'เพื่อไทย' ข้องใจ 'ปชป.' นิ่งเงียบเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียว

'เพื่อไทย' ซัด 'ประชาธิปัตย์' นิ่งเงียบรถไฟฟ้าสายสีเขียว หวั่นรถไฟสายสีส้มเริ่มประวิงเวลา ส่อแววหมกเม็ดหาประโยชน์

23 ก.พ.2565 - นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีรัฐบาลพยายามขยายอายุสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้บีทีเอส โดยหลบหลีกการประมูลภายใต้พระราชบัญญัติร่วมทุนว่า การลุแก่อำนาจ เอื้อประโยชน์ให้นายทุนของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ในครั้งนี้ จะทำให้กลุ่มทุนเก็บเกี่ยวผลประโยชน์เอาจากประชาชน ด้วยการขึ้นค่าโดยสารซึ่งรัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ในอนาคตจนกว่าจะหมดสัญญาสัมปทานในอีก 37 ปี เป็นการผูกขาดการบริหารระบบขนส่งมวลชนโดยภาคเอกชนไปจนถึงปี 2602 ซึ่งรวมถึงอาจปิดประตูระบบตั๋วร่วม และการลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงได้อย่างแท้จริง จึงอยากวอนขอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ทุกพรรคฟังเสียงประชาชนบ้าง อย่าปล่อยผ่านและซ้ำเติมปัญหาค่าครองชีพของประชาชนเช่นนี้ และอยากตั้งคำถามไปถึง ครม.ในสัดส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ว่าเหตุใดจึงไม่เคยมีท่าทีคัดค้านที่หนักแน่นในการต่อสัญญาที่ทำร้ายคนกรุงเทพฯ ในวงกว้างครั้งนี้ หรือว่าพรรค ปชป.ทิ้งคนกรุงเทพฯ แล้ว จึงยอมปล่อยให้รัฐบาลที่มีเสียงสนับสนุนจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ทำอะไรได้ตามอำเภอใจ ถ้าเป็นเช่นนั้นคนกรุงเทพฯ คงต้องจนใจ

นายชนินทร์กล่าวว่า ภายหลังจากที่ศาลปกครองมีคำวินิจฉัยชี้แล้วว่าการแก้หลักเกณฑ์การประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรีของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ( รฟม.) ไม่ชอบด้วยกฎหมาย รัฐบาลก็ควรรีบคลี่คลายปัญหาที่ค้างคาอยู่ แล้วเร่งเปิดประมูลใหม่ให้ถูกต้อง อย่าลากเรื่องค้างคาให้เป็นปัญหาระยะยาวต่อประชาชน จึงอยากเสนอให้รัฐบาลพิจารณาใหม่ดังนี้

1.แยกประมูลบริหารการเดินรถช่วง ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี (ตะวันออก) ที่ก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จแล้วออกจากช่วง บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม (ตะวันตก) ที่ยังไม่เริ่มสร้าง เพื่อให้สามารถให้บริการได้ก่อน ไม่ต้องรอประมูลเบ็ดเสร็จทั้งเส้น

2.พิจารณาเปลี่ยนรูปแบบการลงทุนรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงตะวันตกจากเดิมที่ให้เอกชนเป็นผู้ลงทุน มาเป็นให้รัฐเป็นผู้ลงทุนก่อสร้างเอง เพื่อที่จะสามารถเชื่อมต่อระบบในอนาคตได้สะดวก และควบคุมราคาและระบบตั๋วได้ทันที

3.ออกแบบสัญญาประมูลบริหารการเดินรถที่คำนึงถึงประชาชนผู้ใช้บริการเป็นที่ตั้ง คิดค่าบริการเป็นระบบเดียวกันทั้งโครงข่าย คิดค่าแรกเข้าทีเดียว และบังคับให้รองรับระบบตั๋วร่วมทันที เพื่อทำให้การบริการรถไฟฟ้าเป็นขนส่งเพื่อมวลชนและเพื่อสาธารณะที่แท้จริง

“รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เห็นปัญหาในอดีตมาโดยตลอดว่าการอนุมัติให้เอกชนก่อสร้างทางและรางเป็นเหตุให้ค่าโดยสารมีราคาสูง หากเห็นแก่ประชาชนจริง ควรพิจารณาให้ภาครัฐเป็นเจ้าของโครงสร้างพื้นฐานเอง แล้วว่าจ้างเอกชนในการเดินรถและซ่อมบำรุงรถแทน จะช่วยป้องกันการผูกขาดการให้บริการและปรับราคาค่าโดยสารลงมาได้ เพื่อให้ประชาชนทุกคนสามารถใช้รถไฟฟ้าได้อย่างเท่าเทียมกัน”นายชนินทร์กล่าว

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ธรรมนัส' เชื่อ 'บิ๊กป้อม' มีชื่อสำรอง หาก 'ไผ่ ลิกค์' คุณสมบัติไม่ผ่านเป็นรมต.

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอชื่อต่อนายกรัฐมนตรีแล้วหรือไม่ กับโควตาที่ยังว่างอยู่ ว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรียังไม่ได้ส่งสัญญาณอะไร

'พิชัย' เซ็ง 'แบงก์ชาติ' ไม่ลดดอกเบี้ยถามสังคมแบบนี้ควรมีอิสระไหม!

'พิชัย' ผิดหวัง 'แบงก์ชาติ' ไม่ลดดอกเบี้ย ทั้งที่ภาพรวมเศรษฐกิจแย่ แต่กลับไม่เดือดร้อน ชี้ไม่ใช่หน้าที่แบงก์ชาติมากำหนดอัตราการเติบโต แนะอย่าอ้างว่าต้องอิสระบนความเดือนร้อนของประชาชน

รอลุ้นครม.เศรษฐา 2 พปชร.ยังส่ง 'ไผ่ ลิกค์' นั่งรมช. ภูมิใจไทยไม่ขยับ

ความเคลื่อนไหวในการปรับ ครม. “เศรษฐา 2” หลังเทศกาลสงกรานต์ นั้น ล่าสุดมีรายงานข่าวว่า ในส่วนของ พรรคร่วมรัฐบาล โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.)

'เศรษฐา' ไม่ติดใจ 'ทักษิณ' มีบารมีมากกว่า

นายเศรษฐา​ ทวีสิน​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ​ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพบ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษที่อยู่ระหว่างการพักโทษ เพื่อรดน้ำขอพรวันสงกรานต์