ว่าด้วยความลุ่มลึกของกฎแห่งธรรมชาติ

    การหาคำตอบ คำอธิบาย ไม่ได้ถนัดชัดเจน ว่าด้วยเหตุผลกลใด สิ่งนี้-สิ่งนี้ มันถึงได้อุบัติขึ้นมา จนทำให้ สิ่งนี้-ต้องเป็นไป เลยทำให้เรื่องของ โชคชะตา-ฟ้าลิขิต หรือ พรหมลิขิต จึงเป็นอะไรที่ยังคงเข้มขลัง ศักดิ์สิทธิ์ ชนิดต้องหันไปหาคำตอบเอาจาก ดวงดาว จากการเคลื่อนไหว-ไปมาของ จักรราศี ในแต่ละรูป แต่ละแบบ หรือแม้กระทั่งต้องหันไปกราบไหว้ บูชาต้นไม้ ใบหญ้า วัตถุ รูปเคารพ ไปจนสิงสา ราสัตว์ หรือแม้แต่  คุณวรนุสท้องแก่ เอาเลยก็ไม่แน่!!!

    โดยเฉพาะบรรดาคนโบร่ำ-โบราณทั้งหลาย ที่อาจมองไม่เห็นถึงความเกี่ยวข้อง เชื่อมโยง ของสรรพสิ่งต่างๆ ได้แบบถนัดชัดเจน ด้วยเหตุเพราะโลกมันยังไม่ถึงกับกว้างขวางใหญ่โต ไม่สามารถข้ามฟ้า ข้ามอากาศ ได้เหมือนกับโลกยุคใหม่ สมัยใหม่ หรือยุคอิเล็กทรอนิกส์ ยุคเทคโนโลยี

เช่นในทุกวันนี้ บางครั้ง-บางครา เลยต้องหาคำตอบ คำอธิบาย เอาจาก กระดูกสัตว์-เครื่องในสัตว์ เช่นเอากระดูกมาทำให้แตก แล้วนำเส้นสาย ลายเส้นภายใน มาใช้เป็นคำตอบ คำอธิบาย หรือนำรายละเอียดในตับ ไต ไส้ พุง ของแพะ ของแกะ มาแปลความถอดความจนกลายเป็น คนละเรื่องเดียวกัน ไปจนได้...

    ไม่งั้น...ก็อาจต้องหันไปพึ่งพาสิ่งลึกลับ ที่ออกจะอยู่เหนือไปจากสิ่งที่ปุถุชนคนธรรมดาสามารถรับรู้ได้ สัมผัสได้ เช่นบรรดาภูต ผี ปีศาจ ดวงวิญญาณ หรือเทพเจ้าในแต่ละประเภท ฯลฯ แต่ครั้นเมื่อสิ่งต่างๆ มันได้ถูกทำให้กระจ่างแจ้ง ชัดเจนยิ่งขึ้น จะด้วยการสั่งสมประสบการณ์ หรือด้วยความรับรู้ใดๆ ก็แล้วแต่ การอุบัติขึ้นมาของ สิ่งนี้-สิ่งนี้ มันเลยเป็นสิ่งที่พอเข้าใจได้ ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ได้ปราศจากที่มา-ที่ไป เพียงแต่ว่าบรรดาเราๆ-ทั่นๆ ทั้งหลาย อาจยังค้นหามันไม่เจอ หรืออาจยังมองไม่เห็นว่ามันมีความเกี่ยวข้อง โยงใย มีความเกี่ยวพันในแบบไหน? อย่างไร? ถึงขั้นที่ทำให้ สิ่งนี้-ต้องเป็นไป ตามกฎเหล็กแห่งธรรมชาติ หรือกฎอิทัปปัจจยตา-ปฏิจจสมุปบาท กันจนได้...

    เพราะอย่างที่บรรดาพวกนักวิทยาศาสตร์ นักนิเวศวิทยาทั้งหลาย เขาเคยเอ่ยคำพูดแบบเท่ๆ เก๋ๆ เอาไว้นั่นแหละ ประมาณว่าแค่ ผีเสื้อขยับปีก ก็อาจ กระเทือนไปถึงดวงดาว เอาเลยถึงขั้นนั้น!!! ดังนั้น...โอกาสที่จะสืบสาว ราวเรื่อง ไปถึงผีเสื้อแต่ละตัว ว่ามันขยับปีกกันในตอนไหน? เมื่อไหร่? และอย่างไร? เลยเป็นเรื่องที่ออกจะน่าปวดหัว เวียนเฮด เอามากๆ แต่ด้วยเหตุเพราะความเกี่ยวโยง เกี่ยวพันของสรรพสิ่งต่างๆ ที่มิอาจแยกขาดออกจากกันได้เลย มีแต่จะทำปฏิกิริยาต่อกันและกันไม่ว่าในทางหนึ่ง-ทางใด ไม่ว่า บวก หรือ ลบ ย่อมเป็นไปได้ทั้งสิ้น อันถือเป็นส่วนหนึ่ง-ส่วนสำคัญ หรือเป็น แก่นสาระ ของ กฎแห่งธรรมชาติ เอาเลยก็ว่าได้...

