การเมืองต่ำตม

พอจะได้ข้อสรุปในเบื้องต้น

กรณี ลาซาด้า ถูกเขย่า จนแยกแยะได้ว่า พรรคการเมืองไหน กลุ่มการเมืองไหน ไม่สะทกสะท้านกับการล้อเลียนสถาบันเบื้องสูง 

และพรรคการเมืองไหน กลุ่มการเมืองไหน เป็นทุกข์เป็นร้อนกับเรื่องนี้

ที่จริง การแบ่งฝักฝ่ายไม่ว่าเรื่องอะไร เป็นธรรมชาติของมนุษย์ เพราะความชอบ รสนิยม หรือความเชื่อนั้นแตกต่างกัน

แต่ความแตกต่างในบางเรื่อง น่าวิตกกังวล เพราะเป็นความแตกต่างเพื่อทำลาย

ประเด็นที่มีปัญหาหนักหนาสาหัสในวันนี้คือ การใช้เสรีภาพ

เสรีภาพ คืออะไร?

มีคนจำนวนไม่น้อยเหมารวมว่า สิทธิและเสรีภาพคือเรื่องเดียวกัน นำไปสู่การใช้เสรีภาพเกินขอบเขต ไปละเมิดผู้อื่น เพราะเข้าใจว่าเป็นสิทธิที่ทำได้

สิทธิที่จะล้อเลียนผู้อื่น

สิทธิที่จะวิจารณ์ผู้อื่น

บางคนมองว่าการโจมตีผู้อื่นคือสิทธิที่ทำได้เพราะเป็นเสรีภาพ

มันถึงได้มีคลิปโฆษณา "ลาซาด้า-เครปกะเทย" ในเชิงหมิ่นสถาบันออกมา

โดยไม่สำนึกว่านั่นเป็นการละเมิดผู้อื่น

แม้กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จะออกมาช้าไปหน่อย แต่อย่างน้อยเป็นการย้ำหลักการว่า คลิปโฆษณา  "ลาซาด้า-เครปกะเทย" สะท้อนให้เห็นถึงการขาดความตระหนักรู้ในเรื่องการเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้อื่น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้พิการหรือทุพพลภาพ ซึ่งต่างมีคุณค่าในฐานะที่เกิดเป็นมนุษย์เช่นเดียวกันกับบุคคลทั่วไป

ไม่ว่าใครก็ไม่ควรปฏิบัติต่อผู้อื่นโดยที่ทำให้พวกเขามีคุณค่าที่ต่ำลง

แม้ว่าทุกคนมีสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกอันเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน แต่การใช้สิทธิและเสรีภาพเช่นว่านั้น จะต้องไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น

หรือมีผลทำให้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้อื่นด้อยค่าลง

นี่คือหลักการสากลที่ใช้กันทั่วโลก

หากเข้าใจเรื่องนี้ไม่ได้ เราจะยังคงเห็นพฤติกรรมลักษณะนี้ต่อไปเรื่อยๆ

กรณี "ลาซาด้า-เครปกะเทย" ทำให้เห็นปรากฏการณ์ทางการเมืองชัดเจนขึ้น ในหลายแง่มุม

พรรคการเมืองที่มีปัญหากับระบอบการปกครอง โดยอ้างว่าต้องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ คือพรรคก้าวไกล  รวมไปถึงคณะก้าวหน้า ยืนกรานว่า "ลาซาด้า-เครปกะเทย"  คือการใช้เสรีภาพตามปกติ

มองการออกมาแสดงท่าทีของเหล่าทัพว่า เป็นการนำพาสังคมไทยเข้าสู่การไล่ล่าผู้เห็นต่างอย่างบ้าคลั่งระลอกใหม่

แน่นอนครับ กองทัพ ห้าม ลาซาด้า เข้าเขตทหาร  เพราะรับไม่ได้กับการล้อเลียนสถาบันพระมหากษัตริย์

มันคือการละเมิด

ไม่เคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

แต่การแปลความว่าเป็นการยุยงให้มีการไล่ล่าอย่างบ้าคลั่ง น่าจะเป็นความเข้าใจที่ผิดเพี้ยนเพราะความคลั่งในเสรีภาพจนละเมิดสิทธิผู้อื่น

มี ส.ส.ก้าวไกลบางคนที่ไล่ฟ้องบุคคลอื่นที่ใช้สิทธิวิจารณ์ตนเอง ในข้อหาหมิ่นประมาท  

ก็เข้าใจได้ครับ เป็นการใช้สิทธิตามกฎหมาย เพราะมองว่าเป็นการวิจารณ์ที่เกินขอบเขต คือการให้ร้ายโจมตี

ไม่ใช่การติเพื่อก่อ

ในทางกลับกันกรณีที่กองทัพตอบโต้ "ลาซาด้า-เครปกะเทย" พรรคก้าวไกลไม่มีสิทธิ์ไปตัดสินว่า เป็นการล่าแม่มด

แต่ดูเหมือนว่าพรรคก้าวไกลจะเลยเถิดไปกว่านั้น

ถอยหลังไปไกล

"สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา" รองโฆษกพรรคก้าวไกล หยิบเอาเหตุการณ์ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ มาโยงเรื่องกองทัพแบนลาซาด้า ว่าเป็นการปลุกปั่นแขวนคอ

"...สังคมไทยเคยมีบทเรียนความสูญเสียมาแล้วหลายครั้ง จากการปลุกเร้าอารมณ์ของสังคมด้วยข้อกล่าวหาเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์

จึงไม่ควรอย่างยิ่งที่จะปลุกปั่นหรือสร้างละครแขวนคอฉบับใหม่ขึ้นมาใหม่อีก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ ๖ ตุลาคม  ๒๕๑๙ คือความเจ็บปวดของสังคมไทยที่ควรจำเป็นบทเรียนว่าไม่ควรเกิดขึ้นอีกแล้วในสังคมไทย...

