไปเพื่อป้องกันฝูงปศุสัตว์ที่ถูกเสือเข้ามากัดกิน และเพื่อป้องกันอันตรายจากเสือที่จะเข้ากัดกินโคกระบือและเด็กเล็กที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน จึงได้ยิงเสือและนำเนื้อมาประกอบอาหารเพื่อมิให้การตายของเสือดังกล่าวต้องเสียเปล่าไป โดยผู้ร้องทั้ง 5 รายได้ติดต่อมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่แล้ว อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2565 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม จังหวัดกาญจนบุรี ได้ออกคำสั่งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง บ้านเรือนทั้งหมด 4 หลัง และให้ครอบครัวและญาติพี่น้องของผู้ร้องออกจากเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ซึ่งผู้ร้องเห็นว่า ครอบครัวและญาติพี่น้องของพวกตนมิได้ร่วมกระทำความผิดด้วยแต่อย่างใด จึงเข้าข่ายเป็นการกระทำที่ไม่เป็นธรรม เลือกปฏิบัติ และเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน จึงร้องเรียนมายัง กสม.
ในเบื้องต้น น.ส.ศยามลได้ประสานทางโทรศัพท์ไปยังผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) และหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2565 เพื่อขอทราบข้อเท็จจริงและได้ขอให้มีการพิจารณาแยกออกจากกันระหว่างกรณีการกระทำความผิดในข้อหาล่าสัตว์ป่าคุ้มครองกับกรณีการมีคำสั่งให้ญาติของผู้กระทำความผิดออกจากเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม รวมทั้งการให้รื้อถอนบ้านหรือโรงเรือน โดยมิควรพิจารณาในลักษณะการเหมารวม นอกจากนี้ยังได้หารือถึงกรณีที่รัฐบาลมีนโยบายแก้ปัญหาบุคคลที่อยู่อาศัยหรือทำกินในอุทยานแห่งชาติ รวมทั้งเรื่องการแก้ไขและป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้น โดยการหารือร่วมกันระหว่างหัวหน้าอุทยานแห่งชาติกับผู้นำท้องถิ่น องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น และชาวบ้านในหมู่บ้านปิล๊อกคี่
กสม. เห็นว่า สิทธิของบุคคลในทรัพย์สินเป็นสิทธิที่ได้รับการรับรองไว้ตามมาตรา 37 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 กรณีการมีคำสั่งให้ญาติหรือบริวารของผู้ร้องออกจากเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลมและการมีคำสั่งให้รื้อถอนบ้านและโรงเรือน รวมไปถึงกรณีที่จะต้องมีการจัดการเรื่องพื้นที่การเลี้ยงโคกระบือของชาวบ้านนั้น เป็นเรื่องที่สมควรประสานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงมีมติให้แจ้งประสานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนไปยังสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) และอุทยานแห่งชาติเขาแหลม กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจตามแนวทางที่ได้หารือกันในเบื้องต้นไว้ และขอทราบผลการดำเนินการภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ ซึ่งขณะนี้ สำนักงาน กสม. อยู่ระหว่างการแจ้งเป็นหนังสือไปยังหน่วยงานดังกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กสม.แนะแก้ระเบียบราชทัณฑ์ให้ ผู้มีความหลากหลายทางเพศ สวมเสื้อชั้นในได้
กสม. แนะแก้ระเบียบราชทัณฑ์ว่าด้วยการแต่งกายสำหรับผู้ต้องขัง ให้ผู้มีความหลากหลายทางเพศสามารถสวมเสื้อชั้นในหรือแต่งกายตามเพศสภาพได้ เพื่อป้องกันการถูกคุกคามทางเพศและขจัดการเลือกปฏิบัติในเรือนจำ
กสม.แถลงค้าน ปิดศูนย์เรียนรู้เด็กข้ามชาติ ชี้สถานศึกษาในพื้นที่ ยังไม่มีความพร้อม
ตามที่สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานีประกาศปิดศูนย์การเรียนมิตตาเย๊ะ บางกุ้ง ตำบลบางกุ้ง อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ธำรงวินัยทหารเกณฑ์จนตายย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ กสม.ร้องเอาผิด!
กสม.ชี้กรณีทหารเกณฑ์วัย 18 ปี ถูกธำรงวินัยจนเสียชีวิต ละเมิดสิทธิในชีวิตและร่างกาย เตรียมส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด - คกก.ป้องกันการทรมานฯ เอาผิดตามกฎหมาย
อำเภอเดียว เจอ 2 ศพในเวลาไล่เลี่ยกัน รายแรกดับปริศนา อีกรายใช้ปืนยิงตัวตาย
พ.ต.ท.เกรียงศักดิ์ บัวโพธิ์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรีได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่าได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า เกิดเหตุมีคนพบศพผู้เสียชีวิต
'กสม.' ชี้ ก่อสร้างโรงแรมใน ภูเก็ต ขาดการมีส่วนร่วมปชช. จี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไข
'กสม.' ชี้ โครงการก่อสร้างโรงแรมของบริษัทเอกชนใน จ.ภูเก็ต ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน กระทบสิทธิและวิถีชีวิตของชาวเลราไวย์ แนะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไข
กสม.เสนอทบทวนสถานที่ตั้งโครงการเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ อ.องครักษ์
กสม. เสนอทบทวนสถานที่ตั้งโครงการเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาด 20 เมกะวัตต์ ในพื้นที่ อ.องครักษ์ จ.นครนายก ย้ำชุมชนและประชาชนที่จะได้รับผลกระทบต้องมีส่วนร่วมตัดสินใจ