    การหาทางควบคุม บังคับ ไม่ให้ผีเสื้อตัวหนึ่ง ตัวใด มันขยับปีกกันในตอนไหน? จังหวะไหน? จึงออกจะเป็นเรื่องยากลำบากเอามากๆ หรือแทบเป็นไปไม่ได้เอาเลย มีแต่ต้องหันมารับมือกับ ผลกระทบ ไม่ว่าในทางหนึ่ง-ทางใด ไม่ว่าจะเกิดจากการขยับปีก กระพือปีก ในลักษณะใดๆ ก็แล้วแต่ มันถึงจะพอก่อให้เกิดความมั่นคง ปลอดภัย หรือความยั่งยืนขึ้นมาได้จริงๆ ยิ่งถ้าหากสามารถยกระดับตัวเองไปไกลถึงขั้น เหนือบวก-เหนือลบ เหนือไปจาก ธรรมชาติแห่งการปรุงแต่ง ทั้งหลาย ยิ่งมีแต่จะยืนยง คงทน ไม่ต่างไปจาก ฟ้า และ ดิน อย่างที่ท่านปรมาจารย์ เหลาจื๊อ ท่านว่าไว้นั่นแหละว่า เหตุที่ฟ้าและดินต่างอยู่ยง คงทน ก็ด้วยเหตุที่ฟ้าและดิน ไม่ได้อยู่เพื่อ ตัวเอง แต่อยู่เพื่อ ผู้อื่น นั่นแหละเป็นหลัก...

    ไม่งั้น...โอกาสที่จะ บวก จะ ลบ ไปตามกระแสความเป็นไป ที่ขึ้นๆ-ลงๆ หรือที่ยากจะหา ที่มา-ที่ไป ได้ถนัดชัดเจน มันเลยกลายเป็น ข้อเท็จจริง...อันมิอาจปฏิเสธ อันเนื่องมาจากทุกสรรพสิ่งภายในโลกใบนี้ มันต่างมี ปฏิสัมพันธ์ ต่อกันและกันไปด้วยกันทั้งสิ้น ชนิดเพียงแค่ ผีเสื้อ ตัวเล็กๆ ตัวหนึ่ง ดันขยับปีกขึ้นมา ก็อาจ กระเทือนไปถึงดวงดาว จนได้ ความเกี่ยวข้อง โยงใย พัวพัน กันในลักษณะดังกล่าว โดยจะเรียกว่า ศาสนา หรือ วิทยาศาสตร์ ก็ย่อมได้ เพราะต่างพยายามเปิดเผยให้เห็นถึงกฎเกณฑ์ความเป็นไปของธรรมชาติ หรือกฎเหล็กแห่งธรรมชาติ อย่างถนัดชัดเจนยิ่งเข้าไปทุกที โดยเฉพาะศาสนาพุทธของหมู่เฮาทั้งหลาย ที่ได้อรรถาธิบายสิ่งเหล่านี้ไว้ใน กฎอิทัปปัจยตา-ปฏิจจสมุปบาท นั่นแล...

    ด้วยเหตุนี้...แม้ว่า สิ่งนี้-สิ่งนี้ ที่อุบัติขึ้นมาในชนิดแทบไม่ต่างอะไรไปจาก โชคชะตา หรือ พรหมลิขิต อาจทำให้เราๆ-ทั่นๆ ทั้งหลาย เกิดความรู้สึกเหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า โศกเศร้า เคล้าน้ำตา ระทดท้อ ห่วงหา-อนาทร ฯลฯ กันไปเป็นรายๆ แต่ก็อย่าถึงกับต้องไปสับสน มึนซ์ซ์ซ์-งงง์ง์ง์ ให้มากมายเกินไปกว่านี้ สู้หันมายืนหยัด มั่นคงกับการรับมือกับ ผลกระทบ ใดๆ ก็ตามที่แม้ยากจะหาคำตอบ คำอธิบาย แต่สามารถก่อให้เกิดความยืนยง คงทน เกิดการดำรง คงอยู่ ไม่ต่างไปจาก ฟ้าและดิน ด้วยการยึดมั่นอยู่ในศีล-ในธรรม ด้วยก้าวเดินไปตาม ครรลอง-คลองธรรม อย่างมิคิดผันแปรไปเป็นอื่นโดยเด็ดขาด...

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ยโสโอหังไม่ฟังใคร ไม่สนใจกระแส...คิดว่าแจงได้

อ่อนอกอ่อนใจจริงๆ กับสถานการณ์บ้านเมืองเวลานี้ ตั้งแต่ถ้อยคำ วาจา ท่าที ลีลาการหาเสียงของคนที่ถูกวางตัวว่าวันหนึ่งจะได้เป็นผู้นำประเทศ ตะโกนด้วยสุ้มเสียงมั่นอกมั่นใจในสิ่งที่พูด ท

สูตรแต่งตั้งตำรวจ

กว่าจะเคาะ กว่าจะคลอด ก็นั่งนับนิ้วกันแทบหงิก เพราะ 180 วัน ตามเงื่อนไขการบังคับใช้กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2567

ฤาประเทศไทยจะไร้สีสวย มีแต่สีแสบ

ประเทศไทยอยู่ในสภาพความขัดแย้งระหว่างสีเสื้อมาเกือบ 2 ทศวรรษแล้ว แม้เวลานี้เราจะมีรัฐบาลผสมแบบข้ามขั้ว แต่เราก็ยังไม่เห็นบรรยากาศของความปรองดองเกิดขึ้นอย่างแท้จริง

โลกที่'อันตราย'กับภารกิจของ'คนรุ่นใหม่'

เห็นข่าวเรื่อง ดร. ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม อาจารย์ภาควิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ท่านออกมาโพสต์