...ลาซาด้าจัดทำโฆษณาที่เหมาะสมหรือไม่ ควรปล่อยให้เป็นเรื่องของสังคมได้ถกเถียงเพื่อเติบโตทางความคิดไปด้วยกัน หรือปล่อยกลไกตลาดเป็นผู้คัดสรรสิ่งที่ผู้บริโภคเลือก

เพราะหากแบนกระทำในสิ่งที่เชื่อว่ากระทบกระเทือนความรู้สึกของคนไทยจริง ก็คงไม่จำเป็นต้องรบกวนให้ผู้นำกองทัพต้องออกจากค่ายมาทำในสิ่งที่ไม่ใช่หน้าที่ หรือหากเชื่อว่ามีการกระทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย ขอให้ปล่อยเป็นเรื่องของหน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการ...

...อย่าอ้างเรื่องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์หรือปกป้องผู้พิการ เพราะจนถึงวันนี้กรณี พลทหารประจักษ์ ที่ต้องพิการเพราะถูกซ้อมทรมานในค่ายทหาร ท่านเคยดูแลรับผิดชอบชีวิตของเขาและครอบครัวให้มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์บ้างหรือไม่..."

ครับอ่านกันยาวๆ เพราะสะท้อนทัศนคติของพรรคก้าวไกลต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ได้ชัดเจนขึ้น

ดูเหมือนจะจับแพะชนแกะ จับเรื่องราวต่างกรรมต่างวาระ มาผสมปนเปกัน ธงก็คือ "ปฏิปักษ์" ครับ

กองทัพแบน "ลาซาด้า" ถึงขนาดยอมสร้างวิกฤตประเทศขึ้นมาอย่างนั้นเลยหรือ

ถามจริง หากเกิดละครแขวนคอฉบับใหม่ ใครจะได้ประโยชน์

คิดดีๆ ครับ

นี่เป็นเหยื่อชั้นดีในการฟ้องต่างชาติเพื่อล้มรัฐบาลประยุทธ์เลยนะครับ

จะมีรัฐบาลประเภทไหนกัน ที่ยอมให้มีการสร้างสถานการณ์รุนแรงโดยฝ่ายตัวเอง เพื่อประโยชน์ฝ่ายตรงข้าม 

ถามว่ากองทัพมีสิทธิ์ที่จะแบน "ลาซาด้า" เพราะพฤติกรรมละเมิดสถาบันหรือไม่

เช่นเดียวกันการเมืองฝ่ายตรงข้าม โจมตี "ธนาธร-ปิยบุตร-พิธา" พรรคก้าวไกลมีสิทธิ์ตอบโต้กลับ และทำมาตลอดไม่ใช่หรือ

เห็นด่ากราดหมด

ขนาดศาลรัฐธรรมนูญยังโดนเพราะคำพิพากษาไม่ถูกใจ

การห้ามไม่ให้กองทัพ อ้างเรื่องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์หรือปกป้องผู้พิการ เพราะกรณีพลทหารประจักษ์ ต้องถามกลับว่าพรรคก้าวไกลเห็นด้วยอย่างนั้นหรือกับการนำผู้พิการมาล้อเลียน

ทุกฝ่ายมีสิทธิ์ อ้างเรื่องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ครับ  เพราะเป็นหลักสากล จะมาผูกขาดฝ่ายเดียวได้อย่างไร

อีกคน "ชลน่าน ศรีแก้ว" กู่ไม่กลับเช่นกัน

"มีคนกลุ่มหนึ่งตั้งข้อสังเกตว่าจะเอาเหตุการณ์การบอยคอต แอปลาซาด้า กระตุ้นให้เกิดการต่อต้านหรือการชุมนุมประท้วง และก่อให้เกิดรัฐประหารหรือเปล่า"

ความเห็นแบบนี้คือ...ปัญญาอ่อนครับ

คนเป็นรัฐบาลอยู่ดีๆ จะมาสร้างเงื่อนไขให้เกิดรัฐประหาร ดูอย่างไรก็สิ้นคิด

รัฐประหารใคร รัฐประหารทำไม หากใช้สมองคิดเสียก่อน จะไม่พูดออกมาแบบนี้

ครับ...การเมืองมาถึงจุดสมองมีไว้เพื่อคั่นหูได้อย่างไรกัน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นักโทษ'ตรวจการบ้าน

ยกประเทศให้ไปเลยดีมั้ยครับ นานๆ ประชดที เพราะทนเห็นบางคนยังใช้สันดานเดิม เป็นสันดานที่ทำให้ต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศนานถึง ๑๗ ปีไม่ได้

เลือกคุกจะได้คุก

ว่อนสิครับ! หนังสือจาก "เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ" ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี

ตายหมู่ไปกับ 'ดิจิทัลวอลเล็ต'

ในที่สุดก็ชัดเจน ถือเป็นความรับผิดร่วมกันของคณะรัฐมนตรี โดยมิอาจมีใครปฏิเสธในภายหลังได้เลยว่า ไม่มีส่วนรับรู้กับนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ให้ประชาชนหัวละ ๑ หมื่นบาท ด้วยงบประมาณกว่า ๕ แสนล้านบาท

มันมากับความเงียบ

งานเลี้ยงใกล้เลิกรา... สมาชิกวุฒิสภาชุดปัจจุบันจะหมดวาระลงเดือนพฤษภาคมนี้แล้วครับ

แผนแทรกแซงกองทัพ

ก็ยังไม่เห็นว่าหน้าตาชัดๆ เป็นอย่างไร หมายถึงกฎหมายต้านการปฏิวัติรัฐประหารครับ